The Slate

The Slate #โรงแรมเด็ดภูเก็ตที่ซ่อนตัวอยู่เงียบๆ

#คนไทยไม่ค่อยรู้จัก อยากให้มาลองพักดู มุมถ่ายรูป 3 ล้านจุด

Redesign by Bill Bensley พ่อมดแห่งวงการสถาปนิก

__________________________________

KANT x BILL BENSLEY the Project ของเรายังคงดำเนินต่อ

อ่อ!! Recap นิดนึงสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาอ่าน คุณกานต์กำลังไล่เก็บโรงแรมที่ออกแบบโดย Bill Bensley สถาปนิกชื่อดังที่มีผลงานระดับโลกมาแล้วมากมายในเมืองไทยก็แทบจะนับไม่ถ้วนแล้วครับ

The Slate ภูเก็ต ก็เป็นหนึ่งในนั้น

คุณหมู คนสวย เจ้าของโรงแรม สนิทสนมกับบิลล์ครับ เป็นแนวอาร์ตทิสต์เหมือนกัน จึงชวนมาปรับดีไซน์โรงแรมให้ดูล้ำไปอีกขั้น ระดับบิลล์แล้วมันจะเป็นงานออกแบบไก่กา ธรรมดาไม่ได้

ดังนั้น เราจึงได้เห็น The Slate (ซึ่งเดิมคือโรงแรม Indigo Pearl) ในสไตล์ Avant-Garde ที่มีความ Luxury และยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นภูเก็ตเอาไว้ มีสีฟ้าของน้ำทะเล สีเขียวจากต้นไม้และสีทองแดงของเหมืองแร่ ให้สมกับชื่อ The Slate ที่แปลว่าชั้นหินดินดาน เพราะจะค้นพบสายแร่กันที่ชั้นหินนี้ ซึ่งตระกูล ณ ระนอง เจ้าของโรงแรม ก็ทำธุรกิจเหมืองแร่มาตั้งแต่อดีต

“If it’s no fun, don’t do it,” บิลล์ ชอบพูดประโยคนี้ เราจึงเห็นโรงแรมทุกที่ที่ Bensley Studio ออกแบบ มีความสนุกสนาน (หลายคนบอกบ้ามาก) ซ่อนอยู่ อย่างที่ The Slate ก็มีไอเดียฟุ้งๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น งาน Art & Design ที่วางไว้อยู่ทั่วโรงแรมราวกับนิทรรศการศิลปะ

สปาในรังนกขนาดใหญ่ (คิดได้ไงเนี่ย) ห้องอาหาร Black Ginger เรือนไทยโบราณสีดำที่ต้องข้ามน้ำเพื่อไปกิน (ในโรงแรม) หรือแม้แต่ข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ย้ำว่า!! ทุกชิ้น!! ในโรงแรมนี้ ถ้าคุณชอบ สามารถขอซื้อกลับไปได้เลย

คุณกานต์ซื้อหมอนดูดวิญญาณติดมาใบนึง นอนหลับสบายเหมือนซ้อมตาย ส่วนช้อนส้อมก็ซื้อมาด้วย เพราะดีไซน์สวยช่วยให้เจริญอาหารขึ้น 55 จริงๆ อยากได้ที่นอนด้วยนะ นอนดีมาก หนา แน่น นุ่ม นอนแล้วหนึบหนับ

พนักงานเล่าว่า ถ้าเป็นฝรั่งสั่งแล้วต้องใส่ตู้คอนเทนเนอร์ส่งกลับให้ เพราะเตียงก็เคยมีลูกค้าขอซื้อมาแล้ว!!

ชวนอ่านเรื่องราวสนุกๆ ของโรงแรม The Slate กันต่อในแคปชั่นของแต่ละรูปครับ คุณกานต์เขียนจัดเต็มเช่นเคยครับ

#TheSlate#TheSlatePhuket#DesignHotel#LuxuryHotel#LuxuryBlogger

The Slate เป็นหนึ่งในโรงแรมภูเก็ตที่ผมชอบมากครับ เป็นการพักผ่อนที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่แต่ในโรงแรม เพราะมีมุมถ่ายรูปเยอะและหลากหลาย ฉะนั้น อย่าแปลกใจหากทริปนี้จะมีรูปผมเยอะหน่อย 555

โรงแรมอยู่ใกล้หาดในยาง และหาดในยางคืออยู่ใกล้สนามบินครับ ใช้เวลา 5 นาทีก็ถึง น่าจะเหมาะกับคนที่อยากนั่งเครื่องมาพักผ่อน แต่ไม่อยากต่อรถไกลๆ เพราะก็ได้ฟีลลิ่งที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

ตามสไตล์คุณกานต์ คือหยิบกล้อง ออกมาเดินทอดน่องริมชายหาด สักชั่วโมงแล้วกลับไปนอนเล่นต่อ พอให้ได้สัมผัสน้ำทะเลนิดๆ หน่อย ก็โอเคแล้ว

โจทย์ที่ทางคุณหมูบอกกับบิลล์ ที่จะมารีดีไซน์ คือยังต้องคงความเป็นเหมืองแร่เกาแก่ของภูเก็ตเอาไว้ ต้องให้คนที่เข้าพักรู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อน และที่ต้องเน้นเลยคือพื้นที่สีเขียวภายใน

ขออนุญาตแปลงกายเป็นญาญ่า แปร๊บบบบ

บนเนื้อที่ 88 ไร่ The Slate ถือว่าเป็นโรงแรมใหญ่มาก ต้นไม้เยอะ แทบจะไม่ได้ตัดเลย ตัวอาคารต่างๆ ยังแทรกตัวอยู่ในต้นไม้ ไม้ดอกและไม้พุ่ม ของแต่ละโซน โรงแรมมีสนามหญ้าขนาดเท่าสนามฟุตบอล เป็นลานกว้าง ให้เราได้วิ่งเล่นกัน ชาวต่างชาติจะชอบฟีลลิ่งแบบนี้มาก เพราะเท้าเหยียบดิน ตามองฟ้า อากาศดี บริสุทธิ์

แค่ Lobby ก็ว๊าวมาก อธิบายยากว่ามันคือสไตล์ไหน แต่มันช่างเป็นการออกแบบที่ล้ำไปอีกขั้น ทั้งสีสัน การจัดวาง ฟังก์ชั่นและแฟชั่น มันคือลงตัวมาก ผมชอบเม็ดสีน้ำเงินที่คล้ายกับอัญมณี เพื่อให้แฟนของ Indigo Pearl ยังคงได้นึกถึงความทรงจำเก่าๆ ขณะที่แฟน The Slate คือความทรงจำใหม่ที่ไปไกลเกินจินตนาการแล้ว สมกับที่เป็น Design Hotels จริงๆ

ระหว่างทางเดินไปวิลล่า เราจะพบกับ Installation Art ที่จัดวางไปทั่วโรงแรมเต็มไปหมด อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ บางชิ้นก็ทายเล่นกับเพื่อนๆ ว่ามันมีนัยยะอะไรซ่อนอยู่ ของแบบนี้ไม่มีถูกผิดครับ ตามแต่จินตนาการของเราจะคิดไป

แต่ที่รู้ๆ คือชมเพลินมาก นึกว่าเดินอยู่นิทรรศการศิลปะกลางแจ้ง

ถึงแล้ววิลล่าของผม ประตูอัตโนมัติเปิดออก พร้อมกับเสียงอุทานเบาๆ “โอว แม่เจ้า” เป็นบ้าน 2 หลังเชื่อมต่อกันขนาดพื้นที่ 560 ตารางเมตร “มันใหญ่มากจอร์จ” ไม่นับสวน และลานกว้างหน้าบ้าน ส่วนด้านในสุดฝั่งซ้ายจะเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว

เป็นวิลล่าที่โอ่โถงมาก แค่ห้องนอนก็คือใหญ่สุดๆ ออกแบบโดยใช้โทนสีดำ เทาเข้มขรึม ให้เหมาะกับการพักผ่อน ภายในห้องนอนมีมุมให้นั่งหลายจุด ทั้งเก้าอี้ โซฟา เดย์เบด สเปซในห้องคือเหลือเฟือมาก อยากชวนคนทั้งตำบลมานอนในห้องนี้ด้วยกัน

ด้านหลังเป็นโซนห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า แยกส่วนซ้ายขวาและนอกใน อาบได้ทุกจุดครับ

หมอนคือโอเคนัมเบอร์วัน ออกแบบได้เรียบหรู ผมชอบหมอนฟีลลิ่งประมาณนี้ ไม่ต้องยวบมาก เป็นหมอนที่หนานุ่มกำลังดี ใบละเกือบ 5 พัน จริงๆ อยากได้ชุดผ้าปู ผ้าห่ม และที่นอนด้วย แต่พักก่อนนะ

ถามตัวเองว่า มาพักผ่อนหรือมาช้อปปิ้ง เอาดีๆ

อีกฝั่งเป็นบ้านอีกหลังภายในวิลล่า 205 นี้ เป็นห้องมัลติฟังก์ชั่น มีครัว โต๊ะทานข้าว ดูทีวี รับแขก ดูหนัง สั่งอาหาร ทำงานไปด้วยก็ได้ ภายในแยกสัดส่วนชัดเจนดีครับ ด้านในสุดมีห้องทำสปาส่วนตัวด้วย เอาซี้!!

ผมชอบมานั่งห้องนี้ เพราะตกแต่งเก๋ดี โคมไฟดวงนี้ก็อยากได้ แต่ไม่รู้จะเอาไปแขวนไปที่ตรงไหนดีตอนนี้

จะซื้อคอนโดใหม่เพื่อมาแขวนโคมไฟอย่างเดียว ก็ดูจะรวยไป ไม่ขนาดนั้น เอาเป็นว่า พักก่อน โคมไฟยังไม่ต้องซื้อนะ

ผมชอบมานั่งใน Living Room เพราะมีหนังสือให้อ่านเยอะดี มีหนังสือรวมเล่มผลงานออกแบบของ Bill Bensley ด้วย ต้องยอมรับว่า บิลล์คือพ่อมดที่เนรมิตพื้นที่ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ในสไตล์ของตัวเอง ตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ

ยังมีอีกหลายโรงแรมที่ Bensley Studio ออกแบบแล้วผมว่าน่าสนใจ เช่น Capell Ubud บาหลี ที่นี่ผมอยากไปมากกกก

Shinta Mani Wild ที่กัมพูชา ก็น่าสนใจ อยู่กลางป่าในอุทยานแห่งชาติ ตกคืนละ 2 แสนต้นๆ ส่วน Hotel de la Coupole ที่ซาปา จองไว้แล้วล่ะ แต่ดันติดโควิด ช่วงนี้ก็เลยเน้นเที่ยวในไทยไปก่อน

ที่ผมไปมาแล้วชอบก็มีหลายโรงแรม เช่น JW Marriott Phu Quoc ว่ากันว่าเจ้าของเซ็นต์เช็คเปล่าให้สร้างกันเลยทีเดียว ผมไปมาแล้วก็ติดใจ อยากไปอีก

ยังมีหลายโรงแรมในไทยที่ผมไปมาแล้วและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น The Siam ของเครือสุโกศล Fou Seasons สมุย เชียงใหม่ และเต้นท์ แคมป์ที่เชียงราย อันหลังนีสวยเว่อร์วัง เต็มตลอดปี

ล่าสุดก็ที่ผมมานี่แหละครับ The Slate 

นั่งๆ นอนๆ พักผ่อนริมสระว่ายน้ำส่วนตัวในวิลล่าให้สบายใจ ชอบสีสันและลวดลายของสระว่ายน้ำ ดูมีชีวิตชีวาดี

สระว่ายน้ำส่วนกลางมีด้วยกัน 3 สระ แต่อาจจะเปิดไม่ครบ ผมแว๊บไปว่ายสระ Infinity Pool มา บรรยากาศดีมากครับ ชอบภาพพื้นหลัง คุมโทนและฟีลลิ่งได้ดีมาก

ในวิลล่า บริเวณลานด้านนอก ยังมีที่นั่งขนาดใหญ่พร้อมหมอนนับสิบใบ ไว้ให้นั่งเล่น นอนเล่น ปลดปล่อยอารมณ์ได้ตามอำเภอใจ

หรือใครจะเอาเบาะมาปูหน้าบ้าน นอนอ่านหนังสือ กินขนม ฟังเพลงก็สบายใจดีครับ อยู่ในวิลล่าส่วนตัวแบบนี้ ให้ความรู้สึกส่วนตัว เหมือนเป็นโลกใบใหม่ของเรา เติมเต็มวันพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ต้องมีเรื่องใดให้กังวลใจ

บางทีก็ให้ “ริน่า” บัทเลอร์ประจำบ้านมาช่วยกันตีฟอง ลอยกลีบดอกไม้ให้ฟูฟ่อง จิบเครื่องดื่มเย็นใจ

หรืออยากจะอาบเลยก็ทำได้นะ

ผมชอบมุมอาบน้ำด้านนอกมากกว่า ฝักบัวคือเก๋มาก เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นที่สุด

แวะไปดูห้องนอนของ Bill Bensley มา เป็นห้องที่เวลาบิลล์มาโรงแรมนี้จะพักห้องนี้ประจำ ชื่อว่า Bensley Suite เป็นห้องที่แตกต่างจากห้องอื่น ด้วยเนื้อที่กว้างขวาง มีการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ของบิลล์ เก๋สุดๆ

ใจจริงก็อยากนอนห้องนี้เหมือนกัน แต่วิลล่าก็ไม่น่าพลาด สองจิตสองใจ 5555 เอาไว้ครั้งหน้า ถ้ามาจะรีเควสเป็นห้องนี้เลย

ไปเดินเล่นรอบโรงแรมกันบ้าง ไม่รู้ 3 วันจะเดินจบไหม เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด

อยากห้องนี้คือห้องเก็บงานศิลปะ เป็นทั้งโชว์เคสและขาย สำหรับใครที่อยากสะสม เพราะหลายครั้งที่ The Slate มักมีศิลปินระดับโลก บินมาทำงานศิลปะที่เกิดจากแรงบันดาลใจระหว่างการเข้าพัก หรือหลากหลายไอเดีย มี Art Pieces เยอะมาก

ถัดมาเป็นโชว์รูมและ shop สำหรับขายของที่ใช้ในโรงแรมทุกอย่าง ย้ำว่า มีทุกอย่าง!! ห้องใหญ่มากจนอยากเรียกว่าห้าง แขกชอบของชิ้นไหนในห้องหรือในโรงแรมก็มาติดต่อหรือหาซื้อได้ที่นี่เลยครับ

อย่างที่บอก ชอบใจอะไรในโรงแรม สามารถขอซื้อกลับไปได้เลยครับ มาช้อปที่นี่ก็ได้ ผมได้หมอนมาใบนึง เป็นหมอนที่สั่งทำพิเศษให้กับที่นี่เท่านั้น เช่นกันกับสินค้าอื่นๆ จะเป็นของสั่งผลิตที่ The Slate เท่านั้น และใช้งานจริงในโรงแรมเลย

พวก Amenities ก็หอมดีนะครับ กลิ่นออกมะลิไทยๆ ผสมสมุนไพร ดมแล้วเย็นใจดี ที่น่าซื้อก็จะมีโคมไฟ โต๊ะ หรือของแต่งบ้านอื่นๆ ก็น่าซื้อกลับไป มีบริการส่งให้ถึงกรุงเทพเลยครับ

Tongkha Tin Syndicate เป็นบาร์สไตล์อเมริกันแบบเปิดโล่งครับ คืนนี้จะมาดริงก์กันที่นี่

Tongkah Tin Syndicate เป็นบาร์ในสไตล์โรงนาเก๋ๆ ครับ ให้บริการเครื่องดื่ม พร้อมด้วยโต๊ะพูล ดูบอล เหมาะแก่การมาพักผ่อนสังสรรค์กันได้เบาๆ เน้นให้บริการเครื่องดื่ม แต่ก็มีอาหารด้วย

ที่นี่ตกแต่งด้วย เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ จากเหมืองแร่ ผมชอบ Punkawallah ใช้งานได้จริง ให้ฟีลลิ่งเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศและเข้ากันดีกับบรรยากาศบาร์ย้อนยุค

“Every gentleman plays billiards, but someone who plays billiards too well, is no gentleman.”

-Thomas Jefferson

บิลเลียดอาจจะไม่เข้า เราย้ายมานั่งบาร์ดีกว่า บาร์สวยมากกกกกก

ที่นี่มีห้องอาหารที่เป็น Iconic ชื่อว่า Black Ginger เป็นเรือนไทยอยุธยา ดูลึกลับน่าค้นหา แค่ทางเข้าก็น่าสนใจแล้ว ช่วงก่อนโควิดถือเป็นร้านอาหารที่ฮิตมากในภูเก็ต มีต่างชาติบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อทานอาหารที่นี่โดยเฉพาะ ต้องจองกันนานเป็นเดือนๆ ครับ

ความล้ำคือต้องนั่งแพข้ามน้ำไป โดยมีพนักงานชักรอกแพมารับลูกค้าที่มาใช้บริการ พนักงานจะมาในชุดตะเบงมาน ให้อารมณ์โบราณเหมือนนักรบหญิงสมัยก่อน

เรือนไทยโบราณสมัยอยุธยา ทาสีดำตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มีด้วยกัน 2 หลัง เมื่อแพเทียบท่าจะมีนักรบหญิงในชุดตเบงมานคอยให้การต้อนรับ ที่นี่จะเน้นบริการอาหารไทยและอาหารใต้แบบแท้ๆ รสชาติจัดจ้านทุกจาน บรรยากาศดีมากครับ เป็น Signature ของ The Slate เลยก็ว่าได้

แม้ไม่ได้พักก็ Walk in มาทานได้ครับ

Black Ginger เป็นห้องอาหารที่วิจิตรจริงๆ ผมใช้คำนี้ละกัน มีความงดงามแบบไทย กลิ่นอายโบราณ ผสานกับการประดับประดาแชนเดอร์เลียร์ขนาดใหญ่สีฟ้าและน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของโรงแรม ดูเข้ากันดี ให้ความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา เชื่อว่า แต่ละเมนูจะคอยดึงดูดให้เราเข้าไปในมิติแห่งอาหารไทยภาคใต้ได้ในทันที

การตกแต่งภายในคุมโทนสีดำตามคอนเซปต์ของ
ร้านอาหาร ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม รายละเอียดของใช้ต่างๆ ดูมีเรื่อวราว น่าหลงใหล พนักงานนำเมนูมาให้ ในร้านค่อนข้างมืด จึงเตรียมไฟฉายขนาดเล็กไว้ให้ส่องด้วย

ผมอ่านชื่อเมนูในก็น่ากินไปเสียหมด เอาเป็นว่าให้เชฟ Recommended มาละกันครับ จัดมาให้หรอย

ห้องอาหาร Black Ginger ถือเป็น Signature ของโรงแรมเลยครับ นอกจากชูดีไซน์ในความเป็นเรือนไทยสมัยอยุธยาที่ตั้งอยู่ริมน้ำ เน้นเสิร์ฟอาหารภูเก็ตแท้ๆ เช่นเบือทอด, แกงส้ม ,เกี๊ยน, ยำดอกดาหลา, เส้นหมี่-แกงปู, อาหารที่ชูวัตถุดิบจากทะเล รวมไปถึงของหวานท้องถิ่นอย่าง โอว้เอ๋ว, บิโกหมอย ก็มีให้ลองทานกัน

ทุกอย่างมีความอลังการในการนำเสนอ ชูความเป็นภูเก็ตที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน มีตัวตนที่สัมผัสได้ เน้นการพรีเซ็นอาหารให้ดูแปลกตา น่ารับประทาน มีความทันสมัย ความ Luxury ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่บนจุดเน้นในความเป็น “ภูเก็ต” 

“พี่เปี๊ยก” หัวหน้าเชฟของที่นี่ อยู่คู่กับโรงแรมมานาน เป็นคนใต้แท้ๆ ทำอาหารมาแล้วสามสิบกว่าปี เล่าให้ฟังอย่างฉะฉานด้วยความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของความเป็นอาหารใต้ที่ได้รับหน้าที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ยอมรับเลยว่าพี่เปี๊ยกรสมือดีมาก เครื่องแกงคือครบทั้งรสและกลิ่นเครื่องเทศน์ ว่าแล้วก็หิว

ไปภูเก็ตครั้งหน้าต้องแวะไปหาพี่เปี๊ยกสักหน่อยแล้วอยากกินแกงปูอีก

ที่เด็ดอีกอย่างของที่นี่คือห้องน้ำในห้องอาหารครับ ตกแต่งสวยงามมาก สามารถถ่ายรูปได้อีกจุด

ย้ำ!! ห้องน้ำก็ถ่ายรูปได้

อาหารเช้าวันแรก ทานในวิลล่า ริน่าเสิร์ฟมาแบบจัดเต็มมาก โดยจะให้เลือกก่อนว่าอยากทานอะไร ก็บอกไป

ตื่นมาก็จุกแล้ว เช้านี้

จัดเช็ตทานกันด้านนอกวิลล่าริมสระน้ำดูบ้างครับ ได้บรรยากาศของวันพักผ่อนไปอีกแบบ อาหารเช้าเต็มที่จริงๆ

หรือจะไปทานที่ห้องอาหารก็ได้ครับ ชื่อว่า ห้องอาหาร Tin Mine อาหารมีหลากหลาย จัดเต็มพอสมควร เกินกว่าจำนวนแขกแน่นอนว่างั้น

ที่ไม่อยากให้พลาดคือปาท่องโก๋ เด็ดกว่าเจ้าดังๆ มาก

ถ้าเป็นวันอาทิตย์จะมีซันเดย์บรั้นช์ด้วยครับ เน้นทำกันสดใหม่เลย

ไฮไลท์คือไลน์ซีฟู๊ดพรีเมี่ยมครับ จัดหนักด้วยกุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาดา หอยนางรมสดๆ ทูน่า ซูชิ ซาซิมิชั้นเลิศ อาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นหลากหลายเมนู เนื้อวากิว หมูหัน ชีสนานาชนิด พร้อมพาเหรดของหวาน

ไลน์อาหารในซันเดย์บรั้นช์ผมว่าหลากหลาย ใช้วัตถุดิบดีมาก และคุ้มค่า คุ้มราคาดีครับ ใครมาภูเก็ตอยากทานซันเดย์บรั้นช์เด็ดๆ ห้ามพลาด!!

ราคาผู้ใหญ่ คนละ 2,950 บาท รวม ซอฟต์ดริ้งค์ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไวน์ และสปาร์กลิ้งไวน์ ไม่จำกัด

ส่วนเด็ก 7-12 ขวบ คนละ 1,225 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ ทานฟรี

อาจจะไม่ได้มีทุกอาทิตย์ ต้องเช็คกับทางโรงแรมอีกที ที่เบอร์ 076-327006 หรือ ส่งอีเมล pantita@theslatephuket.com แต่ที่แน่ๆ 4 เมษายนนี้ มีบริการครับ

โคคูน สปา (Coqoon Spa) คืออีกจุดที่เป็น Signature ของทางโรงแรมครับ โดยเฉพาะห้องนี้ที่มีดีไซน์เป็นเหมือนรังนก (The Nest) เป็นสปาที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ทั้งด้านดีไซน์และคุณภาพของสปา

ผมชอบบรรยากาศของสปาที่นี่มาก จะแยกตัวออกไปจากโรงแรมแล้วไปซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี มีบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติสูงมาก ราวกับสวรรค์ของการผ่อนคลาย

ด้านในของรังนกสวยงามดีครับ ที่นี่จะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะเป็นห้องทรีตเม้นท์เตียงคู่ และด้านในจะเป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว

ผมเลือกโปรแกรมนวดที่เป็น Signature ของ Coqoon Spa ต้องบอกว่า เทอราพิสน้ำหนักมือดี ให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลในการนวดที่เน้นผ่อนคลายแบบนี้

นอกจากนี้ โดยรอบโรงแรมยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะมาก ผมไปเรียนยิงธนูมาด้วยครับ สนุกดี

บางทีก็นึกว่าตัวเองเป็นม๊อกกิ้งเจย์

#โดยสรุปThe Slate เป็นของเด็ดภูเก็ตที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักนัก แต่ก่อนโควิดคือต่างชาติพักกันล้นหลาม กี่ห้องก็ไม่พอ เพราะบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ งานดีไซน์ที่ล้ำสมัยแต่ผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว จึงเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยากแนะนำครับ

เข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://theslatephuket.com
หรือโทร 076-327006
อีเมล pantita@theslatephuket.com

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน