MARRAKESH HUA HIN RESORT & SPA

MARRAKESH HUA HIN RESORT & SPA

/

กลับจากโมร็อกโกมาไม่ถึง 3 อาทิตย์

แต่ความคิดถึงยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

ทั้งมาราเกซ เฟซ ราบัต เชฟชาอูนและคาซาบลังก้า

นึกย้อนไปถึงบรรยากาศแล้ว

ชอบทุกสถานที่ที่ได้ไป

ฟีลมันดี มีความร้อน-หนาว มีความอ้างว้าง เงียบเหงาและคึกครื้น

มีปราสาท มีวัง มีชายหาดและทะเลทราย

มีไก่ทาร์จีนกินกับข้าวคูคุส มีอูฐให้ขี่ มีจากุซชี่ให้แช่

แค่คิดก็ฟินแล้วววววววว

เวลาเที่ยวในที่ที่เรามีวีรกรรม

มันจะทำให้จำได้แม่นเป็นพิเศษ

ว่ามั้ยครับ!!

.

แต่จะให้กลับไปแก้มือก็ใช่เรื่อง หลายตังค์อยู่เนอะ

โมร็อกโก แอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือนะ

ไม่ได้ตั้งอยู่แถวประจวบ จะได้ไปบ่อยๆ

เอาเป็นว่ามานอนเล่นที่ “Marrakesh Hua Hin Resort & Spa” ดีกว่า

บอกได้เลยว่า ฟินเหมือนกัน ได้บรรยากาศเดียวกับที่โมร็อกโก

ในเวลาที่เราเลือกเองได้ ใกล้แค่ 2-3 ชั่วโมงจากกรุงเทพไปหัวหิน

รีสอร์ทอยู่ใจกลางเมืองหัวหิน เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก

ที่สำคัญเป็นรีสอร์ทติดทะเล สามารถเดินเล่นชายหาด เล่นน้ำหรือทำกิจกรรมได้สารพัด

แถมตอนเช้าที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของทะเลหัวหิน

เท่านี้ก็พอให้เรา “อิน” ไปกับความเป็นมาราเกซ

เมืองหลวงสมัยช่วงศตวรรษที่ 11 ของโมร็อกโก

เมืองนี้เค้าเรียกว่า “The Pink City”

แต่พอมาที่นี่ มีตัวอาคารหลักของรีสอร์ทเป็นโทนสีแดง

เราจึงต้องตั้งให้ใหม่ว่า “The Pink Resort” ดีกว่าเนอะ

เพราะตกแต่งได้ตามแบบฉบับของนีโอ โมร็อกโก เป๊ะปั๊วะ!!

เข้าใจว่าเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น คงบินไปสั่งมาจากที่นู๊น

ยังติดใจภาพประตูทองเหลืองบานละล้านที่โมร็อกโกอยู่เลยครับ สวยมาก

ถ้าเจ้าของรีสอร์ทสั่งมาติดนะ คงจะฮือฮาน่าดู

แต่เอาละ เท่าที่เห็นและกดชัตเตอร์มาก็พอจะบอกได้ว่า

“Marrakesh Hua Hin Resort & Spa” ก็ดีไซน์ออกมาได้ฟินพอกัน

.

เริ่มตั้งแต่โถงทางเข้า เค้าท์เตอร์เช็คอิน มีจุดถ่ายรูปซึ่งห้ามพลาดอยู่ตรงนี้ครับ

เป็นโถงรับแขกใหญ่ ทั้งสองด้าน มุมมหาชนคนเยอะตลอดเวลา

เรียกได้ว่ามาราเกซเป็นรีสอร์ทที่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก

มีทะเล สระว่ายน้ำ ต้นปาล์ม สนามหญ้า มีสปาบริการ

ส่วนใครอยากจะทานอาหารโมร็อกโกก็แวะมาได้ครับ ทั้งมื้อกลางวันมื้อเย็น

หรือจะมาจิบชายามบ่าย มาจิบไวน์ตอนค่ำ

อ่อ! ที่นี่มีเครื่องดื่มสูตรพิเศษจากมาราเกซหลายแก้วเลย

จิบไปฟังเพลงไป ลมพัดเย็นสบายสัมผัสกลิ่นอายของทะเลก็เก๋ดีนะครับ

มโนเอาว่ากำลังนั่งอยู่ริมชายหาดแถวเมดิเตอร์เรเนียนก็ได้นะ 55

ในรีสอร์ทก็มีร้านขายของที่ระลึกสไตล์โมร็อกโก (บางชิ้นก็นำเข้า)

อย่างผมก็ได้หมวกมาใบนึง เอาไว้ใส่ถ่ายรูปริมทะเล

หล่อรึเปล่าไม่รู้ เอาไว้ให้คนดูแล้วตัดสินก็แล้วกันครับ

555 (ด่าได้แต่อย่าแรง)

.

ป่ะ!! เปิดเข้ามาอ่านแล้วฟินไปพร้อมกันที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa

รีวิวฉบับเต็ม : https://bit.ly/2qTNsyn

.

#MarrakeshHuaHinResortandSpa#MarrakeshResortandSpa

#MarrakeshResort#MarrakeshHuaHin#Marrakesh

เปิดด้วยงานสถาปัตยกรรมแบบ Moroccan Style ในความเป็นเมืองมาราเกช (Marrakech) ซึ่งได้ชื่อว่านครแห่งศิลปะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี งานตกแต่งจึงออกมาในรูปแบบ Moroccan ที่มีการผสมผสานความเป็น East กับ West และจากการผสมผสานของวัฒนธรรมพื้นเมืองเบอร์เบอร์ อาหรับและยุโรปเข้าด้วยกัน ได้อย่างลงตัวจะมีเอกลักษณ์ที่หลังคารูปโดม ประตูโค้ง เน้นการใช้สีสดๆ พวกโทนสีส้ม แดง เหลือง
.
แต่สังเกตว่าการตกแต่งที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa จะเน้นความหรูหรา โอ่โถง กว้างใหญ่ และเพิ่มความโมเดิร์นเข้าไป จึงต้องตัดทอนรายละเอียดของงานออกแบบที่ซับซ้อนออกไปบ้างเพื่อให้ดูมีความทันสมัยในสไตล์ Neo Moroccan Style แต่อย่างซุ้มประตูทางเข้าก็ยังคงเอกลักษณ์ที่เป็นยอดแหลมของซุ้มโค้งอยู่ ถือเป็นการแสดงออกถึงความศรัทธาและความรุ่มรวยในศิลปะที่ฝังอยู่ในงานตกแต่งแบบ Moroccan
.
รีวิวฉบับเต็ม :

เริ่มต้น “กานต์เดินทาง” ด้วยป้ายต้อนรับอันสะท้อนถึงตัวตนของรีสอร์ท ที่อยากจะได้แขกผู้เข้าพัก ได้เดินทางไปในดินแดนโมร็อกโก
.
ป้ายจึงเขียนว่า “Journey Begins”
.
กานต์เดินทางที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa ของเรา … ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ

เลือกภาพนี้มาเปิด เพราะเป็นสิ่งที่ถวิลหา
กับการนอนแช่จากุซชี่ กับวิวทะเล
สลับกับการนอนเล่นมือถือ อ่านหนังสือเพลินๆ
แค่นี้ก็ #ดีต่อใจ แล้วครับ

ในบรรดาการตกแต่งและมุมถ่ายรูปทั้งหมดของ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa
อาจจะดูแปลกกว่าคนอื่นไปบ้างหากจะบอกว่า
“ผมชอบมุมนี้”
ผมว่ามันมีความเรียบหรูและลุ่มลึก
เป็นมุมมองแบบแอปสแตรคในทางศิลปะ
แล้วแต่ใครจะตีความ แล้วแต่นิยามและการให้ความหมายของแต่ละคน
นี่คือหัวใจของงานศิลปะที่สามารถกับคนทั้งโลกได้
ด้วยมุมมองที่แตกต่างกันไป
.
ชอบมากครับ

รูปนี้เหมือนเดินอยู่ในเมดิน่า แล้วสักพักจะพบกับน้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าในบริเวณมัสยิด อีกทั้งยังนิยมใช้ในการประดับบริเวณโถงกลางบ้านขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นภายใน เนื่องจากดินแดนส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย

หน้าตาอาหารของชาวเบอร์เบอะ
เข้าใจว่าเชฟที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa นำมาปรับรสชาติให้เข้ากับคนไทย ทานได้ง่ายมากขึ้น (และอร่อยกว่าด้วยครับ)
มีทั้งข้าวคูคุส ทานกับทาร์จีนไก่
แล้วก็มีแซลม่อนที่ย่างกับเครื่องเทศของโมร็อกโก
มีเชฟสลัด เดรสซิ่งจะเปรี้ยวๆ ฉ่ำๆ คล้ายกับทานส้มสดที่โมร็อกโก จานนี้อร่อยและแปลกดีครับ
ส่วนด้านในสุดไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับโมร็อกโกเท่าไร
แต่เอาใจเจ้าบ้านคือชาวหัวหินกันหน่อยด้วย “ข้าวผัดรถไฟ” ที่เชฟเอามาปรุงใหม่จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของมาราเกซ หัวหินครับ

มาถึงติดเที่ยงพอดี รีบเช็คอินแล้วมาทานอาหารกลางวัน
.
บรรยากาศก็อย่างที่เห็นกำลัง Enjoy Eating เลยครับ
แหะๆ

ทานข้าวเสร็จก็บ่ายกว่า ได้เวลาเข้าห้องพักครับ
ห้องที่ผมจองจะเป็นห้องแบบ โอเชี่ยน ฟรอนท์ สวีท
เป็นห้องสวีทหรูหราขนาด 62 ตารางเมตร สามารถเห็นวิวทะเลได้แบบเต็มตา 180 องศา กันเลยทีเดียว

ในห้องพักมีอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่สำหรับ 2 ท่าน (เสียดายแช่คนเดียว อิอิ)

ตกแต่งโทนสีน้ำเงินครับ ชวนให้นึกถึงเชฟชาอูน

มุมจากระเบียงห้องนอนจะเห็นว่าอยู่ด้านหน้าสุดของตึก ห้องแบบนี้อาจจะต้องแย่งชิงกันหน่อยเพราะมีแค่ 6 ห้องเท่านั้นครับ
.
มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ ทิวปาล์มและทะเลครับ
ตอนเช้ามีพระอาทิตย์เป็นนาฬิกาปลุกธรรมชาติครับ

มองเข้ามาในห้องนอน กว้างมากครับ แยกส่วนพักผ่อนและสันทนาการออกจากกัน มีเตียงขนาดใหญ่ มีเดย์เบด และมุมห้องอีกด้านยังมีโซฟารับแขกด้วยครับ ส่วนโถงประตูเป็นโซนห้องน้ำห้องแต่งตัว ซึ่งซอยย่อยไปอีกครับ
.
การตกแต่งเน้นความเรียบง่าย มีงานศิลปะที่เป็นสัญลักษณ์ของ Moroccan Style แทรกตัวอยู่
.
ส่วนตัวรู้สึกชอบห้อง type นี้มากครับ

ห้องน้ำอลังฯ มว๊ากกกกกก พูดเลย
ชอบกระจกที่มีเยอะเล่นกับความรู้สึกว่าเหมือนกำลังเดินอยู่ในเมดิน่าที่เฟซ มีความตรอกซอกซอย วกไปวนมา ลึกลับ ซับซ้อนพอสมควร
.
การตกแต่งที่ใช้ทั้งโมเสค โคมไฟ ข้าวของเครื่องใช้ โทนสีที่ใช้ ถือว่าลงตัวครับ ห้องนี้เหมาะสำหรับคู่รักมาฮันนีมูนจริงๆ นะ!!

ห้องสุขา มีความเรียบง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์สไตล์โมร็อกโก คือเพิ่มดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่างโคมไฟ หรือตัวชักโครกแบบลอยได้
.
อารมณ์เหมือนนั่งพรมวิเศษว่ามั้ยครับ!?!!

เก็บของเข้าห้องเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาสปาที่ Noora Spa จองไว้ตั้งแต่ก่อนมาเช็คอินเลยครับ เพราะคิวค่อนข้างแน่น
.
“นูรา” เป็นภาษาอารบิกแปลว่า ”สว่างไสว”เข้าใจว่าตั้งชื่อเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำสปาอารมณ์โมร็อกโก ให้สัมผัสถึงความสุขสงบที่แท้จริงภายในใจ (นี่ผมเดาเอาเองนะ)
.
เพราะจะว่าไป หลังการทำสปา มันก็จะฟินๆ หน่อยว่ามั้ย 555
นั่นไง ความสุขเกิดขึ้นแล้วครับ
.
การตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในวัง สังเกตได้ว่าสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายใน นูรา สปา นั้นโไม่ค่อยเหมือนพื้นที่อื่นๆ ภายในโรงแรม

มันจะมีความเป็นสไตล์โมเดิร์นสปาอารมณ์ลึกลับแบบโมร็อกโก เน้นการใช้แสงสื่ออารมณ์ชวนค้นหา วางไลท์ทติ้งไปตามซอกทางเดินภายในสปา
.
ผมว่าเป็นอารมณ์ที่แปลกใหม่น่ามาทดลองดีครับ

ที่นูรา สปา มีให้เลือกหลายโปรแกรมนะครับ
ตัวเน้นๆ หน่อยก็จะเป็นน้ำมันอากัน (Argan Oil) ส่งตรงมาจากโมร็อกโก ผมเคยไปซื้อมาราคาเอาเรื่องอยู่ แต่ก็ถือว่าถูกกว่าที่ซื้อในบ้านเรา แถมคุณภาพดีกว่าด้วย
.
น้ำมันอากันก็จะช่วยในเรื่องการฟื้นฟูเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น คืนสัมผัสที่อ่อนโยนของผิว อะไรประมาณนี้
.
ลองสอบถามจากเจ้าหน้าที่ดูได้ครับ โปรแกรมนวดมีค่อนข้างหลากหลาย
.
แต่ถ้าจะมาใช้บริการอีกผมก็จะเลือกน้องคนนี้ครับ นวดไปยิ้มไป นางอารมณ์ดี ชวนให้เราผ่อนคลาย

ใครที่นวดเสร็จแล้วติดใจอยากได้น้ำมันนวดกลับบ้านก็มีขายนะครับ สอบถามจากเจ้าหน้าที่ นูรา สปาได้เลย
.
เช็คดีๆ บางทีมีโปรโมชั่น

นวดเสร็จก็มาเดินเล่นก่อนจะไปจิบชาครับ
เดินผ่านส่วนสันทนาการของโรงแรมมีทั้ง
•ฟิตเนส (เปิด 24 ชั่วโมง)
•จามาลคิดส์คลับ
•และตลาดอาหรับ เป็นร้านขายของที่ระลึกชื่อร้าน “Souk” ขายของที่ระลึกนำเข้าจากโมร็อกโกและสินค้าแบรนด์ของโรงแรม ที่นี่ยังมีบริการให้เช่าชุดโมร็อกโกใส่ถ่ายรูปด้วยนะครับ

ขลุกอยู่ในตลาดอาหรับภายในโรงแรมสักพัก ก็ได้หมวกมาใบนึงครับ เอาไว้ใส่เดินริมทะเล
มีทั้งแบบของผู้ชายและผู้หญิง ของผมไม่ใช่แบบนี้น๊า เป็นหมวกปานามา ออกแนวเท่ห์ๆ
.
ส่วนของอีกอย่างที่อยากได้คือคริสตัลอูฐครับ น่ารักมาก

ช้อปเสร็จ ก็ได้เวลา afternoon tea
มีน้องพนักงานมาตามไปจิบชาสไตล์โมร็อกโก
ของหวานที่นี่น่ารักดีครับ มีหลากหลายสไตล์
เยอะพอๆ กับมุมถ่ายรูป
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะนั่งตรงไหนดี!!

สุดท้ายมาจบที่วิลล่าริมสระว่ายน้ำครับ มองออกไปเห็นวิวทะเลด้วย
เซ็ทชาที่นี่มีให้เลือกหลายแบบนะครับ
ต้องชมเชฟว่าดีไซน์ของหวานออกมาได้น่ารักแต่ไม่กล้ากิน กระจุ๋มกระจิ๋มพริ้มเพราะ 5555
•สีแดงชมพูด้านหน้าชื่อ Chocolate Gateau
•สีฟ้าด้านในคือ Lemon Rock Salt อันนี้อร่อยมาก ละลายไวไปนิด 55
•ส่วนน้องหอยนี่ก็น่ารัก คือ Chocolatate Shell ตัวหอยทำจากน้ำตาลขึ้นรูป ส่วนด้านในเป็นช็อกโกแลตครับ
.
สั่งขนมมาเยอะหน่อย เพราะว่านัดเพื่อนที่หัวหินเอาไว้ กะจะมาจอยกันครับ

