Sansiri Luxury Collection

“𝑳𝒖𝒙𝒖𝒓𝒚 𝒊𝒔 𝒊𝒏𝒕𝒆𝒍𝒍𝒊𝒈𝒆𝒏𝒄𝒆 𝒂𝒏𝒅 𝒒𝒖𝒂𝒍𝒊𝒕𝒚.” กานต์ว่า Philippe Starck พูดประโยคนี้ไว้ได้น่าสนใจมาก เพราะไม่มีนัยยะไหนเลยที่เอ่ยถึงราคาไปพร้อมกับการมาถึงของคำว่าหรูหรา หรือว่า Luxury

Philippe Starck คือพ่อมดแห่งวงการออกแบบชาวฝรั่งเศสที่ขับเคลื่อนชีวิตด้วยงานดีไซน์ และเป็นอาร์ตทิสอีก 1 คนที่ผมชื่นชอบประทับใจ ติดตามผลงานมาโดยตลอด

1 ในงานที่กานต์มองว่าเป็น Iconic ให้กับวงการออกแบบของไทยนั่นคือคอนโดมิเนียมที่ Philippe Starck ออกแบบแห่งแรกในไทยแห่งเดียวใจกลางทองหล่อนั่นคือ Khun by Yoo

ถ้าถามผมว่า ทำเลไหนที่ผมชอบและอยากอยู่มากที่สุดในกรุงเทพฯ คำตอบคือ “ทองหล่อ”

แต่ถ้าถามต่อว่า แล้วโครงการไหนที่ผมชอบและอยากอยู่มากที่สุดในเมืองไทย คำตอบคือ Khun by Yoo

เพราะชอบในงานออกแบบที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอความหรูหราได้อย่างมีรสนิยม ผสมผสานกับทำเลที่ยอดเยี่ยม จนทำให้แสนสิริ ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาโครงการนี้ รังสรรค์ Khun by Yoo ไว้ใน Sansiri Luxury Collection

ในทำเลทองหล่อมี Sansiri Luxury Collection อยู่ด้วยกัน 2 แห่งจากทั้งหมด 5 แห่ง คือ Khun by Yoo และ The Monument ทองหล่อ

โครงการหลังนี้ตกแต่งภายในโดย Lorenzo Castillo สถาปนิกระดับโลกชาวสเปน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผสมผสานระหว่างวัสดุสมัยใหม่เข้ากับอิทธิพลทางประวัติศาสตร์ ผนวกสีสันให้เข้ากับรูปทรงเรขาคณิตจนเกิดเป็นงานดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ทว่าเรียบง่าย

สอดรับกับการออกแบบสระว่ายน้ำของโครงการ สถาปนิกได้แรงบันดาลใจมาจากวงปีของต้นจามจุรี จนทำให้ The Monument ทองหล่อ มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จนทำให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว (กระซิบว่าถ้าใครสนใจลองโทรไปสอบถามห้องรีเซลล์จากแสนสิริดูนะครับ)

โพสต์นี้กานต์จะพาไปสัมผัสความหรูหราของงานดีไซน์บนทำเลที่มีศักยภาพมากที่สุดในกรุงเทพฯ คือทองหล่อ กับ 2 โครงการจาก Sansiri Luxury Collection อ่านเรื่องราวต่อในแคปชั่นด้านในพร้อมกับภาพถ่ายบันทึกความทรงจำที่หรูหราเหล่านี้กันต่อได้เลยครับ

Sansiri PLC Call Center : 1685

#Sansiri#SansiriLuxuryCollection

𝐈𝐧 𝐭𝐨𝐝𝐚𝐲’𝐬 𝐥𝐢𝐟𝐞, 𝐥𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐢𝐬 𝐭𝐢𝐦𝐞 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐩𝐚𝐜𝐞. เมื่อพูดถึงทำเล “ทองหล่อ” ผมว่า สิ่งที่เราจะมองกันต่อไปจากมูลค่าของที่ดินนั่นก็คือ เรื่องของเวลากับพื้นที่

ทองหล่อมีนัยยะของคำว่าเวลา คือ ความที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกเชื่อมต่อการคมนาคมได้หลากหลายและเป็นย่านธุรกิจกึ่งที่พักอาศัยที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์

ส่วนคำว่า Space หรือพื้นที่นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของขนาดแต่อย่างใด แต่เป็นการให้นิยามของ ไลฟ์สไตล์ทองหล่อที่สร้างสรรค์ ทันสมัย เป็นโลเคชั่นที่ตอบโจทย์การมีพื้นที่ในการสร้างตัวตนของเราได้อย่างดี รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ในวันนี้ทองหล่อเป็นทำเลที่ Luxury ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ กานต์จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 2 คอนโดมิเนียมใจกลางทองหล่อจาก Sansiri Luxury Collection กันครับ

Sansiri Luxury Collection ใจกลางทองหล่อมีด้วยกัน 2 โครงการคือ The Monument Thong Lo และ Khun by Yoo

เริ่มจาก Khun by Yoo เพียงการครีเอทชื่อก็รู้แล้วว่า ผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว มีคาแรกเตอร์ สนุก ขี้เล่น เป็นกันเอง แต่เกิดจากดีไซน์สตูดิโอระดับโลกคือ Yoo ซึ่งเมื่อแปลคำพ้องเสียงเป็นภาษาไทยก็คือคำว่า Khun (คุณ) นั่นเองครับ

โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ดีไซเนอร์เลือกใช้วัสดุที่มีแตกต่างทางผิวสัมผัสอย่างชัดเจนมาหลอมรวมกันในงานออกแบบไม่ว่าจะเป็น ทองแดง หินอ่อน และคอนกรีต ราวกับต้องการสร้างงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซให้เป็นภาพสะท้อนของไลฟ์สไตล์ผู้คนในย่านทองหล่อ ที่มีความแตกต่างหลากหลายไม่ซ้ำใคร แต่กลับเข้ากันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

โครงการมีความโดดเด่นเหนือใคร เราจึงเห็นการออกแบบทางเข้าด้านหน้าเป็นกำแพงหินอ่อนสีขาว ตัดกันกับ Cladding สีทองแดง เมื่อสะท้อนแสงยามพระอาทิตย์ตกดินจะเป็นประกายที่สวยงามและเจิดมาก

ทันทีที่ประตูเลื่อนออกเรามองตามจากพื้นหินอ่อนที่ปูยาวไปจนถึงหน้าลิฟต์ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเราจะพบกับ Chandelier สี Caramelo แดงอมส้มซึ่งออกแบบมาพิเศษเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ ตั้งใจให้ล้อไปกับสี Copper ของ Facade ด้านหน้า นับว่าเป็นผลงานสุดคราฟท์จาก Barovier & Toso แบรนด์ Chandelier ระดับโลก

Lobby ภายในโครงการหรือที่ Khun by Yoo จะเรียกว่าเป็น The Greeting Hall มีส่วนผสมของความ Modern และความ Classic จากยุคปฏิวัติ

ดังนั้น จึงต้อนรับแขกด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากหลายดีไซน์ที่แตกต่างกัน แต่สามารถนำมาจัดวางรวมกันได้อย่างลงตัวและสวยงามราวกับเป็นการจัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะแบบ Instllation Art

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน คือการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษแบบ Oversize

เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋เหล่านี้ล้วนสั่งทำพิเศษเพื่อโครงการ Khun by Yoo

ส่วนตัวผมชอบโซฟาที่ออกแบบคล้ายกับถูกหุ้มด้วยผ้าม่านสีขาวผลงานของ Busnelli แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังจากอิตาลี โดยมีฉากหลังเป็นม่านผืนใหญ่ที่ทำจากโซ่

โถงหน้าลิฟต์ดูหรูหรา ประดับประดาด้วยหินอ่อน และงานศิลปะชิ้นใหญ่แขวนไว้ ก่อนลิฟต์จะนำเราขึ้นมาสู่ชั้นบนเพื่อชมห้องตัวอย่าง

ที่นี่เลือกใช้ลิฟต์ยี่ห้อ KONE ขนาดใหญ่กว่าโครงการทั่วไปตอกย้ำความไม่ธรรมดา

ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็พบว่ามีความอาร์ต ความเท่ของภาพประดับโถงทางเดิน ผสานเข้ากับงาน Lighting Design กลายเป็นผลงานศิลปะที่จัดแสดงไว้อย่างสวยงาม

ห้องตัวอย่างเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จากโถงทางเดินมองเข้าไปภายในห้องดูโปร่งสบาย ด้วยความสูงของฝ้าเพดานที่มากกว่ามาตรฐานคอนโดมิเนียมทั่วไป

พื้นห้องส่วนนี้ปูด้วยไม้ Engineering Wood มีความแข็งแรง ทนความร้อนและความชื้นได้ดี ให้ผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริงและดูคลาสสิคมาก

ส่วนห้องของจริงจะเป็นแบบ Fully Fitted เป็นห้องเปล่า ซึ่งทางโครงการก็ได้จัดเตรียมชุดครัวและติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาให้แล้วเรียบร้อย จากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียของเราเลยครับ ว่าอยากจะรังสรรค์ให้ห้องมีความอาร์ตความเก๋ขนาดไหน

ภายในยังคงตกแต่งในสไตล์ Industrial Heritage เน้นสีสันสดคุมโทนสีร้อน ส้ม เหลือง แดง โดยเฉพาะ Living Area ด้านหน้าห้อง ส่วนตัวชอบผนังที่เซาะร่องเข้าไปใส่กระจกเงา กลายเป็นจุดแขวนทีวีที่โดดเด่น

จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้คือเป็นห้องที่มีระเบียงใหญ่เชื่อมต่อกับ Living ขนานไปตามความกว้างของห้อง ประตูเป็นกระจกสุญญากาศ Insulated Glass ความหนา 3 ชั้น ประตูบานใหญ่และค่อนข้างหนัก

แต่ข้อดีคือช่วยกันความร้อนและเสียงได้ดีมาก ห้องนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จึงเหมาะกับการตื่นเช้าๆ แล้วเดินออกมาสูดอากาศเบาๆ จิบกาแฟสักแก้วก่อนออกไปทำงาน

โครงการ Khun by Yoo ออกแบบภายใต้แนวคิด Industrial Heritage ซึ่ง Philippe Starck ดีไซเนอร์ของโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตของเขาในช่วงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการฟื้นฟู และยุคหลังการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม

ดังนั้น ภาพรวมของงานดีไซน์จึงสะท้อนผ่านการใช้วัสดุแบบ “Raw Beauty” เพื่อโชว์ความสวยงามของ Material ตามธรรมชาติ แฝงด้วยสีสันที่สดใสดูสนุกสนาน ซึ่งเป็นบุคลิกเฉพาะตัวของ Philippe Starck

ทำให้ Khun by Yoo กลายเป็นผลงานระดับ Rare Item 1 ใน 36 โครงการทั่วโลกจากฝีมือของเขาคนนี้ 

Living Area ออกแบบให้เชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหารและครัว กลายเป็น Common Area ที่ใช้ทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัวเพื่อสานสัมพันธ์

“𝑴𝒚 𝒋𝒖𝒊𝒄𝒆𝒓 𝒊𝒔 𝒏𝒐𝒕 𝒎𝒆𝒂𝒏𝒕 𝒕𝒐 𝒔𝒒𝒖𝒆𝒆𝒛𝒆 𝒍𝒆𝒎𝒐𝒏𝒔; 𝒊𝒕 𝒊𝒔 𝒎𝒆𝒂𝒏𝒕 𝒕𝒐 𝒔𝒕𝒂𝒓𝒕 𝒄𝒐𝒏𝒗𝒆𝒓𝒔𝒂𝒕𝒊𝒐𝒏𝒔.” — Philippe Starck

เราจึงได้เห็นที่คั้นน้ำผลไม้ Juicy Salif ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบชิ้นเอกของเขาวางอยู่ในห้องตัวอย่างด้วย

ผนังประดับด้วยภาพพิมพ์เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้อง เบรคความร้อนแรงของโทนสีด้วยโต๊ะเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหารสีฟ้าเทอควอยซ์ ขนาด 6 ที่นั่ง

เข้ากันดีกับ Kitchen Island ทำจากหินอ่อน Arabescato Chiaro ลายเดียวกับท๊อปเคาน์เตอร์ ทางโครงการยังได้ติดตั้งอ่างล้างจานของ Foster พร้อมตู้เก็บของด้านล่างและตู้แขวนลอยด้านบน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น Built – in, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และ Semi – Oven ให้เป็นแบรนด์ Smeg

จากมุมนี้ มองเข้าไปด้านในจะเป็นโซนพักผ่อน ซึ่งเราจะเดินไปชมกันต่อครับ 

จาก Common Area เราจะเดินไปดูด้านในเป็น Private Area ด้านซ้ายเป็นห้องนอนรอง ซึ่งห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องทำงานอ่านหนังสือที่ดูเก๋ เท่ ล้ำ ภายในห้องมีขนาดใหญ่พอสมควร

ถ้าใช้เป็นห้องนอน ผมว่าเราสามารถจัดวางเตียงควีนไซส์ได้สบาย มีช่องแสงธรรมชาติส่องผ่านผนังกระจกบานใหญ่ด้านข้างเป็นบานกระทุ้งเราสามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้

ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านนอก ใช้ร่วมกันกับแขกและสมาชิกในบ้าน ภายในแยกส่วนเปียกแห้งออกจากกันชัดเจน มาพร้อมกับแนวคิด “Starck Classic”

พื้นและผนังรวมถึงท็อปอ่างล้างหน้าดีไซน์สวย กรุด้วยหินอ่อน Arabescato Chiaro ติดตั้งก๊อกน้ำ แบรนด์ Axor ที่ Philippe Starck เป็นคนออกแบบ ด้านล่างเป็นลิ้นชัก และติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อยแล้วครับ

ส่วนด้านหลังเป็นตู้กรุกระจกเงาทำจากไม้มะฮอกกานี ใช้เป็นพื้นที่เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้

ด้านในติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush แบรนด์ Duravit จากเยอรมันซึ่ง ออกแบบโดย Philippe Starck เช่นกัน ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุด ทางโครงการติดตั้ง Shower Box เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ

บริเวณด้านหน้าห้องนอนหลักติดกับห้องน้ำด้านนอกจะมีส่วนของตู้เซอร์วิส สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าพร้อมตะแกรง

ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่วางขนานไปกับความกว้างของห้อง สามารถจัดวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายเลยครับ มาพร้อมกับโต๊ะหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง โคมไฟหัวเตียงส่องสว่างเป็นแบบแขวนลงมาจากฝ้าเพดาน

ผมชอบงานอาร์ตที่ประดับหัวเตียงดูเก๋มาก ด้านข้างเตียงเป็นผนังกระจกใสบานใหญ่ Full Height ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกได้เต็มที่

ขณะเดียวกันก็มีบานกระทุ้งด้านข้าง 2 บานเล็กๆ สามารถเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้

ด้านอีกด้านออกแบบให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ส่วนปลายเตียงเป็นผนังโล่ง ทางโครงการได้เดินสายสัญญาณและติดตั้งเต้าเสียบเพื่อรองรับทีวีสำหรับแขวน โดยมีระยะการรับชมที่ลงตัวพอดีหากนอนดูอยู่บนเตียง

ติดกันเป็นประตูเพื่อเปิดสู่ห้องน้ำในตัวที่แยกส่วนออกไป

“𝗬𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗼𝘄𝗻 𝗱𝗲𝗰𝗼𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻. 𝗬𝗼𝘂 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗰𝗼𝗹𝗼𝗿, 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗺𝗼𝗼𝗱. … 𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗱𝗲𝗽𝗿𝗲𝘀𝘀𝗲𝗱, 𝘆𝗼𝘂 𝗽𝘂𝘁 𝘀𝗼𝗺𝗲 𝗯𝗿𝗶𝗴𝗵𝘁 𝘆𝗲𝗹𝗹𝗼𝘄 𝗮𝗻𝗱 𝘀𝘂𝗱𝗱𝗲𝗻𝗹𝘆 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗵𝗮𝗽𝗽𝘆.”

-Philippe Starck

ห้องน้ำของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก ดูหรูหราคลาสสิคด้วยการใช้หินอ่อน Arabescato Chiaro ทั้งห้องรวมถึงท๊อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มาแบบ His & Her รวมถึงสุขภัณฑ์สเปคแบบเดียวกันกับห้องน้ำด้านนอก

“𝗜 𝗿𝗲𝗮𝗹𝗹𝘆 𝘁𝗿𝘆 𝘁𝗼 𝘀𝗽𝗲𝗻𝗱 𝗮𝘀 𝗹𝗶𝘁𝘁𝗹𝗲 𝘁𝗶𝗺𝗲 𝗮𝘀 𝗽𝗼𝘀𝘀𝗶𝗯𝗹𝗲 𝗼𝗻 𝗴𝗿𝗼𝗼𝗺𝗶𝗻𝗴. 𝗜 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗸 𝗶𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗮 𝗴𝗼𝗼𝗱 𝗺𝗼𝗶𝘀𝘁𝘂𝗿𝗶𝘇𝗲𝗿 𝗮𝗻𝗱 𝗮 𝘀𝗼𝗹𝗶𝗱 𝗿𝗮𝘇𝗼𝗿 𝘁𝗼 𝗰𝗹𝗲𝗮𝗻 𝘂𝗽 𝘁𝗵𝗲 𝗯𝗲𝗮𝗿𝗱, 𝘆𝗼𝘂’𝗿𝗲 𝗴𝗼𝗹𝗱𝗲𝗻.”

-Chris Evans

ที่พิเศษคือมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ให้เป็นแบรนด์ Kohler ถูกติดตั้งไว้ริมผนังกระจกดู Sexy มาก ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่อีกฝั่งครับ

จากห้องตัวอย่าง พาไปชมเดินเล่นชมพื้นที่ส่วนกลางกันบ้างครับ เริ่มจากชั้นบนสุดชั้นที่ 27 โดดเด่นด้วย Facade สี Copper พร้อมติดตั้งโคมไฟจาก Fros รุ่น Baby Romeo เรียงรายกันไปทั่วตึกดูสวยงามแปลกตาดี ยิ่งตอนใกล้ค่ำเริ่มเปิดไฟ ทำให้แสงสะท้อนประกายสวยงามมาก

บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบ Outdoor เน้นการทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างเช่นลานสนามหญ้า The Sky Lawn ออกแบบให้เป็นลานกว้างสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ พร้อมเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ชื่อว่า KHUN Bar และติดตั้งอ่างล้านจานเตรียมพร้อมสำหรับจัดเป็นงานปาร์ตี้

ด้านข้างจัดวางที่นั่งไว้หลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับการพักผ่อนของลูกบ้านทั้ง The Fun Roof และ Out Door Private Lounge

แต่ที่เป็นไฮไลท์คือ The Screening Yard มุมดูหนังกลางแจ้ง ทางโครงการติดตั้งจอทีวีขนาดใหญ่ 85 นิ้ว และเครื่องเสียงจาก Bose พร้อมจัดที่นั่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการรับชมเอาไว้ให้แล้วครับ

The Screening Yard บรรยากาศดีมาก

นอกจากนี้ ที่ชั้น 27 ยังมี The Screening Room ขนาดใหญ่ จัดวางที่นั่งไว้ประมาณ 10 คนได้ สำหรับจัดเป็นห้องดูหนังหรือห้องสันทนาการสำหรับทำกิจกรรมกันภายในครอบครัว

ภายในห้องได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากบ้านสไตล์ฝรั่งเศสที่เน้นหลังคาสามเหลี่ยมทรงสูง เพื่อให้มีสเปซแบบห้องใต้หลังคา แต่พอเอาฝ้าเพดานออกก็ช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง

ด้านบนแขวน Chandelier จาก Andromeda Murano รุ่น Le roi c’est moi ดีไซน์สุดคลาสสิค ผนังติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ รองรับ Apple TV สามารถชม Netflix ได้ มาพร้อมกับเครื่องเสียงของ Bang & Olufsen ผมนั่งดูเพลินๆ จนหนังจบไปเรื่องนึงเลยครับ ชักอยากย้ายมาอยู่ที่นี่เลยทันที

ตรงข้ามจะเป็น The Eight Ball เป็นห้องพูลที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มาพร้อมกับผนังซ่อนที่ใช้เก็บอุปกรณ์เล่นพูล ซึ่งโต๊ะพูลของห้องนี้เป็นแบบสั่งทำพิเศษแบบ Bespoke ดีไซน์โดย Jonathan Franc ขนาด 6 ฟุต ทำจากไม้วอลนัท ดีไซน์ขาโต๊ะทรง Queen Anne เพิ่มความคลาสสิค

ส่วนตัวผมชอบ Chandelier ที่โครงการติดตั้งมาให้ เป็นของ Andromeda Murano คอลเลคชั่น Pulse เป็นงานเป่าแก้วดีไซน์สวยจากอิตาลี

แต่ที่อยากยกให้เป็นไฮไลท์อีกอย่างเลยคือห้องน้ำในพื้นที่ส่วนกลางครับ ทุกห้องมีความสวยงาม เป็นห้องน้ำที่ประดับด้วยหินอ่อนแทบทุกอณู ดูหรูหรามาก แยกชายหญิงชัดเจน แต่ตกแต่งสวยงามไม่ต่างกัน ทั้งอ่างล้างมือ ห้องสุขา แต่ห้องน้ำชายจะมีโถสุขภัณฑ์แบบ Wall เพิ่มเข้ามาให้ครับ

ลงมาพื้นที่ส่วนกลางชั้น 25 เป็น The Reading Lounge ห้องพักผ่อนขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบครึ่งชั้น จัดวางโซฟาดีไซน์เก๋ๆ กระจายกันไปทั่วห้องสำหรับนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ ในฟีลลิ่งแบบสบายๆ

ไฮไลท์คือวิวสวยแบบเปิดโล่ง มองเห็นวิวกรุงเทพในมุมสูง บางมุมหากมองลงไปจะเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้น 24 ด้วยครับ บรรยากาศค่อนข้างเรียบหรู

บรรยากาศของ The Reading Lounge ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน มันเป็นฟีลลิ่งที่ดูอบอุ่นและสบายมากๆ

มี Private Meeting Room ห้องประชุมแยกออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องจัดวางโต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้เอาไว้ประมาณ 8-10 ที่นั่ง

ผมชอบห้องนี้มาก เพราะรวบรวมเอาหนังสือที่เกี่ยวกับงานดีไซน์ ตกแต่งบ้าน อาหาร แฟชั่น ไลฟ์สไตล์เอาไว้ให้ลูกบ้านอ่านเยอะมาก อยากจะมานั่งพักผ่อนที่มุมนี้ทุกวัน สร้าง Space ส่วนตัวให้กับตัวเอง แถมยังมีกาแฟและชาไทย Nitro Cold Brew เสิร์ฟให้กับลูกบ้านได้ทานอีกด้วยครับ

ฝั่งตรงข้าม The Reading Lounge จะเป็นห้องโยคะสตูดิโอ จัดเป็นมุมส่วนตัวด้วยกระจกเงาบานใหญ่ติดตั้งขนานไปกับตัวห้อง พร้อมแสงธรรมชาติที่ส่องสว่างเข้ามาจากภายนอก

ภายในจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับเล่นโยคะ ทั้งเสื่อโยคะ ลูกบอลออกกำลังกาย ให้เราได้ฝึกท่วงท่า กำหนดลมหายใจและได้สุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน

ติดกันจะเป็น The Gymnasium สำหรับออกกำลังกายครับเป็นห้องฟิตเนสที่ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศน่าใช้งาน ได้วิวสวยจากกระจกรอบห้อง มองเห็นทองหล่อ-สุขุมวิทในมุมสูง ขณะที่อีกด้านมองเห็นเป็นวิวสระว่ายน้ำที่สวยมากพอให้ได้คลายเหนื่อย

ทางโครงการจัดวางอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายของ Technogym แบรนด์ดังระดับโลกจากสหรัฐ ครบครันทั้งลู่วิ่ง, เครื่อง Elliptical, เครื่องออกกำลังกายส่วนหน้าอก หลัง และขา พร้อมทั้งฟรีเวท เพื่อให้เราได้รังสรรค์การออกกำลังกายได้ตามใจ

เมื่อวิ่งอยู่ใน Gym แล้วมองลงมาจะเห็นสระว่ายน้ำบนชั้น 24 ในบรรยากาศของพระอาทิตย์กำลังตกดิน สวยงามมากครับ

สระว่ายน้ำชั้น 24 ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการ Khun by Yoo เพราะดีไซน์สวยมาก ได้บรรยากาศของความเป็น Urban Lifestyle มากๆ

สระว่ายน้ำมีกิมมิคลูกเล่นคือเป็นการซ่อนไฟแบบไฟเบอร์ออปติกไว้ที่พื้นสระ เมื่อบรรยากาศเริ่มมืดในตอนค่ำ ไฟใต้น้ำจะส่องสว่าง สะท้อนประกายไปยังฝ้าเพดานซึ่งเป็นกระจกเงา ราวกับว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางดวงดาว

สระว่ายน้ำที่นี่มีขนาดใหญ่ Infinity ในสไตล์ Lab Pool มีลักษณะเป็นรูปตัวยู (U) ความยาวสูงสุด 30 เมตร เราสามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ เป็นสระแบบควบคุมอุณหภูมิและแยกพื้นที่สระสำหรับเด็กออกไปด้านข้าง

ส่วนปลายสระอีกฝั่งจะเป็นสระจากุซซี่พร้อม Spa Water Jet บริเวณโดยรอบสระจัดวางเก้าอี้สำหรับนั่งรับลมชมวิวด้วยครับ

Khun by Yoo จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กานต์ประทับใจและอยากนำมาบอกเล่าเรื่องราวต่อ ใครสนใจสามารถนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการได้นะครับ โทร 1685

Khun by Yoo จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กานต์ประทับใจและอยากนำมาบอกเล่าเรื่องราวต่อ ใครสนใจสามารถนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการได้นะครับ โทร 1685

จริงๆ ที่ The Monument ทองหล่อ ทางโครงการปิดการขายไปแล้วนะครับ แต่ผมอยากพาทุกคนมาสัมผัสถึงแนวคิดในงานดีไซน์ของตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในทองหล่อ ซึ่งหากใครอ่านแล้วสนใจสามารถติดต่อสอบถามที่แสนสิริไปได้ว่ามีห้องรีเซลล์อยู่บ้างหรือเปล่า

โครงการ The Monument ทองหล่อ เป็นอาคารสูง 45 ชั้น ให้ความเป็นส่วนตัวเพราะมีจำนวนยูนิตไม่มาก ทั้งโครงการมีเพียง 127 ยูนิตเท่านั้น แต่ละชั้นมีไม่เกิน 4 ยูนิต

โครงการอยู่ติดถนนทองหล่อเลยครับ อาคารได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา งานดีไซน์สวยเด่นแบบ Timeless Design มีเอกลักษณ์มาก เป็นงานสถาปัตยกรรมรูปทรง “โมโนลิธ” (Monolith) ซึ่งมีที่มาจากภาษากรีกโบราณสมาสกัน 2 คำคือ Monos ที่แปลว่าหนึ่งเดียว กับ Lithos แปลว่าหิน

ดังนั้น Monolith จึงมีความหมายในเชิงสถาปัตยกรรม คืออาคารที่ตั้งตระหง่านและมีความโดดเด่นเป็นลักษณะแท่งสมมาตรจากพื้นดินไปจนถึงยอด โดยจะเน้น Exterior ภายนอกให้ดูเรียบง่าย สไตล์มินิมัล ตัดทอนรายละเอียดต่างๆ ออกไปจนกลายเป็นความเรียบหรู แต่แฝงดีเทลไว้เยอะมากซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการออกแบบเลยครับ

ปกติแล้วเรามักจะพบเห็นอาคาร Monolith แบบเดียวกันนี้ที่เป็นอาคารสูงระฟ้าระดับแลนด์มาร์ก ตั้งอยู่ในมหานครใหญ่ทั่วโลก

โครงการ The Monument ทองหล่อ นิยามตัวเองว่าเป็นบ้านสำหรับครอบครัวยุคใหม่ เมื่อเดินเข้ามาใน Lobby จึงให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายๆ อบอุ่น ทว่ามีความหรูหราแฝงไว้ในรายละเอียดของงานออกแบบ

Lobby จึงทำหน้าที่เปรียบเสมือนห้องรับแขกของบ้าน แต่มีขนาดใหญ่มากประมาณ 150 ตารางเมตร ให้ความรู้สึกโอ่อ่าโอ่โถงด้วยเพดานความสูง Double Volume รายรอบด้วยผนังกระจกใสให้เราเปิดรับวิวสวนสีเขียวเต็มตา

มาพร้อมกับมีเคาน์เตอร์บริการ All Suite Butler ซึ่งเชี่ยวชาญในไลฟ์สไตล์แต่ละด้าน คอยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เสมือนมี Hotelier อยู่ในคอนโดมิเนียมของเรา

ภายใน Lobby จัดวางชุดที่นั่งเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Fendi Casa และ ตัวที่ผมนั่งอยู่คือ Flexform ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังอย่าง Antonio Citterio นำมาประดับตกแต่งเพิ่มความหรูหรา

ฝ้าเพดานประดับ Chandelier จากแบรนด์ LASVIT (ลาสวิท) นำเข้าสาธารณรัฐเช็ก ที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ ผนังด้านในประดับด้วย White Venue Marble นำเข้าจากเหมืองหินในประเทศกรีซ ถูกนำมาต่อกันเป็นลวดลาย Book-match ซึ่งต้องทำให้หินเป็น Mirror Effect จนเกิดเป็นลวดลายใหม่ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก

เรียกได้ว่าทุกจุดคือรายละเอียดของงานดีไซน์ที่สวยแบบเงียบๆ ยืนหนึ่งในย่านทองหล่อจริงๆ ครับ

Beautiful things don’t ask for attention.

“ความงามที่แท้จริงไม่เรียกร้องความสนใจ”

ลิฟท์ของทางโครงการออกแบบให้เป็น Private Lift มีด้วยกัน 2 จุดคือด้านหน้าที่ Lobby มีลิฟต์ 2 ตัวและมีอีก 2 ตัวติดตั้งไว้ที่ด้านใน

ลิฟต์ทั้งหมดจะให้ความเป็นส่วนตัว คือระหว่างที่เราโดยสารลิฟต์จะไม่มีการจอดในชั้นอื่นเพื่อรับ-ส่งลูกบ้านท่านอื่น เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมาก

อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการอยู่ที่ชั้นบนคือ The Parlour เป็น Lounge ที่ออกแบบมาสำหรับให้ลูกบ้านใช้งานได้ตามใจไม่ว่าจะเป็น พักผ่อน ทำงาน อ่านหนังสือ หรือประชุมออนไลน์

ภายในจัดวางที่นั่งกระจายกันไปในหลายจุดเพื่อความเป็นส่วนตัว มาพร้อมกับวิวสระว่ายน้ำที่อยู่ถัดไปซึ่งมีความโดดเด่นราวกับเป็นงานศิลปะชิ้นใหญ่

โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Luxury is Space และ The Monument to Generations เน้นฟีลลิ่งของการอยู่อาศัยให้คล้ายกับบ้านเดี่ยว โดยการออกแบบต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ตกแต่งภายในโครงการอย่างหรูหรา มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนรวมเป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ ราวกับเป็นโอเอซิสใจกลางทองหล่อ

มีห้องประชุมทำงานแยกเป็นมุมส่วนตัวไว้คอยบริการลูกบ้านด้วยครับ

สระว่ายน้ำออกแบบให้อยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งแยกตัวออกไป เป็นงานดีไซน์ที่สวยงามมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยดึงจุดเด่นของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่มาตีความเป็นงานออกแบบที่ดูเข้ากันได้ดีมาก ตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงปีของต้นจามจุรีที่มีอยู่แต่เดิมของที่ดินผืนนี้ซึ่งมีอายุกว่า 50 ปี ทางโครงการได้เก็บรักษาเอาไว้ อยู่ในสวนส่วนกลางของอาคารบริเวณด้านข้าง

มองจากมุมที่สระว่ายน้ำจะเห็นอาคารขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นแบ็กกราวน์ ดูเรียบหรูและเป็นงาน Timeless Design สอดรับกับสระว่ายน้ำดีไซน์สวยมากเช่นกัน ปูพื้นสระด้วยหิน White Cloud สีขาวเทาดูเรียบหรู สระมีรูปทรงแบบ Free Form ขนาด 28 x 9.5 เมตร เป็นสระน้ำกรองระบบเกลือ ก็คือใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดอย่างสะอาดปลอดภัย แล้วมาใช้ประโยชน์ต่อเป็นน้ำของสระว่ายน้ำนั่นเองครับ

ด้านข้างออกแบบให้เป็น Vertical Garden เพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยรอบจัดวางเก้าอี้ Sunbed เอาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน

Pool Lounge สำหรับนั่งพักผ่อน

พื้นที่ส่วนกลางอีกฝั่ง ออกแบบให้เป็นพื้นที่สันทนาการ คือมีทั้งฟิตเนส โยคะสตูดิโอและ Kid’s room เป็นพื้นที่ที่ดีไซน์ขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆ ภายในยังติดตั้งทีวีเอาไว้เปิดรายการสำหรับเด็กๆ ได้พักผ่อน มีพื้นที่สำหรับเล่นสนุกสนาน

โดยมีหลักในการออกแบบคือคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานเป็นสำคัญ จากนั้นจึงเสริมเรื่องความสวยงามโดยตกแต่งด้วยโคมไฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Lollipop สีสันสดใส เป็นของแบรนด์ LASVIT

Kid’s room ออกแบบให้อยู่ติดกับ Fitness เป็นห้องกระจกใสเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้ทำกิจกรรมในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยที่ยังมองเห็นเชืื่อมสัมพันธ์กันตลอดเวลา 

Fitness จัดวางอุปกรณ์ในการออกกำลังกายไว้อย่างครบครัน ทั้งฟรีเวทและแมชชีน เลือกใช้แบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายระดับโลกอย่าง Technogym ให้เราได้ออกกำลังกายอยู่ท่ามกลางวิวสวนสีเขียว

ฝั่งตรงข้ามออกแบบให้เป็น Yoga Studio มีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยรอบห้องติดกระจกเงา เพื่อให้เราสามารถเช็คท่วงท่าและกำหนดลมหายใจระหว่างเล่นโยคะได้อย่างถูกต้อง หรือจะปรับเป็นห้องซ้อมเต้นก็ได้เช่นกัน

พื้นที่สวนส่วนกลางมีขนาดใหญ่ จัดวางไว้ด้านข้างและด้านหลังของอาคาร มีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าตีเป็นมูลค่าที่ดินใจกลางทองหล่อแบบนี้ สวนผืนนี้จะมีราคาเท่าไร แต่ถือว่าแสนสิริในฐานะผู้พัฒนาโครงการก็ต้องการสร้างคุณภาพชีวิตในการพักอาศัยให้มีครบทั้งพื้นที่ส่วนตัวภายในห้องและพื้นที่ส่วนรวมคือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ให้เป็นโอเอซิสใจกลางทองหล่อ

อย่างที่บอกไปว่่าโครงการได้เก็บรักษาต้นจามจุรีอายุกว่า 50 ปีเอาไว้เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของที่ดินผืนประวัติศาสตร์แห่งนี้ งานแลนด์สเคปจึงดีไซน์มาเพื่อรองรับการใช้งานโดยไม่ทำร้ายและทำลายต้นไม้เดิมที่อยู่ ทั้งยังออกแบบให้มีเพิ่มเติมทั้งพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน Tree House และ Educational Playground ผมชอบบ้านต้นไม้นี้มาก เพราะเปิดให้มีช่องสำหรับให้ต้นจามจุรีได้เจริญเติบโตต่อไปและแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาจากธรรมชาติกับเราได้

โครงการนี้ยังเป็น Pet Friendly Condo สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (ยกเว้นสัตว์ 3 ประเภท คือ นก หนู และสัตว์เลื้อยคลาน) จึงออกแบบให้มีพื้นที่สวนเป็น Dogs’ Park สำหรับพาน้องๆ หมาออกมาเดินเล่น ออกกำลังกาย พักผ่อนคลายเครียดและรู้สึกเพื่อนใหม่ น่ารักมากเลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ Hidden Gems ใจกลางทองหล่อ เป็น 2 โครงการระดับ Ultimate ที่กานต์นำมาฝากกัน ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ดีไซน์สวย มีความหรูหราและมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว สำหรับใครที่สนใจทั้งโครงการ Khun by Yoo และ The Monument ทองหล่อ ซึ่งจัดให้เป็น Sansiri Luxury Collection

โดยเฉพาะ The Monument ทองหล่อ เนื่องจากปิดโครงการไปแล้วจึงไม่ได้พาไปชมห้องตัวอย่าง แต่ผมว่าตอนนี้ยังพอมีห้องรีเซลล์ให้ได้จับจองเป็นเจ้าของอยู่ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 1685 หรือดูรายละเอียดได้ที่ https://www.sansiri.com/thai/sansiri-luxury-collection

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน