พาไปเที่ยวอ่าวท่าเลน กระบี่ #Unseen
แหล่งพายเรือคายัคติดอันดับโลกที่ต่างชาตินิยมมา
แต่ว่าคนไทย … ไม่ค่อยรู้จัก
กระบี่ทริปนี้ กานต์ประทับใจที่ได้ไปพายเรือคายัคในท่าเลน ซึ่งเป็นอ่าวขนาดเล็ก อยู่ทางทิศตะวันตกห่างจากตัวเมืองกระบี่ ประมาณ 30 กิโลเมตรครับ แต่ผมแนะนำว่ามาที่นี่โดยวิธีการนั่งเรือจากรีสอร์ตมาจะสะดวกกว่า
ผืนป่าชายเลนแห่งนี้ มีพื้นที่กว่า 3,700 ไร่ ได้ชื่อว่าเป็น “มหัศจรรย์ป่าชายเลน ท่าเลน แคนยอนเมืองไทย” บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกาโหรดและป่าคลองหิน และบางส่วนเป็นป่าชายเลน
ผมแนะนำเลยสำหรับใครที่อยากมาพายคายัค ต้องมาแต่เช้ากินข้าวแล้วลงเรือเลย เพราะเป็นเวลาน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงและแดดไม่ร้อนจนเกินไป จะได้ชมธรรมชาติอันสวยงามอย่างสบายๆ
เรือหางยาวจะไปส่งเราที่ชุมชนท่าเลนเพื่อไปติดต่อเช่าเรือคายัคกันก่อนครับ ซึ่งไม่ต้องกังวลไปเพราะชาวบ้านที่นี่น่ารัก กิจการให้เช่าเรือคายัคนำเที่ยวเป็นของคนในชุมชนอยู่แล้ว นอกจากช่วยสร้างรายได้แล้ว ยังทำให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าชายเลนด้วย
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า กระทบเข้ากับผืนน้ำสะท้อนเงาออกมาระยิบระยับที่บริเวณอ่าวท่าเลน ซึ่งจุดเด่นของที่นี่นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังตั้งอยู่ห่างไกลจากทะเลเปิด ทำให้น้ำนิ่งพายง่าย ไม่ค่อยมีผลกระทบเรื่องคลื่นใหญ่หรือมรสุมเท่าไรนัก สองฟากฝั่งจะโอบล้อมด้วยป่าชายเลนและพรรณไม้สีเขียวขจี มีความสวยงามจนติดอันดับโลกกันเลยทีเดียว
สวมเสื้อชูชีพ เอาเรือลงน้ำแล้วก็เริ่มพายได้!!
คายัคจะพายกันเป็นหมู่คณะตามๆ กันไป โดยมีไกด์นำนะครับ ซึ่งจะมาพร้อมกับตอนที่เราไปติดต่อเช่าเรือพายกัน เส้นทางจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ เส้นทางแรกจะเป็นวงใหญ่ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร แต่สำหรับเราเลือกเป็นเส้นทางวงเล็ก ก็พอครับใช้ระยะทาง 4 กิโลเมตร ราวๆ 2 ชั่วโมงได้
จากจุดเริ่มต้นที่ชุมชนท่าเลน เราจะพายเข้าไปยังป่าโกงกาง พายลัดเลาะไปเรื่อยๆ พบเจอกับรากโกงกางสูงใหญ่ แผ่รากไปทั่วบริเวณ บางจุดจะเห็นว่ามีคราบเกลือลอยอยู่ตามขอบตลิ่ง หรือติดตามต้นไม้ ซึ่งจริงๆ แล้วเกิดจากกระบวนการน้ำกร่อย คือการเปลี่ยนน้ำเค็มให้กลายเป็นน้ำจืด ของเจ้าต้นต้นโกงกางที่คายเกลือออกมาเพื่อให้มันคงอยู่ได้ในสภาพน้ำเช่นนี้ เป็นวิถีการเอาตัวรอดจากธรรมชาติ และกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของสัตว์น้ำขนาดเล็ก เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์
ส่วนมนุษย์เราก็อาศัยพื้นที่ตรงนี้เป็นที่หลบภัยของชาวเรือเวลาเกิดมรสุม เพราะแนวผาหินปูนจะคอยช่วยกำบังคลื่นลมจากภายนอก #เราต่างเรียนรู้วิถีการเอาตัวรอดจากธรรมชาติ
Always take the scenic route. เราพายลัดเลาะเข้าไปตามป่าโกงกาง ภูเขาหินปูน พายกันไปเรื่อยๆ อาจจะมีพักเหนื่อยในบางจุด จากนั้นจะไปถึงช่องแคบแคนยอน Paradise Canyon หรือผาหินงาม มีลักษณะเป็นหน้าผาหินปูนที่โอบขนาบเป็นแนวยาว และมีลากูนอยู่ด้านใน นับเป็นจุดสวยที่สุดของอ่าวท่าเลน เป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจมากครับ
ถ้าลองเงียบเสียงดู เราจะได้ยินเสียงจากธรรมชาติ มีทั้งนก สัตว์ป่า น้ำหยดลงผาหิน หรือใบไม้ที่ไหวปลิว เรียกได้ว่า นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้สัมผัสธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ที่หาได้ยากจากชีวิตคนเมืองแบบเรา
ไกด์เล่าว่า “ที่นี่เป็นเส้นทางพายเรือชมธรรมชาติที่สมบูรณ์และงดงามติดอันดับโลก เส้นทางจะเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่หายาก สลับกับความสวยงามของธรรมชาติภูเขาหินปูนมากมายหลายสิบลูก นอกจากธรรมชาติแล้วยังมีสัตว์ป่านานาพันธุ์อาศัยอยู่เต็มไปหมด สามารถมองเห็นได้แบบใกล้ชิด มีฝูงลิงแสมไต่หากินอยู่บนนั้น ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาตินิยมมาพายคายัคกันที่นี่เยอะมาก”
Look deep into nature, and then you will understand everything better.
ผมขอยกให้อ่าวท่าเลนเป็น Unseen Krabi เลยครับ เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามมากๆ รายล้อมด้วยภูเขาหินปูน หินงอกหินย้อย น้ำทะเลสีฟ้า สันดอนทรายและป่าชายเลนที่ยังมีสภาพสมบูรณ์
จากภาพมุมสูงเราจะเห็นลำน้ำที่คดเคี้ยวทางกลางป่าไม้เป็นของขวัญจากธรรมชาติที่สร้างขึ้นให้เราได้เข้ามาใช้ทรัพยากร ดังนั้น ต้องช่วยกันอนุรักษ์ความงดงามเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป
Nature is not a place to visit. It is HOME.