มุมจากทะเล มองย้อนกลับไปในรีสอร์ทครับ
ห้องกระจกที่เห็นคือห้องแบบที่ผมเลือกพักครับ
.
ยิ่งใกล้ค่ำบรรยากาศยิ่งดี มีแขกเริ่มมาจับจองที่นั่งบนสนามหญ้าเพื่อทานอาหารค่ำและนั่งดื่มกันที่ “อัล บาห์ บีช บาร์” ครับ

พระอาทิตย์ตกที่มาราเกซ
มันก็จะฟินๆ หน่อย
.
ถ่ายระหว่างเดินเล่นเก็บภาพในโรงแรมครับ
ดูรูปเพิ่มเติมที่นี่นะครับ >> https://pantip.com/topic/37588940/

เนื่องจาก Marrakesh Hua Hin Resort & Spa เป็นรีสอร์ทติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เอ๊ยย ทะเลหัวหิน
โซนนี้จะไม่ค่อยพลุกพล่านครับ แต่ก็จะมีนักท่องเที่ยวและแขกของโรงแรมต่างๆ มาเล่นน้ำ ทำกิจกรรมกันริมชายหาด ครึกครื้นพอสมควรครับ

ช่วงนี้เริ่มค่ำ น้ำเริ่มลง
บรรยากาศก็เริ่มหม่นๆ เล็กน้อย
สงสัยจะได้เวลาไปใช้บริการบาร์ของโรงแรมซะแล้วครับ

อัล บาห์ บีช บาร์ ในภาษาอาหรับแปลว่า “สรวงสวรรค์”
คงอารมณ์เหมือนจิบเครื่องดื่มแล้วฟิน ประมาณนี้
ถือเป็นไฮไลท์อีกอย่างของ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa เลยนะครับ เพราะมีทั้งแขกโรงแรม และแขกจากภายนอกมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
บีนแบ็กนี่เต็มหมดนะครับ แนะนำว่าอาจจะต้องจองตั้งแต่ตอนเช็คอินเลยครับ
.
บรรยากาศตอนใกล้ค่ำ มันก็จะฟินๆ หน่อย

แขกต่างชาติเยอะพอสมควรครับ
ที่ อัล บาห์ บีช บาร์ ถือว่าได้รับความนิยมพอสมควรครับ
อาจจะด้วยบรรยากาศและรสชาติ
เครื่องดื่มหลายตัวเป็นการครีเอทขึ้นมาใหม่
อาหารก็เป็นฟิวชั่นฟู้ดระหว่างอาหารไทยและอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์ซีฟู้ด ออกแนวปาร์ตี้กินเล่นกินหนัก มีหมดครับ เลยน่าจะถูกใจหลายคน
.
ถ้าไม่ชอบตึ๊ดๆ ก็มาที่นี่ได้นะครับ

เครื่องดื่มที่เป็น Signature มีหลายตัวมาก
อันนี้ก็น่ารักชื่อว่า “Prince of Persia” จิบแล้วอยากนั่งพรม 555
ส่วนผสมมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ ถามบาร์เทนดี้ก็ไม่ยอมตอบ (เป็นความลับ-นางว่า)
ก็แหงสินะครับ แต่แกะสูตรเอาเดาว่าจะต้องมี Vodka เป็นเบส แล้วก็มีน้ำส้ม หรือน้ำมะนาว ตัดเปรี้ยวด้วยน้ำตาลมะพร้าวพอหอมๆ ท๊อปด้วยโฟมแล้วก็สัปปะรด

PIZZA!!
บอกได้เลยว่าดีใจยิ่งกว่าเจอขุมทรัพย์อาหรับ
พิซซ่าหน้ากะเพราะทะเลและชีส คิดได้ไง
มันแซ่บมากกกก อร่อยเวอร์ ซีฟู๊ดท๊อปมาก็ตัวใหญ่คัดไซส์จ้า
.
มาแล้วไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง

แก้วนี้คือ Al Bahr Bliss เห็นแก้วรูปทรงสวยเลยสั่ง
ก็อร่อยดีมีความสดชื่น
หลายแก้วละเนี่ยที่สั่งมาเพราะสวยด้วยความ Signature ไง
นี่ก็ดีนะ Arabian Night เป็นแก้วทรงอูฐ น่ารักดี (ดูรูปที่นี่นะ)
แล้วก็ยังมีอีกหลายดริงก์เลยอ่ะที่สั่งมาลอง เก๋ๆ แปลกๆ ทั้งนั้นเลย เป็นเครื่องดื่มที่ครีเอทขึ้นมาใหม่ สไตล์โมร็อกโก … ถามว่าเมามั้ย

จะเหลือเร๊อะ!!

อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ที่นี่ต่างไปจากบีช บาร์ ทั่วๆ ไป คือ บรรยากาศยามเย็นและยามค่ำคืนที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน
.
ถ้าเป็นยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำสามารถดื่มด่ำไปกับของทะเลและบรรยากาศสดใส
.
ในขณะที่ยามราตรีสามารถเอนกายรับลมทะเลเย็นๆ บน Bean Bag ที่สนามหญ้า มีสีสันของไฟสลับสีชวนตื่นตา หรือว่าจะนั่งตรงกระโจมบาร์ก็เก๋ดีครับ

มีดนตรีสดเล่นให้ฟังตลอดเวลาจ้า!!
รอบเย็นกับรอบค่ำ
สแนปรูปมาฝาก
.
งานดีไหม … ลองถามใจตัวเองดู

ก่อนกลับจาก อัล บาห์ บีช บาร์
แวะไปถ่ายรูปที่มุมมหาชน คนเยอะมาก
มาแล้วต้องถ่าย
ถ้ามาแล้วไม่ได้ถ่ายมุมนี้ให้กลับมาใหม่
ถ่ายตอนดึกนิดนึง จะได้ไม่มีคน
มุมมหาชนยามค่ำคืนที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa สวยสง่า ตลอดเวลาจริงๆ

เตียงนอนก็นุ่มหลับสบาย ไม่อยากตื่นเลยจ้า
แต่ตั้งใจเพราะเปิดม่านเอาไว้
เพื่อ!?!!
ก็จะให้พระอาทิตย์มาปลุกไปถ่ายรูปตอนเช้ายังไงล่ะครับ
.
สนูซนาฬิกาหลายรอบจนแดดส่อง 555

ทะเลที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa จะตรงกับช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นพอดีครับ
.
หากใครพักห้อง type เดียวกับผม เราก็สามารถดื่มด่ำอารมณ์กู๊ดมอนิ่งฟีลลิ่งได้บนระเบียงห้อง
.
หรือหากห้องอื่นๆ ก็สามารถลงมาเดินเล่นบนสนามหญ้า หน้าชายหาดเพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นได้ครับ

แมวๆ เตะบอลกันฮะ

ห้องอาหารหลักของรีสอร์ทชื่อ “ห้องอาหารอัล ฮัมรา” แปลว่าสีแดงครับ
.
ที่นี่ใช้ทานอาหารเช้า กลางวันและเย็น เป็นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นโมร็๋อกโก เพิ่มรายละเอียดของกระเบื้องเขียนมือสีสันสดใสบนเพดาน เป็นห้องอาหารนานาชาติที่มีหลากหลายเมนูให้เลือกทั้งอาหารตะวันออกและตะวันตก รวมถึงเมนูท้องถิ่นของหัวหินด้วยครับ

วิวจากด้านในห้องอาหารก็จะประมาณนี้ครับ มีความฟ้า ส้มแดง ผสมๆ กันไป ให้อารมณ์เหมือนตอนที่ไปทานอาหารที่คาซาบลังก้า ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

บรรยากาศภายในห้องอาหาร อัล ฮัมรา ที่ตกแต่งในสไตล์ Neo Morocco จะเห็นว่ามีลวดลายที่สวยงาม โดยเฉพาะภาพเขียนเพดาน ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ ให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ของศิลปะแบบ Moroccan Style ที่ผสมทั้งความเป็นมุสลิมและฝรั่งเศส แทรกอยู่ในลวดลายของผนังฉลุ กระจกพ่นลาย โคมไฟ ฯลฯ
.
แต่พอมาอยู่ที่เมืองไทย อาจจะต้องเอา Moroccan Pattern มาลดทอนรายละเอียด ให้เหลือแต่ลายกราฟฟิกที่มีความเป็นสมัยใหม่มากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของงานศิลปะที่มีเลเยอร์ มีเท๊กซ์เจอร์บางอย่างอันเป็นเอกลักษณ์ มีความประณีตสวยงามและลงตัว

เช้านี้จัดหนักเลยครับ อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย
แต่ที่โดนใจผมเห็นจะเป็น “Menu of the Day” ครับ เหมือนจะสลับกันไปในแต่ละวัน เน้นที่อาหารไทยให้อารมณ์แตกต่างในความเป็นอาหารเช้าจากโรงแรมทั่วไป
.
อย่างเช่นวันที่ผมเข้าพัก เป็นเมนูน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอดแกล้มผักสดครับ เก๋ป่ะละ!!
.
ส่วนจานแนะนำที่ชอบและห้ามพลาดในไลน์อาหารเช้าของ Marrakesh Hua Hin Resort & Spa อาทิ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ หอมมากครับ แล้วก็มีไข่กะทะ ที่ผมชอบนะ
.
เลือกออกมานั่งทานด้านนอกก็ได้อารมณ์ธรรมชาติไปอีกแบบครับ

มาทะเลรอบนี้ หิ้วกางเกงว่ายน้ำคอลเลคชั่นสุดพิเศษ กับลวดลายและสีสันที่ไม่เหมือนใคร (เลือกลายสีแดงจะได้เข้ากับรีสอร์ท) เป็นของแบรนด์ Salawan X ISSUE Thailand ถือเป็น #ของมันต้องมี นะ
.
สั่งซื้อได้ที่ Iine ID:@salawanbkk (มี@นำหน้าครับ)
.
ส่วนกันแดดก็หนีไม่พ้น ต้องพกมา เลือก Eucerin เพราะว่าออกกันแดดตัวใหม่พอดี ชอบตรงที่ทาแล้วไม่เหนอะหนะ และไม่อุดตันง่าย (เค้ากลัวเป็นสิว)
.
ส่วนหมวก Panama ก็ซื้อมาจากตลาดอาหรับ Souk ในรีสอร์ทจ้า 250 บาท ถูกมว๊ากกกกก

ทานข้าวเสร็จแล้ว สายๆ ลงมานั่งพักใจที่ริมสระกันดีกว่าครับ
.
ว่ายน้ำสลับกับชมวิวทะเล ปล่อยใจให้ไหลไปเรื่อยๆ
พยายามทำตัวให้เหมือนหาดทรายคือไม่ยึดติด เวลามีรอยเท้ามาเหยียบย่ำ ก็ปล่อยให้มันอยู่ไว้อย่างนั้น เพราะอีกไม่นานเมื่อมีคลื่นมากระทบ รอยนั้นก็จางหายไป ก็ถือโอกาสชะล้างจิตใจไปในตัว
.
อ๊ะ!! คม!! ป๊วะ!!

แม้เวลา 2 วัน 1 คืน ที่ Marrakesh Hua Hin Resort & Spaอาจจะเทียบไม่ได้กับเมื่อตอนที่เราไปเที่ยวโมร็อกโก 9 วัน ก็แหงละ 55
.
แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราสัมผัสถึงเสน่ห์สไตล์โมร็อกโกได้ เพราะเลือกเอาความโดดเด่นของทั้งแดนอาหรับมาไว้ที่นี่ ชอบการออกแบบตกแต่งที่สวยงาม มีสีสันสดใสในสไตล์โมร็อกโก แต่สร้าง Signature บางอย่างของรีสอร์ทขึ้นมาใหม่ เพื่อให้คนได้จดจำ แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก เหมาะแก่การเอาชุดแขกมัวร์มาใส่ถ่ายรูปริมทะเล
.
ชอบการบริการของที่นี่ มีความเป็นกันเอง เต็มใจในการให้บริการ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายหลายคนอาจจะบ่นว่าแรงไปนิด แต่ถ้าเทียบกับความรู้สึก สัมผัส จากการออกแบบตกแต่งที่ได้รับแล้วส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างคุ้มค่าครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน