Grand Bangkok Boulevard (Pinklao – Kanchana)

“𝐈 𝐜𝐚𝐧’𝐭 𝐬𝐞𝐞𝐦 𝐭𝐨 𝐬𝐭𝐨𝐩 𝐬𝐢𝐧𝐠𝐢𝐧𝐠 𝐰𝐡𝐞𝐫𝐞𝐯𝐞𝐫 𝐈 𝐚𝐦” หนึ่งในประโยคสุดคลาสสิคของ Maria หญิงสาวจากเมือง Nonnberg เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music เธอใช้ดนตรีเป็นวิธีเชื่อมต่อกับเด็กๆ และนำความสุขมาสู่ชีวิตของทุกคน ผ่านเสียงเพลง “Do-Re-Mi”

.

ภาพยนตร์ถ่ายทำในสถานที่สุดโรแมนติกคือ Mirabell Palace ในเมืองซาลซ์บูร์ก ออสเตรีย บ้านเกิดของ Mozart คีตกวีชื่อดัง เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยเจ้าชาย-อาร์คบิชอป Wolf Dietrich ให้กับคนรัก Salome Alt และต่อมาได้รับการออกแบบใหม่โดย Lukas von Hildebrandt สถาปนิกสไตล์บาโรกผสานกับนีโอคลาสสิค กลายเป็นสถานที่แสนโรแมนติกสำหรับคู่รักและคนที่ชื่นชอบในเสียงดนตรี

.

กานต์เคยไปมาแล้วครั้งหนึ่งครับ ประทับใจมากด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความสมมาตร ดูยิ่งใหญ่ การตกแต่งภายในที่หรูหราและสง่างาม โดดเด่นด้วยเสาใหญ่ ภายในประดับงานประติมากรรม หลังคาด้านบนมีลูกกรงและรูปปั้น

.

สวนของพระราชวังยังได้รับการออกแบบในสไตล์บาโรก โดยมีน้ำพุ ประติมากรรม และแปลงดอกไม้โอบล้อมพระราชวังไว้ เป็นการผสมผสานศิลปะเข้ากับธรรมชาติได้ดี ความหรูหราและสง่างามของพระราชวังและสวนแห่งนี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจชั้นเลิศ สำหรับสถาปนิกและนักออกแบบทั่วโลก มานานหลายศตวรรษ

.

โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา (Grand Bangkok Boulevard Pinklao – Kanchana) ก็ได้นำเอาสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในที่หรูหรา และสวนที่มีโครงสร้างแบบของพระราชวัง Mirabell มารังสรรค์เป็นบรรยากาศที่หรูหรา

.

สถาปนิกหยิบยกเอากลิ่นอายของการออกแบบสไตล์บาโรกและนีโอคลาสสิค ผสมผสานเข้าความโมเดิร์นของยุคสมัย ลดทอนรายละเอียดลงและคงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่แท้จริง จนกลายมาเป็นคฤหาสน์หรูสไตล์ Classic Luxury ที่นำเสนอเอกลักษณ์ของพระราชวังและสวนที่รายล้อมด้วยดอกไม้ และเสียงน้ำพุแห่งบทกวี เป็นแบบบ้านดีไซน์ใหม่ที่เราจะไม่เคยเห็นจากโครงการไหนมาก่อนครับ ให้ทุกการอยู่อาศัยรายล้อมด้วยความรักและเรื่องราวการใช้ชีวิตที่อบอุ่น ในทำเลที่สามารถเชื่อมต่อทุกการเดินทางเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

.

กานต์จะค่อยๆ พาเดินชมความงามของพระราชวัง Mirabell ที่หยิบยกแรงบันดาลใจมาไว้ที่ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละ Element ผ่านแคปชั่นของแต่ละภาพ ติดตามไปพร้อมๆ กันนะครับ

.

สนใจดูรายละเอียดและลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ : https://m.scasset.com/I9Uv

สอบถามเพิ่มเติม LINE : @GBBPK2023

..

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา เป็นโครงการที่นำเสนอบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่เชื่อมโยงรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยเข้ากันได้อย่างเหนือระดับ ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด บนเนื้อที่โครงการ 35-2-98 ไร่ เอกสิทธิ์เพียง 52 ครอบครัวเท่านั้นครับ ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากพระราชวัง Mirabell ที่ออสเตรีย

โครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ถือว่ายอดเยี่ยม ขยับเข้ามาบนถนนบางระมาดเล็กน้อยประมาณ 150 เมตร เชื่อมต่อถนนสายหลักอย่างวงแหวนกาญจนาภิเษก สะดวกในการเดินทางได้หลากหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นพุทธมณฑล เพชรเกษม ราชพฤกษ์ บรมราชชนนี มีทางด่วนศรีรัชฯ (ด่านตลิ่งชัน) ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร

ตลอดจนเชื่อมต่อกับขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีแยกไฟฉายและรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีบางหว้า

.

รอบโครงการเป็น Residential พื้นที่พักอาศัยที่ไม่พลุกพล่าน ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับการพัฒนาเป็นที่พักอาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง

ทำเลนี้ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความครบครันไม่ว่าจะเป็น เดอะพาซิโอ้ พาร์ค กาญจนาฯ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม, เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์, ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค ฯลฯ สถานศึกษาชั้นนำ ได้แก่ โรงเรียนเพลินพัฒนา, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ กรุงเทพฯ, โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด, โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเคนซิงตัน ฯลฯ

ส่วนศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน อาทิ โรงพยาบาลธนบุรี 2, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์, โรงพยาบาลพญาไท 3 และโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้น

โครงการนี้ได้หยิบยกแรงบันดาลใจจาก Mirabell Palace เป็นพระราชวังสไตล์บาโรกผสมผสานนีโอคลาสสิค ตั้งอยู่ในเมืองซาลซ์บูร์ก ออสเตรีย มารังสรรค์ใหม่โดยสถาปนิกนำเสนอกลิ่นอายของงานดีไซน์ไม่ว่าจะเป็น เสา ผนังทรงโค้ง รูปปั้น สวนดอกไม้ น้ำพุ ลูกกรงและองค์ประกอบอื่นๆ มาเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบโครงการนี้

เมื่อมาถึงด้านหน้าโครงการจะพบกับ Main Gate ขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยป้ายชื่อโครงการ ภาพรวมของซุ้มประตูทางเข้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวัง Mirabell สอดรับกันดีกับ Clubhouse Main Park และบรรยากาศภายใน ซึ่งมีขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกหรูหราอลังการรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ทัศนียภาพภายในโครงการดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม เนื่องจากร้อยสายไฟลงดินให้แล้วทั้งโครงการครับ

การรักษาความปลอดภัยใช้ระบบ Double Security System จึงให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยสูง โดยการเข้าออกของรถยนต์จะเป็นระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติ (License Plate Recognition) เพื่อช่วยจัดการรถยนต์ของลูกบ้านและแขกที่มาพบได้อย่างสะดวกง่ายดาย ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันรู้ใจ (RUEJAI HOME OS) พร้อมมีโหมดห้ามรบกวนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย นับเป็น 1 ในนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีจาก SC Asset

นอกจากนี้ ยังมีระบบกล้อง CCTV โดยรอบโครงการ 37 จุด รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรเสริมด้วยระแนงสูงอีก 2 เมตร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 

โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา นำเสนอภาพของความหรูหราในการพักอาศัยที่ยังคงมุ่งเน้นการรักษาความเป็นส่วนตัวของทุกคน ดังนั้น ภายในโครงการออกแบบให้เป็นระบบ Double Main Gate เพื่อแยกโซน Residential กับพื้นที่ีรับรองออกจากกัน

บ้านส่วนใหญ่จะเป็นแปลงมุม แต่ละซอยจะมีบ้านเพียง 2-4 หลังเท่านั้น โครงการวางผังบ้านทุกหลังไว้ในแนวทิศเหนือ-ใต้ เพื่อรับลม ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี โดยแบบบ้านที่เราจะมาชมกันในครั้งนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นซีรีส์ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ที่ดินขนาด 100 ตร.วา ขึ้นไปในบ้านทุกหลัง

แบบบ้านขนาดใหญ่สุดชื่อว่า Mirabell ชื่อเดียวกับพระราชวัง ขนาดที่ดิน 171 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 817 ตร.ม. ขนาดฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อนและมี 1 ห้องพักผ่อนขนาดใหญ่ หน้าบ้านมีสระว่ายน้ำส่วนตัว พร้อมครัวไทยด้านใน พื้นที่ซักล้างและห้องนอนแม่บ้านจำนวน 2 ห้อง

โครงการออกแบบ Exterior บ้านเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบ Classic Luxury ที่จะพบได้ที่นี่เป็นโครงการแรกของ SC Asset โดยลดทอนรายละเอียดบางอย่างลง เพื่อให้คงความโมเดิร์นคลาสสิคเอาไว้ หลังคาเป็นทรงปั้นหยาเพิ่มกิมมิคดีไซน์หน้าจั่วให้คล้ายกับพระราชวัง Mirabell ภาพรวมของบรรยากาศบ้านและสโมสรจึงสอดรับกันดี

ตัวบ้านเลือกใช้โทนสีเบจ สีน้ำตาลกับสีเทาไล่เฉดทำให้บ้านดูเรียบหรูโก้ ขับความเข้มของเส้นสาย Facade ด้วยวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมสีเทาเข้ม ออกแบบให้เป็นซี่คล้ายลูกกรงตรงกับงานออกแบบของพระราชวัง Mirabell ให้ความเป็นส่วนตัวและเติมลวดลายให้กับหน้าบ้าน

ทั้งยังโชว์ความโปร่งด้วยผนังกระจกใส ดีเทลของเสาและผนังทึบเป็นแบบย่อมุมเพื่อเพิ่มมิติให้ตัวบ้าน กรุผนังด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีเข้มที่หนักแน่นคล้ายหิน ทำให้ได้ฟีลลิ่งของการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานด้วยหลังคาที่ติดตั้ง Solar-Roof และแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของลูกบ้านมาให้แล้ว เป็นหนึ่งใน 7 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตจาก SC Asset

ด้านหน้าออกแบบให้มีโถงทางเดินแบบ Semi-Outdoor เชื่อมต่อจากลานจอด โดยลงรายละเอียดให้เป็นทางลาดที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม ทำให้สะดวกสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กต้องใช้รถเข็น หรือบ้านที่มีผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้วีลแชร์

หน้าบ้านเป็นพื้นที่ลานจอดรถ สามารถจอดได้ 5 คัน โครงการได้ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านเพื่อป้องกันการทรุดเอาไว้ให้แล้ว พื้นเป็นคอนกรีตแสตมป์เพื่อความแข็งแรง ทนทานและยังทำความสะอาดง่าย ส่วนรั้วทางเข้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน โครงการยังได้ติดตั้งมอเตอร์สำหรับทำเป็นรางเลื่อนไฟฟ้าไว้ให้แล้วด้วย

ทางโครงการได้วางระบบ Wallbox ในการติดตั้ง EV Charger เป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟสแบบ 50/150 เพื่อรองรับสำหรับบ้านไหนที่มีรถยนต์ไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้าภายบ้านให้กำลังโหลดสูงๆ ได้สบายเลยครับ

นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีประตูบานเล็กลายไม้ สำหรับเดินเข้าบ้าน ผ่านทางลานจอดตรงเข้าสู่ครัวโซนด้านหลังบ้านได้ทันที นับว่าสะดวกมาก ส่วนด้านในจะมีตู้เก็บของขนาดใหญ่สำหรับเคลื่อนย้ายจากรถเข้าไปเก็บได้สะดวกเช่น ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน หรือเอาไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน

ภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งออกมาได้อย่างหรูหรามีระดับ ด้านหน้าเป็น Arrival Hall ที่จัดวางแกรนด์เปียโนสีดำขนาดใหญ่เอาไว้ พร้อมพื้นที่นั่งพักคอยสำหรับแขกที่มาพบ ก่อนจะได้รับเชิญเข้าไปภายในบ้านอย่างเป็นทางการหรือใช้เป็นพื้นที่สวมรองเท้าก่อน-เข้าออกบ้าน

ประตูหน้าบ้านแบบ Over Scale เป็นบานคู่ปิดผิวลายไม้ของ TOSTEM กรุกระจกใสเป็นช่องเล็กๆ เพื่อให้ดูไม่ทึบตันจนเกินไป มาพร้อมกับ Digital Door Lock ของ Baldwin พื้นปูด้วยแกรนิตโต้แผ่นใหญ่นำเข้าจากอิตาลี โครงการติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor เอาไว้ให้แล้วทั้ง 2 ชั้น ตลอดจน Smoke Detector, Heat Detector รวมถึงติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจาก AIS FIBER ให้ลูกบ้านฟรี 1 ปี สามารถเปิดปิดควบคุม สั่งการระบบไฟภายในบ้านได้จากมือถือผ่าน RUEJAI HOME OS

“𝐋𝐢𝐟𝐞 𝐢𝐬 𝐥𝐢𝐤𝐞 𝐚 𝐩𝐢𝐚𝐧𝐨, 𝐭𝐡𝐞 𝐰𝐡𝐢𝐭𝐞 𝐤𝐞𝐲𝐬 𝐫𝐞𝐩𝐫𝐞𝐬𝐞𝐧𝐭 𝐡𝐚𝐩𝐩𝐢𝐧𝐞𝐬𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐡𝐞 𝐛𝐥𝐚𝐜𝐤 𝐬𝐡𝐨𝐰𝐬 𝐬𝐚𝐝𝐧𝐞𝐬𝐬, 𝐛𝐮𝐭 𝐚𝐬 𝐲𝐨𝐮 𝐠𝐨 𝐭𝐡𝐫𝐨𝐮𝐠𝐡 𝐥𝐢𝐟𝐞’𝐬 𝐣𝐨𝐮𝐫𝐧𝐞𝐲, 𝐫𝐞𝐦𝐞𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐛𝐥𝐚𝐜𝐤 𝐤𝐞𝐲𝐬 𝐚𝐥𝐬𝐨 𝐦𝐚𝐤𝐞𝐬 𝐦𝐮𝐬𝐢𝐜.

-Gary Oldman

เดินเข้ามาภายในตัวบ้าน กานต์รู้สึกได้ทันทีถึงความโปร่งสบายเป็นบ้านหน้ากว้างที่ให้ Common Area ขนาดใหญ่ ออกแบบและตกแต่งภายในได้อย่างหรูหรา จัดวางฟังก์ชันภายในบ้านอย่างเป็นสัดส่วนลงตัว ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไอเดียสำหรับใครที่อยากจะมาเป็นลูกบ้านในอนาคตอันใกล้นี้

Common Area เชื่อมต่อโถงต้อนรับเข้ากับพื้นที่รับประทานอาหารซึ่งจัดวางโต๊ะขนาด 10 ที่นั่งเอาไว้ แน่นอนว่าเราสามารถปรับเพิ่มขนาดได้ครับ เพราะว่ายังมีพื้นที่ว่างเหลืออีกมาก อยากจะจัดเป็น Long Table ก็ยังได้

ไฮไลท์ของมุมนี้คือการออกแบบให้เป็นพื้นที่โล่งจากพื้นจรดเพดานชั้น 2 แบบ Double Volume ระดับความสูง 6.8 เมตร ทำให้บ้านดูโอ่โถง โอ่อ่าและเสริมมุมรับประทานอาหารให้แกรนด์มากยิ่งขึ้น ด้านหลังรายล้อมด้วยกระจกใสแบบ Full-Height ให้เราได้เปิดรับวิวสวนขนาดใหญ่จากภายนอก ขณะเพลิดเพลินกับจานอาหารตรงหน้า

ติดกันเป็น Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหาร ตรงกลางจัดวาง Island พร้อมเก้าอี้สตูลบาร์สามารถใช้เป็นมุมรับประทานอาหารเช้าของเด็กๆ ได้ในบรรยากาศสบายๆ ในขณะที่คุณแม่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมมื้ออาหารอยู่ด้านในและยังใช้เป็นครัวเปิดในโอกาสที่เชิญเชฟชื่อดังมาทำอาหารให้ทานที่บ้านแบบส่วนตัวได้อีกด้วย

โครงการออกแบบให้มีเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) พร้อมอ่างล้างจาน เปิดช่องแสงผ่านหน้าต่างบานสไลด์ช่วยระบายอากาศได้ดี อีกด้านเป็นผนังกระจกใสมองเห็นครัวไทยที่อยู่ถัดไป

ติดกันเป็นทางเข้าห้องครัวไทยขนาดใหญ่มาก แยกไว้ด้านหลังอย่างเป็นสัดส่วน ออกแบบให้อยู่ในทำเลที่ทำให้แม่บ้านสามารถประกอบอาหารได้สะดวก ปราศจากกลิ่นรบกวนเข้ามาในตัวบ้าน เชื่อมโยงกับโถงกลางบ้านผ่านผนังกระจกใส โครงการได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวแบบฟูลออปชั่นมาให้แล้ว พร้อมตู้เก็บของบานปิดบนและล่างมาให้ดูเป็นไอเดีย ภาพรวมเป็นระเบียบเรียบร้อยดี มีฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบครัน ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดได้ดีมากครับ ทว่าบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งให้เราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือเป็นห้องน้ำที่จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำ สำหรับแขกและทุกคนในบ้านใช้งานร่วมกัน มีอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ มาพร้อมกับสุขภัณฑ์แบบ Washlet

ถัดเข้าไปด้านในเป็น Laundry Room สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า มีประตูเปิดออกไปเชื่อมต่อกับ Maid Plaza พื้นที่หลังบ้าน ลานซักล้าง ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว เป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยและการใช้งานจริงของแม่บ้าน เนื่องจากจะอยู่บริเวณเดียวกับ Maid Plaza โซนทำงานของแม่บ้าน สามารถกั้นเป็นโซน Back of House คือให้เป็นทางเข้าออกของแม่บ้าน ซึ่งแยกส่วนชัดเจนออกมาจากพื้นที่หลักของตัวบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวของเราครับ

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหารจะเป็นประตูเล็กที่เชื่อมต่อจากลานจอดรถ ซึ่งในความเป็นจริงจะเป็นประตูที่เราใช้งานบ่อยมาก เนื่องจากสามารถตรงเข้าภายในบ้านจากลานจอดรถ ผ่านทางประตูนี้ได้เลย ยิ่งหากวันไหนเราไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาก็สามารถขนข้าวของ อาหารผลไม้ ตรงไปเก็บไว้ในห้องครัวได้เลยทันทีครับ และยังมี Storage Room อยู่ในโซนนี้ด้วย

บริเวณประตูยังเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งระบบแผงควบคุมของ RUEJAI HOME OS ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันตัวเด็ดของ SC Asset เปลี่ยนเป็นบ้านอัจฉริยะ โดยเราสามารถที่จะควบคุมระบบความปลอดภัย สั่งการเปิด-ปิดระบบไฟภายในบ้านได้ง่ายๆ ผ่าน Smart Phone เรียกได้ว่าใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มการพักอาศัยในแบบ Living Solutions by SC Asset จริงๆ ครับ

ด้วยความที่ Common Area ชั้นล่างค่อนข้างกว้าง เรา สามารถใช้พื้นที่ทั้งหมดได้ในคราวเดียวกันหรือจะจัดแบ่งฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวก็ได้เช่นกัน เป็นไปตามไอเดียคอนเซปต์ของการจัดวางผังภายในบ้านแบบ Open Plan ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย

อย่างเช่นมุมที่อยู่ถัดเข้าไปด้านในออกแบบให้เป็น Great Room ขนาดใหญ่สำหรับรับรองแขก ตกแต่งได้หรูหรามีระดับ ภายในห้องที่มีขนาดใหญ่สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาด 6-10 ที่นั่ง

ผนังด้านนอกเป็นกระจกใสแบบ Full-height เปิดรับวิวสวนจากภายนอกจากบริเวณด้านหน้าบ้านและวิวสระว่ายน้ำส่วนตัวด้านข้าง ทำให้เราได้สัมผัสกับแมกไม้ที่ปลูกไว้บริเวณด้านหน้าบ้านคอยชูช่อขึ้นมาเพิ่มความสดชื่นสบายตา สามารถเปิดบานกระจกออกเพื่อรับลมเย็นๆ จากธรรมชาติได้ ส่วนผนังด้านในเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้สบายเลยครับ

บรรยากาศโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมน่าประทับใจมากครับ เรียกว่าเป็นห้องรับแขกที่มีความสนิทสนมส่วนตัวกับเราพอสมควรหรือเป็นบุคคลสำคัญสำหรับการพูดคุยธุรกิจสำคัญ

ติดกันเป็นเคาน์เตอร์บาร์ มาพร้อมกับเก้าอี้สตูลทรงสูง สำหรับเสริมบรรยากาศในการพูดคุยหรือเป็นพรีดินเนอร์ก่อนเริ่มมื้ออาหารก็ได้เช่นกัน

แต่หากตามแปลนบ้านจริง จุดนี้จะเป็นห้องนอนรองชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัวครับ โครงการจัดการทุบแล้วขยายออก จะได้เป็นไอเดียสำหรับรองรับการใช้งานให้ตรงกับไลฟ์สไตล์

บ้านตัวอย่างออกแบบให้ชั้นล่างด้านในสุด เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับครอบครัวที่อยู่ด้วยกันหลาย Generations ทำให้บ้านมาตรฐานจะมีห้องนอนชั้นล่างด้วยกันทั้งหมด 2 ห้อง

ข้อดีข้อแรกเลยก็คือไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได และทำให่้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ด้วยการเปิดพื้นที่โล่งโดยรอบห้อง บานกระจกเชื่อมต่อหน้าบ้านและหลังบ้านเข้าด้วยกัน

เราสามารถเปิดรับวิวสวนสีเขียว ดอกไม้นานาพันธุ์สีสันสดใสในช่วงเวลาเช้าหลังตื่นนอน และยังสามารถเปิดประตูออกมาขยับร่างกายแกว่งแขวนเบาๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้าได้อย่างสะดวกสบาย

ส่วนภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ไว้ค่อนไปทางด้านในเชื่อมต่อกับประตูกระจกใสด้านหลังทำให้นั่ง-นอนอยู่บนเตียงก็สามารถอิ่มเอมกับพื้นที่สีเขียวได้ ส่วนปลายเตียงจะเป็นมุมแต่งตัวที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งจัดวางตู้เสื้อผ้าไว้ติดผนัง โดยเว้นพื้นที่ตรงกลางให้กว้างเพียงพอต่อการเคลื่อนไหวตลอดจนการใช้รถเข็นวีลแขร์

ด้านข้างต่อเนื่องจากเตียงนอนจะเป็นมุมนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือที่จัดโต๊ะไม้เอาไว้ เราสามารถเปิดประตูออกไปสัมผัสกับบรรยากาศภายนอกห้องได้ ส่วนด้านข้างฝั่งหน้าบ้านจะเป็นวิวสระว่ายน้ำ ทำให้มองเห็นความเคลื่อนไหวของลูกหลานได้จากภายในห้อง เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไปในตัว

กานต์สังเกตว่าองค์ประกอบภายในห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างได้ออกแบบให้รองรับการใช้งานอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นพื้นห้องที่ใช้เป็น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกเวลาที่เกิดการณ์ไม่คาดคิด ประตูห้องนอนและห้องน้ำที่มีขนาดกว้างกว่าปกติเพื่อรองรับการใช้วีลแชร์ และไม่มีธรณีประตู

ห้องน้ำออกแบบให้มีราวจับถือกระจายไปในหลายจุด กระจกเงาบานใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน และยังออกแบบให้มีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดออกไปเพื่อระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำให้ด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงหลัก Universal Design และสุขอนามัยไปพร้อมๆ กันครับ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่กานต์ชอบและเชื่อว่าหลายคนก็ชอบอยากให้บ้านของเรามีสระว่ายน้ำส่วนตัว เปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันทั้งภายในและภายนอกบ้าน

โครงสร้างสระว่ายน้ำเชื่อมต่อกับตัวบ้าน เป็นสระที่มีขนาดกำลังดี ติดตั้งระบบว่ายทวนน้ำเอาไว้ให้เราออกกำลังกายเรียกเหงื่อเบาๆ ได้ภายในบ้าน มีลานสำหรับให้เราติดตั้งเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ เพิ่มเติมได้ครับ

กานต์ว่ามุมนี้ Vibes ดีมากครับ สำหรับการใช้เวลาพักผ่อนอยู่บ้านร่วมกันกับสมาชิกในครอบครัว เพราะหากเรามองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำสีฟ้าอยู่ภายนอกบ้าน เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor ท่ามกลางบรรยากาศของสวนและต้นไม้สีเขียว หากว่ามีพูลปาร์ตี้หรือกิจกรรมภายในบ้านก็สามารถเปิดออกมาเชื่อมต่อกันได้

ด้านนอกออกแบบให้มี Sunken Seating พร้อมหลังคา สำหรับนั่งพักผ่อน เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟยามเช้า หรือนั่งพักเหนื่อยเบาๆ ระหว่างที่ว่ายน้ำ สามารถจัดชุดโซฟาที่นั่งกลางแจ้งและเก้าอี้อาบแดดมาวางเพิ่มได้

ดังนั้น ทุกองค์ประกอบล้วนเข้ากันได้ดีครับ เป็นกิมมิคที่ SC Asset ตั้งใจทำให้ลูกบ้านของโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา เพื่อทำให้เรากับธรรมชาติได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

ขึ้นบันไดไปชมชั้นบนกันบ้างครับ ในส่วนของบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้มะค่า พร้อมราวจับไม้ประดับซี่เหล็กดีไซน์วินเทจ ลูกนอนของบันไดค่อนข้างกว้าง ชานพักมีขนาดใหญ่เป็นพื้นแบบสี่เหลี่ยมทำให้เดินขึ้นลงสวนกันได้สะดวกมากเลยครับ ผนังด้านนอกเปิดช่องแสงผ่านกระจกใสทำให้บ้านดูสว่างด้วยแสงจากธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามา ส่วนโถงบันไดติดตั้งแชนเดอร์เลียพวงระย้าขนาดใหญ่ทำให้บ้านหลังนี้ดูมีความหรูหราอลังการมากยิ่งขึ้นครับ

เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นบนก็จะเริ่มเข้าสู่พื้นที่แห่งการพักผ่อน เป็น Family Area สำหรับสมาชิกในครอบครัว แนวคิดหลักในการออกแบบจะเน้นคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้สอย กิจกรรมที่หลากหลายระหว่างพักอาศัยของสมาชิกทุกคน ดังนั้นทุกพื้นที่ของบ้านสามารถเชื่อมต่อทุกความสัมพันธ์ได้อย่างสมดุล เชื่อมโยงฟังก์ชันของแต่ละมุมให้ต่อเนื่องกันสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

พื้นชั้นบนเป็นปาร์เก้ไม้สัก Family Area จัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบฟรีฟอร์มนำเสนอความเรียบหรูผ่านกำมะหยี่ที่หุ้มที่นั่งอยู่ โดดเด่นด้วยอาร์มแชร์สีแดงสดจัดวางเอาไว้ทำให้มุมนี้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น มีทั้งมุมนั่งคุยกัน ทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือทำงานอื่นๆ จะกั้นเป็นห้องพระ ห้องดูหนังก็ได้

SC Asset ยังได้นำนวัตกรรมมาใช้เพื่อให้บ้านดูสมาร์ทมากขึ้นด้วยระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน หรือ Active Air Quality ที่ออกแบบร่วมกับ SCG สร้างบ้านปลอดมลพิษทางอากาศ กรองอากาศให้สะอาดและดันอากาศเสียออกไปจากบ้าน สั่งการผ่านแอปพลิเคชันรู้ใจได้เลยครับ เวลานั่งทำงานที่บ้านก็จะได้รับอากาศบริสุทธิ์ ครีเอทงานใหม่ๆ ได้สบายเลย

ด้านในสุดถัดจาก Family Area จะเป็นห้องนอนรองครับ บ้านตัวอย่างออกแบบและตกแต่งสไตล์วัยรุ่นชาย เน้นการใช้สีแดงตัดกับดำทำให้ดูสดใสและให้ความหมายของความเป็นตัวของตัวเอง

ตรงกลางห้องจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่เอาไว้ เตียงสีแดงสดใสคุมโทนได้ดี หัวเตียงจัดวางโคมไฟทรงกลมเอาไว้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนปลายเตียงออกแบบให้มีเคาน์เตอร์ยาวสำหรับวางทีวีและเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมส่วนตัวได้สบายๆ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องแต่งตัวซึ่ง Build-in ตู้เสื้อผ้าเต็มพื้นที่เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) ผมชอบสไตล์ลิ่งของทาง SC Asset มาก ต้องชมการเลือกพรอพมาจัดวางได้ค่อนข้างลงรายละเอียดและบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยได้ดี

ติดกันเป็นห้องน้ำในตัวภายในห้องนอน มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในครบครัน ถือว่าลงตัวสำหรับการใช้งาน เพราะออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลยทันที

บ้านทุกหลังใน โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา ออกแบบห้องนอนทุกห้องให้เป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุก

ดีไซนเนอร์เลือกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน-แดงซึ่งเป็นคู่สีตรงกันข้ามที่สะท้อนความน่ารักสดใสออกมาได้ดี จัดวางฟังก์ชันภายในได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอนที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน พร้อมโต๊ะทำการบ้านวางไว้ข้างเตียง ปลายเตียงเป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางทีวี มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวได้ โดยออกแบบให้ทางเข้าหน้าห้องปรับให้เป็นพื้นที่ของชั้นโชว์และวางข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวแทน

กานต์ชอบห้องนี้เป็นพิเศษ เพราะอยู่โซนบริเวณด้านหลังบ้าน ข้อดีก็คือได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบและได้ความเป็นส่วน สามารถซ้อมกีต้าร์ แกะโน๊ต ร้องเพลง ใช้เวลาส่วนตัวกับกิจกรรมที่ชอบภายในห้องได้

อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการนี้ คือออกแบบให้บ้านมี Double Master Bedroom ครับ โดยห้องนอนหลักอีกห้อง จะอยู่โซนด้านหน้าบ้าน ภายในห้องมีขนาดใหญ่รองรับการพักอาศัยได้อีกครอบครัว หรือสมาชิกในบ้านที่โตขึ้นแล้วต้องการพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่ขึ้น

จุดเด่นของห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้างเปิดรับพื้นที่ของช่องแสงให้ขนานไปกับความกว้างของตัวบ้าน ตอนนอนอาจจะต้องติดตั้งม่านทึบแสงหลายจุดหน่อยแต่ก็ถือว่าดี เพราะได้เปิดให้แสงส่องสว่างเข้าตลอดทั้งวันโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟ

ภายในห้องตกแต่งสไตล์เรียบหรู ดูมีความเป็นอาร์ตติสเล็กๆ ภายในห้องจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ด้านใน พร้อมกับมีเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณปลายเตียง เป็นมุมที่ออกแบบมาสำหรับนั่งทำงานและพร้อมที่จะพักผ่อนในทันที หัวเตียงออกแบบมาแปลกตาดี ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนก้อนเมฆที่กำลังลอย ประดับด้วยโคมไฟดีไซน์เก๋คล้ายนกที่กำลังบินไปมา

ถัดเข้าไปเป็น Island จัดวางเครื่องประดับ เปิดพื้นที่ให้เป็นมุมออกแบบและแต่งตัวไปในคราวเดียวกัน เน้นโทนสีพาสเทล ม่วง ฟ้า ชมพู ดูแล้วน่ารีักสดใสดีครับ มีโต๊ะเครื่องแป้ง เชื่อมต่อกับห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ห้องนี้เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน ภายในห้องน้ำจัดวางอุปกรณ์รองรับการใช้งานครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้า พื้นที่อาบน้ำทั้งชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำกั้นส่วนเปียกแห้งเอาไว้เรียบร้อย

Master Bedroom ซึ่งถือว่ามีขนาดกว้างมาก แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัวดีครับ การออกแบบจะเน้นความโปร่งสบาย เนื่องด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่อย่างที่บอกไป

ผนังหัวเตียงอีกด้าน กั้นเป็นโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้นั่งราวกับห้อง Excecutive Suite ของโรงแรมหรู รับกับบรรยากาศการตกแต่งที่ดูเรียบขรึม ดูภูมิฐานของความเป็นเจ้าของคฤหาสน์ ด้านข้างเตียงจัดวางสตูลทรงเตี้ยดีไซน์หรูพร้อมโคมไฟส่องสว่างที่บริเวณหัวเตียง

ภายในห้องจัดวางเตียงนอนคิงส์ไซส์ไว้ตรงกลาง หัวเตียงบุนวมดูหรูหรา กิมมิคที่ผมชอบคือปลายเตียงสามารถกดรีโมทเลื่อนจอโปรเจคเตอร์ลงมาได้ให้เรานอนดูซีรีส์จากบนเตียงได้เลย ปลายเตียงเชื่อมต่อกับระเบียงจะมีชุดโซฟาที่นั่งสำหรับนั่งพักผ่อน ให้ความรู้สึกสบายใจเมื่อได้มองเห็นวิวธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในได้


ภายในห้องเปิดช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกโดยรอบ มาพร้อมกับประตูบานเฟี้ยมเปิดออกไปสู่ระเบียงขนาดใหญ่สำหรับนั่งพักผ่อนตอนเช้า เราให่้แม่บ้านเสิร์ฟกาแฟและอาหารเช้าเบาๆ ที่ระเบียงห้องชั้นบนได้เลย

ส่วนด้านข้างของอีกฝั่งแยกออกไปจะเป็น Relax Area แบบส่วนตัวภายในห้องนอน ลักษณะค่อนข้างโปร่งด้วยช่องแสงด้านหน้าและด้านข้างบ้าน

มุมนี้ สำหรับนั่งพักผ่อนดูทีวี หรือติดตามข่าวสาร วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ โดยเราสามารถปรับบริเวณนี้ให้เป็นมุมทำงานภายในห้องนอนได้ด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยในแต่ละบ้านครับ

ด้านในเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเอาไว้รอบห้องแบบไม่ต้องมีหน้าบานปิดก็ได้ ภายในดูหรูหราด้วยแสงไฟส่องสว่างสี Warm สะท้อนราวอลูมิเนียมดูวิบวับ ตู้เสื้อผ้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง 2 จุดแยกฝั่ง

ตรงกลางมี Island เก็บเครื่องประดับแบบส่วนตัว ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้นครับ ด้วยความที่ออกแบบให้ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำใช้พื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้สะดวกเวลาออกจากห้องน้ำมาก็สามารถแต่งตัวต่อได้เลยจบในจุดเดียว

Master Bathroom ห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ ภายในโดดเด่นด้วยอ่างอาบน้ำแบบฝังของ Kasch ขนาดใหญ่ แช่น้ำพร้อมกันได้ 2 คน ด้านหน้าทางเข้าทั้ง 2 ฝั่งแบบ His & Her เป็นมุมอ่างล้างหน้ามาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ขนาดรับกันพอดี ด้านในเป็นสุขภัณฑ์แบบ Washless อีกด้านติดตั้ง Shower Box พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้แล้ว

มาดูในส่วนของ Clubhouse กันบ้างครับ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา นำเสนอมนต์เสน่ห์ที่หรูหรา สะท้อนภาพความสง่างามของงานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมในสไตล์บาโรกและนีโอคลาสสิคของพระราชวัง Mirabell

สวนของพระราชวัง นับเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามที่สุดของเมืองซาลซ์บูร์ก โด่งดังจากการได้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์สุดคลาสสิกอย่าง The Sound Of Music ตอนที่มาเรียและเด็กๆ กำลังร้องเพลงและเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน พากันร้องเพลง “Do-Re-Mi” เต้นรำไปรอบๆ น้ำพุ Pegasus และใช้ขั้นบันไดเป็นเครื่องดนตรี

เราจึงได้เห็นการประยุกต์เอาแนวคิดดังกล่าวมาใช้ในการออกแบบ Clubhouse ของโครงการ โดยมีตัวอาคารอยู่ด้านหน้า Main Gate ล้อมรอบด้วยสวนสวยราวกับอยู่ในพระราชวัง Mirabell ภูมิสถาปนิกสามารถรวมสวนเข้ากับการออกแบบเพื่อสร้างความรู้สึกที่เงียบสงบ ร่มรื่น เป็นสถานที่แห่งความสบายใจเมื่อได้กลับมาถึงบ้าน

Clubhouse จึงเต็มไปสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่กระจายกันไปในหลายจุดทั่วบริเวณ พร้อมใจกันบานสะพรั่งให้สีสันสดใส ความสวยงามดุจภาพวาดของลวดลายของดอกไม้บนผืนหญ้า ทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากขึ้น

นอกจากสวนสวยด้านออกแล้ว การตกแต่งภายใน Clubhouse เรายังได้เห็นแรงบันดาลใจของสถาปนิกในการนำเอาองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมเฉพาะของ พระราชวัง Mirabell มาใช้ อาทิ ความโดนเด่นและยิ่งใหญ่อลังการของงานเสา โถงเพดานทรงสูง เส้นสายที่โค้งมนและดีไซน์ที่ลดทอนรายละเอียดออกไปทำให่้ดู Classic Luxury มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญอาคาร Clubhouse มีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ใช้สอยมากถึง 1,000 ตร.ม.เลยทีเดียว

สถาปนิกจึงสามารถสร้างอาคารที่มีทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งออกเป็น 2 อาคารใหญ่ ด้านหน้ามีจุด Drop-off ที่มีไฮไลท์คือห้องโถงสูงเกือบ 9 เมตร ดูอลังการมากๆ เพิ่มความโดดเด่นให้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วยการจัดไลท์ติ้งสีเหลืองทอง ภายในห้องจัดวางที่นั่งเอาไว้กระจายไปทั่วบริเวณ พื้นที่นี้ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของทางโครงการครับ

แต่หากลูกบ้านต้องการพักผ่อน แนะนำให้ใช้บริการ Club Lounge ซึ่งแยกออกไปเป็นอีกอาคารเชื่อมต่อกันด้านในซึ่งตกแต่งไว้อย่างหรูหรา

ภายใน Club Lounge มีเคาน์เตอร์บาร์พร้อมเก้าอี้ทรงสูง ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในบาร์หรูที่ยุโรป อีกทั้งยังจัดวางโซฟาดีไซน์ฟรีฟอร์มเพื่อให้รู้สึกถึงความอิสระ พริ้วไหว และช่วยลดทอดความแข็งกระด้างจากความเป็นอาคารสโมสรหลังใหญ่ บรรยากาศภายในจึงดูหรูหราทว่าอบอุ่นมากครับ สามารถจองเข้าใช้งานแบบสำหรับจัดเลี้ยงแบบส่วนตัวกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนได้เลยครับ

นอกจากนี้ ยังจัดให้มี Co-Working Space อยู่บนชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนตัว ภายในจัดวางที่นั่งเอาไว้หลายจุด สำหรับพักผ่อน นั่งทำงานและสร้างแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยว ให้เราอยากไปเที่ยวออสเตรีย

กานต์ชอบการออกแบบมุมส่วนตัว จัดวางเบาะโซฟาทรงโค้งครึ่งวงกลมบุผ้าลายสก๊อตแบบยุโรป แสงไฟสีส้มตัดกับผนังและเพดานสีน้ำเงินดีครับ ให้สัมผัสถึงความหรูหรา ดีไซน์เนอร์วางกิมมิคเล็กๆ เอาไว้เป็นกระจกเงาทรงโค้งสะท้อนผนัง ทำให้ห้องดูกว้างและมีมิติมากยิ่งขึ้น

ติดกันมีห้องประชุม สำหรับนั่งทำงาน พูดคุยเจรจาธุรกิจแบบส่วนตัว สามารถปิดประตูห้องใช้งานได้เลยครับ ด้วยความที่สโมสรตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการโดยแยกส่วนออกจากโซนพักอาศัย สามารถใช้เป็นพื้นที่นัดพบพูดคุยทางธุรกิจสำคัญโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปใน Resident Area และออกแบบให้มีพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือนด้วยครับ

ใกล้กันเป็นฟิตเนส จัดวางอุปกรณ์ในการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio และ Weight Training Machine ที่จะมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับเรา แต่ที่ผมชอบคือการจัดวางลู่วิ่งและจักรยานสำหรับคาร์ดิโอไว้ริมผนังกระจกใส High Ceilings ให้เราออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวสวนที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Mirabell Garden ทำให้ระหว่างออกกำลังกายเราจะได้รู้สึกสดชื่นไปกับพื้นที่สีเขียว

กานต์สังเกตว่าสถาปนิกได้ลดทอนรายละเอียดบางอย่างออกไปโดยปรับให้เข้ากับยุคสมัยยิ่งขึ้น ผสมผสานองค์ประกอบงานแบบคลาสสิกและความรู้สึกประณีตหรูหรา ตลอดจนเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งแรงบันดาลใจ เหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสง่างามและความซับซ้อนทางศิลปะที่โดดเด่นมาก

นอกจากสวนสวยแล้ว บรรยากาศของผู้คน วิถีชีวิตแบบหรูหราสไตล์ยุโรป ก็ได้ถูกนำมารังสรรค์ให้เกิดขึ้นภายในโครงการ โครงการมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 8×24 เมตรอยู่ด้านหน้า เป็นสระแบบ Semi-Outdoor ใช้เป็นสระระบบเกลือขนาดใหญ่ให้เราสามารถว่ายน้ำออกกำลังได้สบายเลย เรียกเหงื่อได้กำลังดี และมีพื้นที่สระว่ายน้ำสำหรับเด็กแยกออกไป โดยรอบสระว่ายน้ำจัดวาง Sundeck สีขาวเอาไว้รายรอบเพื่อเติมเต็มวันพักผ่อนสบายๆ ราวกับใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ตหรูอยู่ที่ออสเตรีย พร้อมห้องน้ำและล็อกเกอร์เก็บเสื้อผ้า

ด้านในเป็น Main Park ขนาด 1 ไร่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยรูปปั้น Pegasus และน้ำพุเพิ่มความสดชื่น ตอนเช้าและตอนเย็นจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับไปเดินเล่น ออกกำลังกายกลางแจ้งเบาๆ ในสวนเพื่อรับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนๆ สวนส่วนกลางออกแบบให้มีกิจกรรมทำมากมาย มีพื้นที่สำหรับเด็กๆ กำลังเล่นสนุกกันอยู่ที่ Kid’s Playground สีสันสดใสดีไซน์เป็นรูปเครื่องดนตรีให้มีความสอดคล้องกับฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music ที่ถ่ายทำให้สวนของพระราชวัง ทั้งนี้การออกแบบได้คำนึงถึงหลักความปลอดภัย ด้วยการใช้พื้นกันกระแทกเข้ามาเป็นวัสดุสำคัญ

#โดยสรุป โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – กาญจนา (Grand Bangkok Boulevard Pinklao – Kanchana) เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่แบบคฤหาสน์ขนาด 100 ตร.วา ขึ้นไป สามารถพักอาศัยกันได้หลาย Generations เพราะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก สามารถออกแบบและปรับฟังก์ชันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในบ้านได้ ภายใต้ทำเลที่เชื่อมต่อกับหลายเส้นทางจากฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันตกเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ตะวันออกได้สะดวกเลยครับ

ที่สำคัญคือการออกแบบที่สวยงาม หรูหรา สร้างบรรยากาศให้เสมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรีย นำเสนอความยิ่งใหญ่อลังการของสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกจากพระราชวัง Mirabell พื้นที่ส่วนกลางใหญ่โตโอ่อ่าจริงๆ ครับ รองรับได้อย่างเหลือเฟือสำหรับ 52 ครอบครัวที่มีจะมาอยู่อาศัยในโครงการแห่งนี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://m.scasset.com/I9Uv
สอบถามเพิ่มเติม LINE : @GBBPK2023


KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน