Sichon Cabana Beach Resort

⛵️“อยากไปแล่นเรือใบจัง ท่าจะสนุก”

กานต์เปรยขึ้นมาขณะจิบอเมริกาโน่ที่ท๊อปด้วยฟองโฟมหนานุ่มอยู่ที่ Blue Surf Cafe ร้านกาแฟหลักร้อยวิวหลักล้าน ที่ Sichon Cabana Beach Resort

“ไปสิพี่ พรุ่งนี้เช้าๆ ผมพาไป ช่วงนี้ลมดี” ปาล์ม เจ้าของร้านกาแฟและรีสอร์ตชื่อดังแห่งสิชล ตอบผมด้วยน้ำเสียงสดใสปนตื่นเต้น ราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นชิ้นใหม่

ปาล์ม เป็นชายหนุ่ม ที่ดูอายุน่าจะน้อยกว่าผม แต่ความคิดความอ่านและการเทคแอคชั่น คือ “มองการณ์ไปไกลมาก”

“There is no passion to be found playing small–in settling for a life that is less than the one you are capable of living.” เนลสัน แมนเดลลา ได้กล่าวเอาไว้

Passion จึงเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตในทุกมิติของเราครับ ผมเชื่อเช่นนั้น🏄🏻‍♂️

ปาล์มเองก็คิดเหมือนกัน เขากำลังปั้น “สิชล คาบาน่า บีช” ซึ่งเป็นรีสอร์ตที่เขาลงเสาเองทุกต้น ทาสีเองทุกตารางนิ้ว ออกแบบเองทุกอย่าง พัฒนาจากพื้นที่ทิ้งขยะให้กลายเป็นรีสอร์ตที่คราฟท์มาก จนเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าไปพัก

“ผมอยากให้คนทั้งโลกรู้ว่า ทะเลที่สิชลสวย คลื่นที่สิชลแรงพอท่ีจะเล่นเซิร์ฟให้สนุกได้ ที่นี่จะต้องเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย” – ปาล์มบอก

“ทะเลสิชลไม่แพ้ที่ใดในโลก” – ผมเติมให้

แววตาของปาล์ม เมื่อใดยินคำว่า “เรือใบ” ดูมีประกายมากกว่าปกติ ยิ่งถ้าได้ชวนคุยเรื่องกิจกรรมเอ้าท์ดอร์ต่างๆ ดูท่าทางจะชอบมาก

กานต์ก็เพิ่งรู้จากปาล์มนี่แหละเกี่ยวกับเทคนิคการล่องเรือ การดูทิศทางคลื่นลม

ผมว่าสิชลก็เหมาะมาก ในบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ หาดทรายสีขาว ทะเลสีฟ้า อยากให้มาเที่ยวที่นี่กันเยอะๆ

อาจจะไม่ต้องมาเล่นเซิร์ฟก็ได้ อยากให้มาพักผ่อน มานอนเล่นริมทะเล ปั่นจักรยานน้ำ พายคายัค หรือจะกำเงินร้อยมากินกาแฟก็ได้ และถ้าใครสายมูหน่อย ต้องไม่พลาด #วัดไอ้ไข่ หรือ #วัดเจดีย์

เดือนที่ผ่านมา สนามบินนครศรีธรรมราช ทำสถิติเป็นสนามบินที่มียอดผู้เดินทางมากที่สุด จนตอนนี้เกือบทุกสายการบินต้องเปิดรูทนครฯ เพิ่ม

จุดหมายแรกคือ #ไปขอให้สัมฤทธิ์ผลทางการเงิน โดยเฉพาะช่วงก่อนวันที่ 16 และปลายเดือน ….

“ขอหวยแหละ ดูออก” ^ ^

ผมมาสิชลก็ตั้งใจไปวัดเจดีย์กับเขาเหมือนกัน บรรยากาศคือคนเยอะมาก แต่การบริหารจัดการค่อนข้างดี โดยเฉพาะมาตรการคัดกรองและจัดแยกเต้นท์ช่วงทำบุญ ผมเขียนไว้ละเอียดอยู่ด้านใน อย่าลืมเข้าไปอ่านเพื่อเตรียมตัวกันก่อนมา

นอกจากนี้ ยังได้ขับรถไปเลียบหาด ล่องไปตามถนนเส้น curve ที่คนนิยมจอดรถถ่ายรูปกันมากที่สุดคือ เส้นเลียบทะเล “ขนอม-สิชล” ที่สวยที่สุดในอ่าวไทย เพราะแถวนี้มีหาดสวยๆ เต็มไปหมด

เลยไปเช็คอินที่สะพานไม้บ้านสำเหร็ด จุดที่คนไปลงเรือชมโลมาสีชมพู

และยังมีไฮไลท์อีกจุดคืออุโมงค์ต้นไม้ เป็นต้นยางที่โค้งเข้าหากันเป็นซุ้มประตู ก็น่าแวะไปเก็บรูป สวยดีเหมือนกันครับ

ที่สำคัญคือการไปพักที่สิชล คาบาน่า ที่ยอดจองเต็มไว้มาก อยู่ใกล้วัดไอ้ไข่เดินทางไม่ถึง 20 กิโล แนะนำให้โทรเช็คโดยตรงเลยครับที่เบอร์ 06-3525-7177

ผมจองห้อง Grand Master Seaview เอาไว้ อยากบอกว่า วิวทะเลพาโนราม่าของห้อง type นี้คือที่สุดของแจ้จริงๆ ครับ

ได้ข่าวว่าช่วงนี้ กำลังสั่งเรือใบมาเพิ่ม ของเล่นใหม่คุณปาล์มเค้า

สงสัยเราต้องหาเวลาไปแวะทักทาย “สิชล คาบาน่า” อีกสักครั้ง อยากล่องเรือลำใหม่ไปกลางทะเล

#SICHON#SICHONCABANA#NAKHONSRITHAMMARATH

Director & Photographer – Kant Jominta

Assistant Photographer – Supaporn Taylor

FACEBOOK – KantJournal

INSTAGRAM – KantJournal

YOUTUBE CHANNEL – KantJournal

WEBSITE – www.KantJournal.com

I can’t change the direction of the wind, but I can adjust my sails to always reach my destination.

Jimmy Dean ศิลปินชาวอเมริกันเคยพูดประโยคนี้ไว้ เมื่อครั้งเขาพยายามจะผันบทบาทจากศิลปินไปสู่การทำธุรกิจ

ผมคิดว่าจริงครับ

เราไม่สามารถเปลี่ยนหรือบังคับอะไรใครได้ นอกจากตัวเราเอง ดังนั้น เวลาที่เราจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง โดยอาจจะตั้งเป้าว่าเพื่อจะเปลี่ยนโลก อาจจะต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเราก่อน

ปาล์ม – เบญจภพ เบญจธรรมธร เจ้าของสิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ต ที่หลงใหลในการใช้ชีวิตอยู่กับทะเลก็คิดแบบนี้เช่นกันกับผม

เราคุยกันระหว่างที่ปาล์มพาผมไปล่องเรือคาตามารันยามเช้า รับแสงอาทิตย์ขึ้นในภาพนี้

“เช้านี้ลมดีมาก เรือวิ่งฉิวเลย แต่สัก 10 โมงก็ไม่โอเคละ” – ปาล์มบอก

ทริปนี้ กานต์พักที่ Sichon Cabana Beach Resort สิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ต ตั้งอยู่ที่หาดหินงามครับ เป็นหาดที่คนท้องถิ่นเรียกว่าเป็นหัวหินแห่งสิชล เพราะหัวหาดมีโขดหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ซ้อนทับกันมากมาย ก่อนที่จะเจอกับหาดทรายขาวที่โค้งยาวไปขนานกับแนวคลื่นที่ซัดน้ำทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง

เป็นการผสมสีของธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาดีครับ สำทับด้วยสีเขียวจากต้นไม้โดยรอบ จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบการพักผ่อนในบรรยากาศแบบสบายๆ

นอกจากจุดประสงค์หลักเรื่องการพักผ่อนแล้ว การมาเยือนสิชลเป็นครั้งแรกของกานต์ อาจจะเป็นเพราะมีแรงผลักดันให้อยากมาวัดเจดีย์ หรือวัดไอ้ไข่ ซึ่งอยู่ห่างจากรีสอร์ตไปราว 20 กิโลเมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินทางสะดวกมากๆ

อยากแนะนำให้ไปแต่เช้าเพราะคนจะได้ไม่เยอะมากครับ

ปาล์ม – เจ้าของสิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ต กำลังเตรียมเรือใบ คาตามารัน เป็นภาพที่เห็นได้ในทุกเช้า หากเขาเข้ามาที่รีสอร์ต ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ

ปาล์มและครอบครัว ช่วยกันปรับปรุงพื้นที่ทิ้งขยะรกร้าง ก่อนจะมาสร้างเป็นบังกะโลเล็กๆ ไม่กี่ห้อง จากนั้นก็ได้พัฒนามาเป็นรีสอร์ตที่ใหญ่โต มีห้องหับให้เลือกหลากหลาย มีกิจกรรมให้ทำมากมาย กลายเป็นจุดเช็คอินของคนในพื้นที่สิชล และนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ที่มาสิชล ต้องพักที่สิชลคาบาน่าเท่านั้น ขนาดผมจะจองยังต้องบุ๊คล่วงหน้ามาเป็นเดือนเพราะที่นี่เต็มเกือบทุกวัน

ปาล์ม เล่าให้ฟังถึงคอนเซ็ปการออกแบบว่ามี 4 ข้อ คือ

– Simple เรียบง่าย สบายๆ ไม่ซับซ้อน ดูแล้วผ่อนคลาย
– Natural ต้องสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น ร่มเย็น วัสดุไม้จริง หิน ทราย ต้นไม้ และทะเล เป็นองค์ประกอบหลัก
– Casual ความสบายๆ ง่ายๆ ปล่อยกายไปตามอารมณ์
– Sustainable ความยั่งยืน

“ผมอยากให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัว คู่รัก เพื่อนฝูง และที่สำคัญเราสร้าง Life Style ที่มีบุคลิกภาพจำเพาะ รสนิยม แนวคิดในการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของเราอย่างชัดเจน” 

ภาพมุมสูง โชว์ให้เห็นถึงหน้าหาดที่กว้าง คลื่นลมแรงดี มีกิจกรรมทางน้ำให้เล่นมากมาย

หลักๆ คือการเล่น Surfing , Windsurfing ซึ่งเป็นกีฬาที่ปาล์มหลงใหล ซึ่งช่วงก่อนโควิดที่นี่ก็เคยจัดกิจกรรมที่ดึงเอานักท่องเซิร์ฟจากทั่วเอเชียมารวมตัวกันที่นี่มาแล้ว เพื่อจะเป็นการพิสูจน์ว่า คลื่นที่สิชลก็เซิร์ฟสนุกไม่แพ้กัน

ปาล์มเล่าว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเล่นเซิร์ฟบอร์ดคือช่วงหน้ามรสุมช่วงปลายปีราวตุลาถึงธันวา ส่วนช่วงที่เหมาะสมกับการเล่นวินด์เซิร์ฟก็คือหน้าร้อนช่วงมีนา เมษา

“ที่นี่คลื่นคือดีเลย”

นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นหลากหลาย เช่น เรือใบ Catamaran , Wingfoiling , Paddle board , Skimboard , Kayak, จักรยานน้ำ ฯลฯ ซึ่งปาล์มและทีมงานดูแลดีครับ สอนให้ไม่กั๊กวิชาเลย

“อยากให้มาแล้วสนุก เราตั้งใจสร้าง Community แห่งความสุข สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อน” – ปาล์มบอกกับผม 

“โอ้สิชลนี้หนา เวลาค่ำ ยังฝังจำน้ำทะเลระลอกฉาน ส่องประกายคล้ายเพชรเกล็ดตระการ เหมือนดังอยู่วิมานฝันหาอยู่ทุกคืน”

วงดิอิมพอสสิเบิ้ลเคยร้องเพลงนี้ไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนที่คนยังไม่ค่อยรู้จักว่า สิชลคือเมืองอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน แต่เท่าที่ฟังจากเพลงก็คงพอเดาได้ว่า “ต้องสวยมากแน่ๆ”

ต้องยอมรับว่า กานต์เองก็ไม่เคยมาสิชล นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่า ทะเลสิชลหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งจากการได้สัมผัส ก็ตกหลุมรักเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยหาดทรายขาว ทอดยาว สลับกับวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านของคนภาคใต้ ที่เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ กันแล้ว 

วิถีชีวิตของคนสิชล ยังมีให้ยลอยู่ในทุกวัน

ในอดีตสิชลคือเมืองท่าเก่าแก่ที่เป็นแหล่งเรือสำเภาหยุดเทียบท่า เพื่อนำสินค้าล่องเข้ามาจำหน่ายและผ่านไปสู่ตัวจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งชาวจีนที่ล่องเรือมาจะเรียกว่า ที่ชล (ชายฝั่ง)

จึงผันกันต่อๆ กันมาว่า “สิชล” และยังเป็นเมืองที่รุ่มรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย

ที่ สิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ต มีห้องให้เลือกหลายแบบครับ ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://sichoncabana.com

กานต์พักที่ห้อง Grand Master Seaview ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด หรูหราที่สุดและแน่นอน เทควิวทะเลได้เต็มตาแบบไม่มีอะไรกั้น

จริงๆ ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่มากันเป็นคู่รักนะผมว่า เพราะภายในจะออกแบบให้โปร่งโล่งสบายเป็นพิเศษ แยกส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งานได้ดี มีทั้งโซนพักผ่อนเป็นเตียงนอนแบบยกพื้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก มีแยกส่วนแต่งตัว อ่างล้างหน้า ห้องน้ำอยู่ด้านหน้าประตู

ในสุดจะเป็นระเบียงที่มีเดย์เบดวางไว้ให้รับลมเย็นๆ ที่นี่จะเป็นทิศรับแดดเช้าครับ

ห้องน้ำเป็นแบบเปิดโล่ง มีม่านกั้นไว้ ถึงได้บอกว่าเหมาะกับใครที่มาเป็นคู่ ดูจะเข้ากับคอนเซปต์ฮันนีมูนสวีทมาก

จริงๆ มีอีกห้องที่อยู่ติดกันแต่จะเล็กกว่า ชื่อว่า Honeymoon Sea View แต่กานต์ว่าห้องนี้อลังการกว่าเยอะ ห้องน้ำกว้างจริงจัง แต่จัดวางแบบมินิมอลเรียบง่าย เป็นมุมที่ผมชอบที่สุดครับ รู้สึกเบาสบายดี

ส่วนเพื่อนผมที่ไปเที่ยวด้วยกัน เลือกพักห้อง Cabana Pool Suite ตัวห้องค่อนข้างกว้าง ผมชอบการดีไซน์ที่มินิมอลแบบนี้ ตกแต่งสวยดีครับ มีความโมเดิร์น ที่ดูแปลกตาไปกว่ารีสอร์ตปกติ

ที่นี่มีห้องแบบติดสระว่ายน้ำด้วยครับ หรือที่เรียกว่า Pool Access สามรถลงเล่นน้ำจากระเบียงห้องเราได้เลย สะดวกสบายดี แต่อาจจะแลกกับความเป็นส่วนตัวเล็กน้อยเพราะแขกท่านอื่นก็อาจจะส่งเสียงรบกวนเราบ้าง หรือว่ายน้ำผ่านแถวหน้าห้องเรา

อีกไฮไลท์ของที่นี่ คือร้านกาแฟชื่อดังแห่งสิชล ที่ติดอันดับจุดเช็คอินอย่าง BLUE SURF CAFE by Sichon cabana

ปาล์มเล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจว่า เขาอยากให้ คนท้องถิ่น หรือแม้แต่แขกที่ไม่ได้เข้าพักที่นี่ ก็สามารถมาทานอาหารและดื่มกาแฟได้ กำแบงค์ร้อยมาสักใบ ก็ได้เครื่องดื่มอร่อยๆ สามารถจิบกาแฟพร้อมได้เทควิวทะเลหลักล้านกลับไป

กานต์เองอยู่หลายวันก็ลองดื่มไปหลายตัวเลยครับ อย่างกาแฟอเมริกาโน่ท๊อปด้วยโฟมนุ่มๆ ก็สามารถละเลียดฟองได้ราวกับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาตลอดเวลา

ส่วนชาก็อร่อย ดื่มแล้วสดชื่นดีมีความเปรี้ยวและกลิ่นหอมของลิ้นจี่ด้วยครับ เสียดายอยู่ในช่วงคุมน้ำหนักเลยไม่ได้ลองเบเกอรี่ แต่เห็นเพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า เค้กที่นี่อร่อย

มุมมหาชนที่ทุกคนมาต้องถ่ายกับกระดานเซิร์ฟที่พิงไว้ สามารถเอาไปเป็นพร๊อพถ่ายรูปได้ ถ้าหากไม่กล้าเล่น แต่ถ้าใครอยากเล่น ปาล์มก็จะสอนเทคนิคให้ ไม่อยากครับ

ภาพมันเบลอหรือเธอไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่า คนถ่ายตั้งโฟกัสผิดรึเปล่า ตั้งใจทำให้เพื่อนไม่ชัด

พายเรือคายัคเล่นกัน ท่าไม่เน้น โฟกัสที่รูปสวยไว้ก่อน

ที่นี่กิจกรรมทางน้ำเยอะจริงๆ ครับ และดูเหมือนว่า แขกที่มาพักก็ล้วนแต่อยากสนุกกับของเล่นที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้

ถ้าไม่อยากเล่น ปาล์มก็ขยั้นขยอให้เล่น ผมว่าเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นดีครับ เหมือนกับเรามาเที่ยวบ้านเพื่อนที่สิชล แล้วเพื่อนเราก็อยากต้อนรับขับสู้ให้ดี มีอะไรก็ขนมาให้แจมกัน จะได้ฟีลแห่งมิตรภาพกลับไป พร้อมความประทับใจ

ปาล์มเล่าว่า มีลูกค้าหลายท่าน มาพักที่นี่กันแทบทุกเดือน เหมือนผูกปิ่นโตเอาไว้ ด้วยบรรยากาศแบบไทยๆ กันเอง สบายๆ ทำให้หลายคนติดใจที่นี่ครับ

ผมก็เหมือนกัน

ปาล์มพาไปล่องเรือใบตอนเช้า แสงดีครับ ถ่ายรูปออกมางี้สวยเลย เป็นวันที่โชคดีเพราะไปแทบไม่เจอฝนเลยครับ แดดตอนเช้าสวยทุกวัน ทำให้ได้ภาพมาฝากกันเยอะมาก

เรือเล่นออกไปไกลมาก เพราะว่าเช้านี้ลมดี ปาล์มบอกว่า ในการบังคับเรือใบ เราแค่ดูทิศทางลม แล้ววางใบให้ไปในทิศนั้น เรือก็จะแล่นของมันไปเอง เหมือนอย่างที่ผมบอกไว้ในช่วงต้น เราบังคับลมไม่ได้ แต่เราสามารถบังคับใบเรือได้

จากนั้น ปาล์มก็สอนเทคนิคการเลี้ยวเรือกลับ ซึ่งง่ายมาก ได้ลมดีๆ ล่องมาแปบๆ ก็ถึงฝั่งครับ เป็นอีกประสบการณ์ที่สนุกมาก

สายๆ เราออกไปเที่ยวข้างนอกกันบ้างครับ

มุมนี้ก็เห็นมีหลายคนชอบมาถ่ายกัน

วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดไอ้ไข่ คือจุดหมายปลายทางแรกของเรา ช่วงที่ไปถึงเพิ่งจะสิบโมงเช้าและเป็นวันธรรมดา ทว่ารถเต็มลานจอดเลยครับ คนเยอะมาก มองไปทางไหน ก็มีแต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง

จากลานจอด เดินเข้าไปจะให้เป็นแถวเรียงหนึ่ง เพื่อทำการวัดอุณหภูมิ และอย่าลืมพกหน้ากากอนามัยไปด้วยครับ สแกนไทยชนะให้เรียบร้อย

จากนั้น เมื่อเข้าไปด้านใน จะแยกเต้นท์เอาไว้ชัดเจน ใครที่เอาของมาถวาย ให้นำมาไว้ที่เต้นแรก ส่วนใครที่จะไหว้ ให้ไปหยิบดอกไม้ ธูป เทียน ที่เต้นท์ 3 จากนั้น เดินมาเต้นท์กลางคือเต้นท์ 2 จะมีรูปปั้นไอ้ไข่ หรือปู่ไข่ เป็นรูปแกะสลักเด็กอายประมาณ 9–10 ขวบ สวมชุดลายพรางทหาร สวมแว่นตาดำ จะตั้งไว้ในหลายจุดเพื่อกระจาย กันไหว้ครับ คนอาจจะเยอะหน่อย ต้องระวังเรื่องธูปเทียนจากคนข้างๆ ให้ดี

จากนั้น ก็ขึ้นไปบนวิหาร เพื่อกราบพระ และด้านในยังมีรูปปั้นไอ้ไข่ ตั้งอยู่อีกหลายจุดครับ เป็นความศรัทธาที่เชื่อกันว่า “ขอได้ ไหว้รับ”

เมื่อเสร็จภารกิจภายใน ออกมาด้านนอก บริเวณในสุดของวัดจะเป็นลานประทัด สำหรับใครที่จะแก้บน คนจะเยอะมาก และจะจุดประทัดกันเป็นรอบๆ

ที่เห็นเป็นเนินนั้นคือซากประทัดครับ บางคนก็หลักพัน บ้างก็จุดกันเป็นหมื่นเป็นแสนนัด แล้วแต่ความโชคดีสัมฤทธิ์ผลของแต่ละคนที่ได้บนบานกล่าวขอเอาไว้

เราขับรถไปยังถนนเลียบชายหาดที่สวยที่สุดที่เชื่อมอำเภอสิชล กับอำเภอขนอมเข้าด้วยกัน เป็นทางลาดยางซึ่งมีความโค้งไปมา ในบางจุดก็มีลักษณะเป็นเนิน เมื่อถ่ายรูปก็มักจะดูมีมิติ

ถ้าสงสัยว่าจุดไหนสวยสุด ให้สังเกตว่าถ้ารถเริ่มติด นั่นแปลว่า ข้างหน้าใกล้จะถึงละครับ คนจอดถ่ายรูปกันเยอะมาก ต้องระวังอันตราย

แต่ที่ผมชอบมากกว่าคือการมองวิวระหว่างขับรถไป (เพื่อนขับ-ผมถ่าย) เราได้เห็นชายหาด สวยๆ ที่ทอดยาว พร้อมกับทิวพร้าวขนานกันไป เป็นภาพที่สวยมาก แวะจุดชมวิว ถ่ายภาพกันเยอะมาก มีหลายหาดที่น่าสนใจ เช่น หินงามรางทัด หาดเพลา หาดพลายดำ

เอาจริงผมว่า ชายหาดที่สิชล ขนอม นี่ก็สวยติดอันดับของประเทศไทยเลยนะ ตอนนี้ก็น่าจะเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น คนมาเที่ยวกันเยอะ มีโรงแรมน้อยใหญ่เกิดขึ้นมากมาย คิดว่าถ้าหลังโควิด มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเข้ามาได้ คงคึกคักไปมากกว่านี้

“อุโมงค์ต้นยาง” ทางเข้าถ้ำเขาวังทอง สองข้างทางจะเป็นสวนยางที่ปลูกเรียงรายกันหลายไร่ กิ่งก้านใบของต้นยางที่โน้มตัวเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ ยาวประมาณ 500 เมตร ก็ทำให้ดูสวยแปลกตาน่าถ่ายรูปดีครับ บรรยากาศร่มรื่นมาก

สะพานไม้อ่าวเตล็ด เป็นสะพานไม้ที่สร้างยื่นลงทะเลเพื่อเป็นท่าเรือขึ้นลงของ ชาวประมง และสำหรับลงเรือไปชมโลมาสีชมพู

เราสามารถชมวิวทิวทัศน์รอบอ่าวได้อย่างสวยงามจึงกลายเป็น อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกับสะพานนี้อยู่บ่อยๆ

ใครจะไปดูโลมา แนะนำว่าให้มาแต่เช้าครับ

เป็นอีกจุดที่น่ามาเช็คอินครับ

ขนอม ก็ถือว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งนะครับ เหมือนกับเป็นเมืองแฝดของสิชล ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับกับพื้นราบ เต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่ครบทั้งทะเล ภูเขา น้ำตกและถ้ำ การเดินทางก็มาได้สะดวกสบาย ก็เลยทำให้ตอนนี้นครศรีธรรมราชกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางชาวไทยที่อยากจะมาสัมผัสกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ดูบ้างครับ

แวะพักจิบกาแฟที่ SYNE Cafe อยู่ที่ จุฬา บีช ขนอม

บรรยากาศก็สบายๆ เหมาะที่จะมานั่งตอนเย็นมากกว่า เพราะบ่ายค่อนข้างร้อน แต่ก็มีมุมด้านในให้นั่งพักผ่อน กาแฟรสชาตดีครับ แต่ที่ไม่ค่อยประทับใจคือการบริการ

ระหว่างนั่งทานกาแฟ ชมวิวไปเพลินๆ ก็มีเจ็ทสกี ขี่ผาดโผนให้ดูฟรีครับ ไม่รู้ใคร เบิ้ลเครื่องใหญ่โต ราวกับโชว์เจ็ทสกีชิงแชมป์โลก แต่เค้าก็ขับเก่งดีครับ ยกนิ้วให้เลย

เส้นเลียบหาดขนอม-สิชล ผมยอมรับเลยว่า มีอีกหลายหาดที่สวยมากๆ ต้องจัดเวลามาอีกหลายๆ ครั้งเลย ถึงจะเก็บครบ

ภาพนี้ทำเอาสตั้นท์ไป 3 วินาที นี่ขนาดว่ายามบ่ายยังสวยขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าตอนพระอาทิตย์ทอแสงทองจะสวยขนาดไหน

ตอนเย็นกลับมาที่สิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ต ตั้งใจจะเดินริมชายหาด เดินออกไปทางสายผ่านประสานสุข จะเจอเนินโขดหิน ตอนเย็นน้ำขึ้นเห็นมีคนถ่ายรูปกันเยอะมาก แสงสวยดี

แสงทไวไลท์ที่สิชล

สวยขนลุกแล้วแม่!!!!

แนะนำว่าถ้ามาสิชล แนะนำให้ตื่นเช้าๆ เราอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศริมทะเล มีความเป็นธรรมชาติ วิถีชีวิต ผู้คน

ชอบภาพนี้ คอมโพสดีมาก

ตอนเช้า ผมลงมาวิ่งริมชายหาด เอาให้พอได้รูป เอ๊ยย !! ได้เหงื่อ แต่แสงสวยมากครับ

เราตื่นเช้า ชาวบ้านที่นี่ตื่นเช้ากว่า ออกมาหาปลา ดำเนินชีวิตกันแต่เช้า เพราะสิชลเป็นเมืองติดทะเล เคยเป็นเมืองท่าการค้า เมืองประมง คนสิชลจึงผูกพันกับท้องทะเลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

การทำประมงกลายเป็นจุดเด่นของที่นี่ ชาวสิชลทำประมงแบบเคารพธรรมชาติ ด้วยภูมิปัญญาที่ส่งต่อกันมา ไม่ทำร้ายธรรมชาติ ต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน ใช้สภาพแวดล้อมของทะเล ศึกษาจากฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละปีเป็นตัวกำหนดการออกหาปลา ไม่เร่งรีบและตักตวงเอาประโยชน์จากท้องทะเลแต่เพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ระบบนิเวศน์ของที่นี่จึงอุดมสมบูรณ์ อาหารทะเลของสิชลขึ้นชื่อเรื่องความสด อร่อย กว่าที่อื่น ถ้าไม่เชื่อต้องมาชิมที่ร้านอาหารของสิชล คาบาน่า

ผมว่าเรื่องที่ดูปกติเหล่านี้ แต่เป็นวิถีที่เราคนต่างถิ่นอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินได้เห็นกันบ่อยนัก ขณะเดียวกันภาพนี้กลับสร้างอิมแพคให้เราได้มาก

“มาอีกนะพี่” ปาล์มบอก

ครั้งหน้าตั้งใจว่าจะไปอยู่สัก 10 วัน เอาลองสเตย์ กันนานๆ เลยครับ เพราะว่าประทับใจมาก เหมือนกันได้มาเที่ยวบ้านเพื่อน ที่คอยอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง ดูแลทุกคนอย่างเต็มที่ ราวกับญาติสนิท

อาจจะจองยากสักนิด เพราะห้องถูกจองไปไวมาก ถ้าอยากไปเที่ยวสิชล อาจจะต้องวางแผนล็อควันดีๆ แล้วจองเลย https://sichoncabana.com

เอาเป็นว่า ตุลานี้เจอกันอีกแน่นอน

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน