Scarlett Wine Bar & Restaurant

นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน ก็จะอำลาปี 2018 กันไปแล้ว เรามาใช้ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้กันให้มีความสุขดีกว่าครับ

Tandis que vostre âge fleuronne
En sa plus verte nouveauté,
Cueillez, cueillez vostre jeunesse :
Comme à ceste fleur la vieillesse
Fera ternir vostre beauté.

 

กวีชาวฝรั่งเศส ปีแยร์ เดอ รงซารฺด์ ประพันธ์ถึง คาสซองดร์ (À CASSANDRE) เปรียบดอกไม้เป็นเหมือนความงามของชีวิต ที่ไม่สามารถเอาชนะเวลาได้ เราจึงต้องตักตวงเอาความสุขแห่งความสวยงามนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด เผื่อที่วันหนึ่ง เราจะได้ไม่ต้องเสียใจจะได้ไม่ต้องมาพูดคำว่า “รู้อะไร ไม่สู้ … รู้งี้!!” (555)

“Le temps est comme une rivière.
Vous ne pouvez pas toucher deux fois la même eau parce que l’eau est passée et ne repassera plus.
Profitez de chaque moment de cette vie.

 

เวลาก็เหมือนสายน้ำ เราไม่สามารถสัมผัสน้ำเดียวกันสองครั้ง เพราะน้ำที่พัดผ่านจะไม่กลับมาอีกครั้ง ดังนั้นเรามาเพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาของชีวิตเราจะดีกว่าครับ

คริสมาสต์-ปีใหม่ปีนี้ มีแพลนจะไปดินเนอร์ที่ไหนกับใครหรือเปล่าผมอยากจะเสิร์ฟไอเดียให้กับคนมีคู่ หรือจะไปกับเพื่อนหรือครอบครัวก็ได้อยากให้จองโต๊ะไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วไปฉลองกัน กับร้านอาหารฝรั่งเศสที่เป็นที่แนะนำโดยไกด์บุคจากมิชลิน ทั้งในปี 2018-2019 พร้อมด้วยรางวัลที่ได้รับมาอีกยาวเหยียด กับ Scarlett Wine Bar & Restaurant บนชั้น 37 ของโรงแรม Pullman Bangkok Hotel G สีลม

ส่วนตัวที่แนะนำร้านนี้ เพราะชอบในความเรียบหรู การเลือกใช้สีดำตัดแดงเป็นตัวดึงอารมณ์ ผสมกับการรับชมวิวของกรุงเทพในมุมสูงที่สวยงาม เราสามารถนั่งมองความเคลื่อนไหวของเวลาไปใน 2 ฝั่ง ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของร้านอาหารและบาร์ และยังมีที่นั่งทั้ง outdoor และ indoor

ในส่วนของบาร์ ถ้าพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว เราจะมองเห็นวิวกลางคืน ของถนนสีลมได้อย่างสวยงามและสามารถมองได้ไกลถึงริมเจ้าพระยาเลยทีเดียวหากมีเวลามาถึงเร็วราว 6 โมงเย็น ตอนร้านเปิด จะทำแบบผมก็ได้นะครับ

ช่วงแรกที่ดื่ม เราก็ไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่บาร์กันก่อน จากนั้นก็ค่อยย้ายเข้าไปนั่งทานอาหารด้านใน อาหารที่สั่งผมเน้นตามใจเชฟครับ ให้เขาแนะนำ ซึ่งในส่วนของรสชาตินั้นเราไม่ต้องพูดถึงกัน เพราะมันดีมากอย่าง Appetizer ก็สั่งเป็น Le Crabe Royal d’Alaska เป็นสลัดปูอลาสก้า ต่อมาเป็น Tarte soufflé aux Gambas จานนี้เป็นเมนูใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งได้เชฟมิชลิน 2 ดาว เชฟมานูเอล มาร์ติเนซ รังสรรค์ขึ้นมาให้ กำลังรอลุ้นว่าเชฟจะมาเมืองไทยอีกทีเมื่อไร อยากลองไปชิมฝีมือแบบจริงๆ บ้างนอกจากนี้ยังมีอีกหลายจานทั้งสั่งมาทานกัน

Bon appétit

ใครชอบทานชีสและ cold cut จะไม่ผิดหวังครับ มีให้เลือกหลากหลาย เฉกเช่นเดียวกับไวน์ ที่จัดเรียงไว้เต็มตู้แช่ บริเวณโถงทางเข้า ราวกับจะเชื้อเชิญว่า “จิบฉันที”

รายละเอียดอื่นๆ ต่อจากนี้ อ่านไล่เรียงไปในแต่ละรูป ตั้งแต่ drinks ไปจนถึงของหวานเพื่ออรรถรสในการรับประทานที่ดีและมีความสุขครับ

เมื่อลิฟต์เปิดออกยังชั้น 37 ช่วงนี้เราจะได้เห็นผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงยังห้องอาหารแห่งนี้ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน สามารถดื่มด่ำกับอาหารและชมงานศิลป์ แกล้มวิวสวยไปพร้อมๆ กัน

ส่วนหนึ่งของรางวัลที่ Scarlett Wine Bar & Restaurant ได้รับมา และล่าสุดกับ Michelin Guide 2 ปีซ้อน (2018-2019) The Plate ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน

เริ่มต้นกับเครื่องดื่มกันก่อน ความพิเศษของ Scarlett Wine Bar & Restaurant คือ เป็นห้องอาหารที่มีไวน์มากกว่า 250 ชนิดเลยทีเดียว

แต่ Signature Cocktails ก็มีหลายตัวที่น่าสนใจ ค่อยๆ สั่งมาชิม ทั้ง The “G” Effect, The Ultimate Mojito, Jade’s Secret etc

Sunset is still my favorite color, and🍸good cocktails🍹is second.

อยากได้ความสดชื่น ซ่อนเปรี้ยวงานเสาวรสก็มาทันที

สามารถเรียกได้ว่า Scarlett Wine Bar เป็นรูฟท๊อปบาร์ ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกกับวิว Bangkok Skyline ในบรรยากาศของความเงียบท่ามกลางความวุ่นวายเบื้องล่าง ก็เป็นความแตกต่างของชีวิตที่ทำให้พบว่าเป็น “ความแตกต่างอย่างงดงาม”

มุมมหาชน ความงดงามบนชั้น 37 ที่มองเห็นกรุงเทพมหานครทางทิศตะวันตก หนีรถราความวุ่นวายที่อยู่ด้านล่าง มานั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ ที่ Scarlett Bangkok กันดีกว่าครับ

เครื่องดื่มเยอะมาก เลือกสรรได้ตามใจ ภายใต้บรรยากาศแบบเป็นกันเอง Mr.Arthur สุดหล่อ เป็น Operation Manager ดูแลห้องอาหารนี้ อัธยาศัยไมตรีดีมากครับ ดูแลอาหารทุกจานที่เสิร์ฟ แนะนำเมนูที่ตั้งสั่ง รวมถึงยังให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบของอาหารแต่ละจาน คอยบอกเราว่า Bon appétit ตลอดเวลา

อีกฝั่งหนึ่งของห้องอาหารจะมองย้อนกลับไปทางถนนสีลม มองเป็นอาคารมหานคร เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลกัน

วางเคาน์เตอร์บาร์สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางร้าน สามารถนั่งหน้าบาร์ได้ ส่วนรอบๆ บาร์ เป็นโต๊ะอาหารและโต๊ะไม้ทรงสูง สำหรับการตกแต่งร้านจะเน้นความเรียบหรู มีความเป็นธรรมชาติ ด้วยวัสดุอย่างไม้ ให้ความปลอดโปร่งมีการใช้สีโทนทึบให้ตัดกับแสงไฟสีส้มของทางร้าน เพื่อให้ผู้ที่มานั่งรับประทานอาหารได้ชมแสงไฟในยามค่ำคืนจากชั้น 37 นั่นเอง

Scarlett Wine Bar & Restaurant เป็นร้านต้นตำรับอาหารฝรั่งเศสขนาดแท้ โดยทางร้านได้คัดสรรเชฟที่มือรางวัลที่จะมาคิดค้นและรังสรรค์เมนูบุกเบิกของ Scarlett

ซึ่งก็คือ เชฟ Manuel Martinez เจ้าของห้องอาหารมิชลิน 2 ดาวชื่อดังอย่าง Le Relais Louis XIII ที่เมืองปารีส อีกทั้งเขายังได้รับรางวัลเชฟที่ดีที่สุดในฝรั่งเศสกับรางวัล Maître Ouvrier de France (MOF) อีกด้วย

เชฟเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางถึงพรสววรค์ในการประยุกต์แบบแผนการทำอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม มาปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ตกแต่งหน้าตาอาหารสร้างบรรยากาศร้านให้ออกมาแบบโมเดิร์นฝรั่งเศส

เราเลือกนั่งโต๊ะฝั่งที่หันหน้าไปทางสีลมครับ ฝั่งนี้จะค่อนข้างเงียบ เพราะอยู่คนละฟากกับบาร์ มีความเป็นส่วนตัวดีครับ เวลาคุยกันจะได้ยินกันชัดๆ หน่อย

Scarlett Wine Bar & Restaurant เป็นร้านอาหารโรงแรมแห่งแรกในไทย ที่มีเครื่อง Dry-Aged เพื่อคงความสามารถในการควบคุมการผลิตวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อให้มีระดับคุณภาพดีที่สุดและคงรสชาติดีที่สุดไว้ ผสานกับฝีมือการปรุงอาหารชั้นเลิศของเชฟที่นี่

นอกจากเมนูอาหารฝรั่งเศสระดับคลาสสิกแล้ว จุดเด่นของที่นี่ คือ โซนย่างสเต็ก ที่เป็นการย่างจริงๆและดูจริงจังมาก แบบให้เชฟยืนย่างกันให้เห็นๆ อยู่ในครัวเปิด เราต่างมองเห็นเชฟและผู้ช่วยต่างทำงานกันอย่างแข็งขัน เพื่ออาหารจานอร่อย

Appetizer เป็น Le Crabe Royal d’Alaska ซึ่งเชฟเดินมาแนะนำถึงโต๊ะว่าต้องสั่ง เป็นเนื้อปูอลาสก้า บดกับเครื่องปรุง ท๊อปด้วยมะม่วงสุก อโวคาโด้และสลัดสูตรของทางร้าน

Lobster Bisque จานนี้ชอบมาก ซุปลอปสเตอร์ทำออกมาได้นุ่มเนียน ลื่นคอ ขอบอกเลยว่า “ต้องสั่ง” ครับ

Tarte soufflé aux Gambas >> Tiger prawn tart soufflé with creamy lobster bisque เมนูนี้เป็นเมนูใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาอยู่ในเมนูประจำครับ ซึ่งได้เชฟมิชลิน 2 ดาว เชฟมานูเอล มาร์ติเนซ รังสรรค์ขึ้นมาให้โดยเฉพาะ

Main Course เลือกเป็น Scallops d’นำเข้าจาก Hokkaido และอีกจานเป็นเป็ด Le Confit de Canard

Chocolate Profiteroles เป็นแป้งชูไส้ครีมวานิลลา เสิร์ฟมาพร้อมกับการราดซอสช็อกโกแลตร้อน ที่มาจากช็อกโกแล็ตเกรดพรีเมี่ยมฝรั่งเศส ให้ความเข้มข้นถึงใจ ตัดขมตัดเลี่ยนด้วยไอศครีมวานิลลา

อีกจานเป็นของหวานที่เชฟ (สั่ง) แถมให้ ดูๆ ไปก็มิลล์เฟยธรรมดา แต่ว่าพอลองทาน Mille Feuille ‘Grands Augustins’ มิลเฟยแป้งกรอบไส้วานิลลาหวานน้อยแต่อร่อยมากกกกกก

การใช้ชีวิตเป็นศิลปะที่ละเอียดอ่อน และมีความเป็นปัจเจก

ทว่าการจะวัดความสำเร็จของคนเราคงไม่สามารถวัดได้จากหน้าที่การงานหรือเงินในธนาคาร หากแต่ยังวัดได้จากการเลือกใช้ชีวิตที่มีทั้งสาระและความสุขได้ในทุกๆ วินาทีของชีวิตอีกด้วย

ไลฟ์สไตล์ เป็นสิ่งที่เราต้องเลือกด้วยตนเอง เพราะไลฟ์สไตล์นั้นบ่งบอกความเป็นเราที่ไม่มีใครจะเข้าใจตัวเราเองได้ดีไปกว่าตัวเรา การเปิดรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต ลองทำในสิ่งที่เราเองอาจจะยังไม่เคยได้ทำ หรือค้นหาความชอบความรักของตนเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มสีสันและได้มอบความสุขให้กับตัวเอง

Scarlett Wine Bar & Restaurant เป็นรูฟท็อปบาร์และร้านอาหารฝรั่งเศสที่ติดอันดับ 1 ในใจผมไปเสียแล้วครับ เพราะมาที่เดียวครบทุกฟีล ไม่ว่าจะไปนั่งดริงก์รอชมพระอาทิตย์ตกตามลำพัง หรือจะนั่งคุยกับเพื่อน กับแฟนแบบสวยๆ เดทแบบเก๋ๆ เรียบหรูรวย ด้วยบรรยากาศของร้านที่สวย รสชาติอาหารที่อร่อย การบริการดี และ ราคาอาหารที่สมเหตุสมผล

คริสมาสและปีใหม่นี้เจอกันที่ Scarlett Bangkokนะครับ

Scarlett Wine Bar & Restaurant
ชั้น 37 โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G สีลม
จองโต๊ะ Scarlett Bangkok โทร. 0968607990
(LINE) @scarlettbkk
หรือที่ http://www.facebook.com/scarlettwinebarbangkok

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน