The Wishlist (UOB x KΔNT 5 Dream Destinations)

[The Wishlist] – แพลนความคิด ใช้ชีวิตอย่างใจ

Ep. 05: UOB x KΔNT 5 Dream Destinations ฝันให้ไกล สะพายกล้องไปตามฝัน

.

จะหยุดยาวอีกแล้ว มีแผนเที่ยวกันหรือยัง?

มาหาไอเดียจาก 5 ทริปสุดฟินของ KΔNT ช่างภาพและนักเดินทางกันดีกว่า เผื่อจะใช้แพลนทริปฮีลร่างและใจรับสิ้นปี หรือเป็น Wishlist ของปีหน้าก็ดีไม่แพ้กัน

ด้วยความที่ผมเป็นทั้งนักเดินทาง และช่างภาพ ทำให้มีโอกาสเที่ยว และถ่ายรูปมุมสวยๆ มาโพสต์บ่อยเสียจนหลายคนบอกว่า ชีวิตดีจัง! ได้เจอแต่สิ่งสวยๆ งามๆ
.
กว่าจะได้ภาพสวยๆ มุมเด็ดๆ นั้น จุดเริ่มต้นสำคัญก็คือการวางแผนครับ ยิ่งเราอยากจะได้ภาพที่เป๊ะเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องวางแผนให้ละเอียดเท่านั้น ตั้งแต่การวางเส้นทาง การเดินทาง ที่พัก มุมกล้อง ช่วงเวลาในแต่ละวัน แสง ดินฟ้าอากาศ ฤดูกาล ไปจนถึง budget ว่ามีเท่าไหร่ อ้อ! และสภาพร่างของเราด้วย เพราะบางทริปเส้นทางก็แอบโหดอยู่ซะหน่อย
.
ปี 2019 นี้ ผมเดินทางเยอะมาก แต่มี 5 ทริป ที่ตั้งใจไว้เลยว่า ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่ๆ อยากจะแชร์กันครับ

ก่อนวางแผนทุกทริป ผมเริ่มจากการตั้งเป้าหมาย เช่น รอบนี้อยากเที่ยวสบาย ได้เดินถ่ายรูปสวยๆ รอบนั้นอยากลุย ผจญภัย หรือรอบไหนอยากจัดเต็มเป็นทริปตระเวนกิน แล้วก็ระดมเสิร์ชจนมั่นใจในข้อมูล จากนั้นก็ลงมือจองทุกสิ่ง แค่นี้ก็พร้อมออกเดินทาง และเปิดหู เปิดตา เปิดใจไปสัมผัสประสบการณ์และเรื่องราวใหม่ๆ แล้วครับ

#DreamDestination1
“ภูฏาน” เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า ใช้ดัชนีความสุขมวลรวม เป็นตัววัดการเติบโตของประเทศ และเป็นประเทศที่เที่ยวไม่ยาก … แต่ก็ไม่ง่าย
.
การวางแผนเริ่มตั้งแต่ไฟล์ทบินเลยครับ ตอนนี้มีไฟล์ทบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปสนามบินพาโร ของภูฏาน 2 สายการบินครับ คือภูฏานแอร์ไลน์ และดรุ๊กแอร์ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเมื่อเครื่อง landing ภาพช็อตแรกที่ไม่อยากให้พลาด คือ อาคารผู้โดยสารซึ่งเป็นอาคารที่คงเอกลักษณ์ของภูฏานไว้

การเที่ยวในภูฏาน ถ้าต้องการความสะดวกสบาย แนะนำให้ติดต่อเอเจนท์ทัวร์เพื่อหาไกด์และรถนำเที่ยวก่อนเลยครับ เราสามารถแจ้งงบประมาณไปได้เลยว่า อยากพักโรงแรมกี่ดาว (ล่าสุด โรงแรมเดอะซิกส์เซนส์ ภูฏานเปิดแล้วนะครับ) โซนที่นิยมเที่ยวกันคือ ภูฏานตะวันตก (West of Bhutan) ครับ ซึ่งเป็นฝั่งที่เจริญที่สุดในภูฏาน โดยมี “ทิมพู” เมืองหลวงเป็นจุดกึ่งกลาง ซึ่งห่างจากสนามบินลัดเลาะมาตามไหล่เขาราว 1 ชั่วโมง

ไฮไลท์ของการเที่ยวภูฏาน นอกจากจะไปชมวัง หรือที่เรียกว่า “ซองก์” แล้ว อีกสถานที่ที่เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยว ก็เห็นจะเป็น “วัดตั๊กซัง” บางคนเรียก “วัดถ้ำเสือ (Tiger’s Nest) หรือ “วัดรังเสือ” วัดตั๊กซัง เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวภูฏาน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย

การเดินทาง รถจะวิ่งเข้ามาในป่าสน และจอดตรงตีนเขา มองไปไกลลิบๆ เบื้องหน้าจะเห็นหมู่อาคารสูงอยู่บนนั้น นั่นแหละครับ … “วัดตั๊กซัง” ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันราว 3,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล การเดินทางขึ้นวัดตั๊กซังจะมี 2 แบบ คือ เดินขึ้น พร้อมกับไม้เท้าอาวุธคู่กาย หรือบางคนอาจจะให้ไกด์จองนั่งตัวล่อ หรือ ลา หรือม้า ราคา $14 (จองล่วงหน้า 2 วัน) ขอเรียกรวมกันทีเดียวว่า “ม้า” ละกันนะครับ

ม้าจะรับเราจากตีนเขา ในตอนนั่งม้า สิ่งสำคัญคือการทรงตัวครับ ทำตัวผสานไปด้วยกันทั้งคนทั้งม้า อย่าฝืนใจม้า อย่าทำตามใจตัวเอง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ครับ บนเขาจะมีจุดพักทั้งของคน (เดิน) และของม้า

บรรยากาศก็สวยงามตามท้องเรื่อง ชมป่าสนสองข้างทางระหว่างเดินขึ้นเขา ชื่นชมความงามของต้นโรโดเด็นดรอน พอเดินขึ้นเขาสูงอีกหน่อยก็จะเห็น “มอสสเปน” พวงขาวราวน้ำค้างเกาะห้อยระย้าลงมา

ตัดสลับกับภาพของธงมนตราที่แขวนเป็นทิวแถว โบกสะบัดไปตามแรงลมที่พัดผ่านช่องเขา ยิ่งขึ้นสูง พันธุ์ไม้จะเริ่มแปลกตา จะเป็นไม้เมืองหนาวของป่าดิบเสียมาก ผมใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมงก็จะเดินถึงบนวัดตั๊กซังครับ

หลายคนกังวลว่า มาภูฏานจะทานอะไรไม่ได้เลย (กลัวผอมแย่) แต่เอาเข้าใจจริง โรงแรมขนาดใหญ่ในภูฏาน สามารถทำอาหารยุโรปได้ ผสมผสานกับอาหารท้องถิ่นซึ่งรสชาติก็ไม่ได้แปลกลิ้นเกินไป เช่น แกงอิมาตาชิ (แกงพริกใส่ชีส) เกี๊ยวสไตล์ภูฏาน แกงไก่ใส่เครื่องเทศ เป็นประสบการณ์ใหม่ให้ได้ลิ้มลอง ถือเป็นสีสันของทริปนะครับ

#DreamDestination2
“เลห์ ลาดัก” อีกหนึ่งจุดหมายในฝัน ที่เที่ยวไม่ยาก แถมยังสวยมากอีกด้วย
.
จะเที่ยว ลาดัก ต้องเตรียมตัวให้ดี อย่างที่เกริ่นไป ถ้าจะเที่ยวให้สนุกต้องวางแผน ยิ่งหนทางทรหด แต่เรายังอยากเที่ยวสนุก และสบาย ก็ต้องยิ่งทำการบ้าน

ฤดูท่องเที่ยวที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือนเมษายน ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคมครับ เพราะหลังจากนั้น ทั้งเมืองของลาดัก จะถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้เดินทางลำบากขึ้น ร้านรวงก็ปิดทำการ โรงแรมแทบไม่รับแขกเลยครับ ช่วงนั้นจึงไม่เป็นที่นิยม

เลือกช่วงเวลาได้แล้ว ก็เริ่มขอวีซ่าอินเดียออนไลน์ แล้วติดต่อหาไกด์ พร้อมคนขับรถ การมีคนท้องถิ่นมาเป็นไกด์ ช่วยติดต่อประสานงาน ดูแลเรื่องเอกสาร ข้าวปลาอาหาร ร้านค้าแนะนำ โรงแรมที่พัก ทริปของเราก็จะสะดวกสบายและราบรื่นครับ ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงหน่อย แต่ถ้าวางแผนมาดีๆ ผมว่าคุมงบได้สบาย

ตอนนั่งรถ อย่าลืมจองที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับนะครับ เพราะเลห์ ลาดัก ถ่ายรูปออกมาสวยจริงๆ ใครที่ชอบแนวธรรมชาติ ภูเขา ลำธาร ต้นไม้ หิมะก็จะพบว่าทุกอย่างที่นี่ดูยิ่งใหญ่อลังการ เป็นงานธรรมชาติสรรค์สร้างสวรรค์บนดินให้เรา

ส่วนตัวผมพอมาถึง เช้าวันแรก ผมเข้าโรงแรมไปพักผ่อนก่อนเลย เอาแบบให้ได้นอนจริงๆ นะครับ การนอนให้พอสำคัญมาก ไม่งั้นเราจะเพลียมากกว่าปกติและจะพลอยไม่สบายเอาได้ ยิ่งคืนก่อนหน้าเราอดนอนมาจากการนั่งเครื่องบินข้ามคืน ยิ่งต้องนอนพักให้ได้เยอะๆ ตื่นมาสักบ่ายๆ ค่อยหาอะไรทาน

วิธีทานอาหารที่นี่คือเคี้ยวให้ละเอียดทานให้ช้าๆ เน้นทานผักเยอะๆ จะช่วยให้ย่อยง่าย ไม่ใช้ออกซิเจนมากเกินไป วันแรกอาจจะแปลกๆ ปวดหัวหน่อยๆ แต่เมื่อปรับตัวให้เข้ากับความสูง 3,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลได้ วันที่เหลือต่อๆ ไปก็สบายๆ ครับ

#DreamDestination3
“Morocco (โมร็อกโค)” เป็น Dream Destination สำหรับคนที่อยากไปสัมผัส “ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก” หรือซาฮารา ที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ เราจึงเรียกที่นี่ว่า “ดินแดนฟ้าจรดทราย”

โมร็อกโค มีความแตกต่างทางสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย อากาศจึงมีทั้งร้อนหนาว ปนกันไป ต้องเช็กให้ดี เพราะช่วงที่อากาศร้อนจะปาเข้าไปเกือบ 50 องศา ส่วนเวลาอากาศหนาว อุณหภูมิจะแตะเลขตัวเดียวและมีหิมะ ดังนั้น จะเที่ยวโมร็อกโคให้สนุก ได้รูปถ่ายออกมาอย่างใจ ต้องวางแผนให้ดีครับ

บางคนสงสัยว่าอาหารเค้าเป็นยังไง ที่นั่นนิยมทานทาร์จีน จะคล้ายๆ กับไก่ย่าง ปลาย่าง เนื้อย่าง เอาไปหมักกับเครื่องเทศแล้วอบในหม้อดิน โดยมีฝาปิดเหมือฝาขนมครกบ้านเรา ถ้าคิดถึงอาหารที่คุ้นปาก ก็มีร้านอาหารจีน ร้านอาหารยุโรปอยู่บ้างครับ ถ้าอยากแวะ ต้องวางเส้นทางให้ดี
.
ในทริปนี้ ผมก็ใช้บริการไกด์พาเที่ยวพร้อมคนขับรถอีกเช่นเคยครับ เพราะสะดวกสบายกว่า ทริปนี้ผมเที่ยว 12 วัน ซึ่งผมว่ากำลังดี ส่วนแผนการเดินทางของเรา จะเที่ยวเป็นวงกลม ไล่ไปตั้งแต่ Casablanca > Tangier > Chefchaouen > Meknes > Fes > Ifrane > Merzouga > Erfoud > Tinerhir > Ouarzazate > Marakesh แล้วไปขึ้นเครื่องกลับที่ Casablanca เมืองเดียวกับตอนขามา

ที่ที่ผมชอบมากที่สุดในทริปโมร็อกโค คือการได้ไปเที่ยว Aït-Ben-Haddou เมือง Ouarzazate เมืองมรดกโลก และเป็น 1 ใน 38 สถานที่จริงที่ใช้ถ่ายทำ Game of Thrones ซีรีย์โปรดของผมและใครหลายคน หากจำฉากที่เป็นเส้นทางของ Daenerys Targaryen เดินทางผ่านอ่าวคนค้าทาส และเมืองอิสระอย่าง Yunkai และ Pentos ฉากนี้ถูกแปลงจากสถานที่ที่มีอยู่จริง

อีกสถานที่ที่เป็น Hidden Gem คือสวนจาร์ดีน มาจอแรล (Jardin Majorelle) หรือ สวน Yves Saint Laurent ชื่อนี้คุ้นๆ ไหมครับ? Yves St. Laurent นักออกแบบแฟชั่นดีไซน์แห่งปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสวนแห่งนี้ เดิมทีบ้านหลังนี้เคยเป็นของเศรษฐี แห่งมาราเกช หลังจาก Yves St. Laurent มาเยือนมาราเกชก็ได้เกิดความหลงใหลในเมืองแห่งนี้ และซื้อบ้านหลังนี้ไว้เป็นที่พักผ่อนหลังจากเคร่งเครียดจากงานออกแบบ

โมร็อกโค จึงเป็น Dream Destination ที่นับว่าครบเครื่อง ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ ชมทิวทัศน์สวยงาม สถาปัตยกรรม ศิลปะที่สวยงาม ถ้ามีโอกาส ผมจะมาอีกแน่นอนครับ

#DreamDestination4
“ญี่ปุ่น” เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนญี่ปุ่นก็จะเข้าสู่ high season แล้วครับ เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แต่ละเมืองก็จะสวยสดใสเป็นพิเศษ เป็นช่วงที่เหมาะมากกับการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น

ปกติเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น หลายคนอาจชอบเดินทางโดยรถไฟ รถสาธารณะ แต่สำหรับบางเมืองโดยเฉพาะต่างจังหวัด รถไฟอาจจะไม่เหมาะ เพราะไหนจะต้องลากกระเป๋า หาที่ฝาก นั่งรถอีกหลายต่อ เที่ยวเสร็จก็อาจจะต้องกลับมาเอากระเป๋า แล้วต้องมารอรถเที่ยวต่อไปอีก การขับรถเที่ยวไป ถ่ายรูปไป จะลงตัวกว่า ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่าอยากจะสโลว์ไลฟ์ ใช้ชีวิตชิลๆ กับความงดงามของธรรมชาตินะครับ
.
ยิ่งเข้าไปในป่า หรือออกนอกเมืองไปไกลๆ ใบไม้ยิ่งสีสวย แดง เหลือง ส้ม เขียว ตัดสลับกับสีของท้องฟ้า ดูแล้วสบายตาและน่าไปเที่ยวมาก อยากแวะจอดถ่ายรูปตรงไหนก็ทำได้สบายๆ แต่ระวังเรื่องการจอดรถในที่ห้ามจอดด้วยนะครับจะมีป้ายสัญลักษณ์บังคับเอาไว้

ผมชอบขับรถเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ทุกปีครับ ที่ชอบเป็นพิเศษคือภูมิภาคโทโฮคุ พูดง่ายๆ ก็ภาคอีสานของ ญี่ปุ่น ช่วงใบไม้เปลี่ยนจะสวยเป็นพิเศษ

เวลาใครถามว่าไปญี่ปุ่นพักเรียวกังที่ไหนดี ผมแนะนำ Takaragawa Onsen Osemkaku ตั้งอยู่ที่จังหวัดกุนมะ เป็นเรียวกังที่เก่าแก่อายุเกือบ 90 ปีและขึ้นชื่อว่าจองยากมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

Takaragawa Onsen มีต้นน้ำจาก Tonaegawa กระแสน้ำร้อนธรรมชาติที่ไหลผ่านเรียวกัง Osenkaku ให้เราได้แช่กายสบายใจใน 4 บ่อ outdoor ท่ามกลางบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงามราวกับภาพวาด และที่สำคัญ จะได้ประโยชน์ด้านสุขภาพจากน้ำแร่และผิวพรรณที่ดีจากออนเซ็นแห่งนี้อีกด้วย

จริงๆ ญี่ปุ่นอาจไม่ใช่ประเทศที่แปลกใหม่ แต่เชื่อผมเถอะครับ ถ้าเราศึกษาข้อมูลของสถานที่ที่เราจะไปมากหน่อย ประกอบกับวางแผนการท่องเที่ยวให้ดี และเหมาะสมกับความต้องการของเรา เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์น่าประทับใจอย่างแน่นอนครับ

#DreamDestination5
“เส้นทางสายไหม” เป็นทริปที่กานต์ประทับมากทริปหนึ่งครับ เพราะไปยาก เส้นทางท่องเที่ยวหลากหลาย ซึ่งล้วนแต่เป็นการต่อเครื่องด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นต้องวางแผนทริปดีๆ
.
แผนการเดินทางจะเป็นแบบนี้ครับ เริ่มจากกรุงเทพ > เฉิงตู > อูรูมูฉี > ทูรูฟาน > ฮามี่ > ตุนหวง > เจี่ยยวี่กวาน > จางเย่ > หลันโจว > เฉิงตู > กรุงเทพ
.
ผมเลือกการบินไทยมาลงเฉิงตู แล้วต่อเครื่องเสฉวนแอร์ไลน์ มาลงอูรูมูฉี เมืองเอกของซินเจียง ใช้เวลานานพอๆ กับบินจากเมืองไทยมาจีน เรียกได้ว่า ต้องยอมสละวันแรกไปกับการนั่งเครื่องบินจริงๆ 

เมื่อเข้าสู่จีน ผมเลือกใช้เส้นทางสายเหนือ โดยมีช่วงเมืองตุนหวงเป็นไฮไลท์ แต่เป็นการเที่ยวย้อนเส้นทาง เพื่อความสะดวกในเรื่องของเครื่องบิน โดยเริ่มจากอูรูมูฉี มุ่งหน้าไปยังถูลู่ฟาน

แวะเที่ยวเมืองโบราณ “เจียวเหอกู่เฉิน” อายุกว่า 1,300 ปี ไปชม “คานเอ๋อจิ่ง” ระบบชลประทานใต้ดิน โดยการขุดคลองน้ำใต้ดินต่อมาจากภูเขาหิมะที่ละลายให้ไหลลงมา

แวะเที่ยว “ภูเขาเปลวเพลิง” แฟนนวนิยาย “ไซอิ๋ว” รู้จักดี เพราะเป็นตอนที่ซุนหงอคงไปขอยืมพัดศักดิ์สิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเปลวเพลิงเพื่อให้พระถังซำจั๋งได้เดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดียต่อจากฮามี่

วกไปที่ตุนหวง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู่ เมืองชุมทางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต โดยมีไฮไลท์คือ “สระน้ำพระจันทร์เสี้ยว” โอเอซิสกลางทะเลทรายที่น้ำไม่เคยแห้งเหือดหาย และการขี่อูฐชมทะเลทรายหมิงซาซาน ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินทรายสูงพอสมควร ตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพถูกพายุทราย พัดกระหน่ำ และถูกฝังทั้งเป็นทั้งกองทัพในโบราณกาล จึงทำให้มีเสียงประหลาดเกิดขึ้น เมื่อเราลื่นลงจากยอดเขา ที่นี่คนจึงนิยมไปเล่นกระดานลื่นไถลลงจากยอดเขาสู่เชิงเขา เพื่อจะได้ยินเสียงประหลาดที่ว่านี้

ต่อมาได้ไปชม “ถ้ำโม่เกาคู” ซึ่งเป็นภูเขาที่ขุดเจาะหน้าผาจนกลายเป็นถ้ำ มีภาพเขียนสีเฟรสโก้ จากนั้นไปเที่ยวเมืองเจียยวี่กวาน ชมด่านหรือป้อมปราการสุดท้ายของกำแพงเมืองจีนทางด้านทิศตะวันตก นั่งรถต่อไปเมืองจางเย่ ถ่ายรูปกับโขดภูหินทรายแดงหลากสี “หวู่ไฉ่ซาน” สันนิษฐานว่ามีอายุยาวนานกว่า 2 ล้านปี ผ่านการกรัดกร่อนจากธรรมชาติ สายลม แสงแดดและความแห้งแล้งของภูมิประเทศ เผยให้เห็นถึงชั้นของแร่ธาตุใต้ดินที่เป็นริ้วลายหลากสีสัน (มองแทบตายกว่าจะเห็นว่ามัน … เออ!! แดงก็แดง)

ที่นี่อาหารอร่อยในใจผมต้องยกให้สุกี้จีน หรือ Hot Pot ครับ มีหลายร้านเลย เป็นต้นตำรับมาจากมณฑลเสฉวน วัตถุดิบสด อร่อย แต่เสน่ห์คือน้ำจิ้มที่ต้องปรุงเอง ดังนั้น จะอร่อยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปรุงของเราล้วนๆ เลยครับ

“เส้นทางสายไหม” ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องของการค้าเท่านั้น แต่ยังได้ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งวิทยาการ ศิลปะ วัฒนธรรม ชาติพันธุ์วรรณา ศาสนาด้วย ทำให้ผมได้สัมผัสครบทุกอย่างเลยครับ ทริปนี้ ถือว่า ลุยมากและสนุกมากครับ มีทั้งโกบี มีทั้งทะเลทราย มีขี่อูฐด้วย ทริปลุยแต่ไม่ถึงกับโหดแบบนี้ แนะนำให้วางแผนเส้นทางดีๆ ก็จะช่วยให้ทริปนี้สนุกขึ้นอีกมากเลยครับ

เป็นยังไงบ้างครับ 5 Dream Destinations ของผม?
.
ผมเชื่อว่าทั้งเรื่องการเดินทางและถ่ายภาพนั้น ยิ่งวางแผนดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งคุ้มค่าและพาเราไปพบกับความประทับใจและน่าจดจำเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ต่างกับเรื่องอื่นๆ ในชีวิตนะครับ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ ยิ่งเราเริ่มวางแผนเร็ว ก็ยิ่งได้เปรียบ และถ้าไม่ถนัด ก็หาข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหมือนไกด์ท้องถิ่นที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายและสะดวกขึ้นนะครับ

ผมอยากแนะนำ UOB Privilege Banking ซึ่งเค้าดูแลลูกค้าโดยมี Client Advisor ที่ไม่ได้มาคนเดียว แต่มาเป็นทีมซึ่งประกอบไปด้วยผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน การลงทุน ประกัน และสินเชื่อ เพื่อให้คำแนะนำได้อย่างรอบด้าน และมีบัญชีเงินฝากสำหรับลูกค้า Privilege Banking โดยเฉพาะที่ให้ดอกเบี้ยมากกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วๆ ไปถึง 4-6 เท่าเลยครับ
.
นอกจากนี้ UOB Privilege Banking เค้าก็มีสิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์มาช่วยให้ชีวิตดีขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าชอบเดินทางอย่างผม ก็จะแฮปปี้กับบริการรถลิมูซีนรับส่งที่สนามบิน และห้องรับรองพิเศษ Royal Silk Lounge นะครับ

UOB Privilege Banking สาขา Icon Siam สาขานี้อยู่ใกล้บ้านผม เลยใช้บริการบ่อย สาขานี้สวยมากกกก ยอมใจเลยครับ ตกแต่งแบบ Modern Luxury มีความหรูหรา ทันสมัย ผสมความเป็นไทยประยุกต์เข้าไป ฉีกภาพธนาคารแบบเดิมๆ ออกไปจากหัวผมเลยครับ
.
สบายไปอี๊กกกกกก วางแผนดี มีตัวช่วยดี ชีวิตก็ดีแบบนี้ล่ะครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน