Reference Sathorn – Wongwianyai

Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ น่าจะเป็นโครงการที่กานต์คุ้นเคยที่สุด เพราะเดินผ่านทุกวันอยู่ห่างจากบ้านผมไปถึงไม่ร้อยก้าว ผมเฝ้ามองดูพัฒนาการของโครงการตั้งแต่ถมที่ไปจนถึงตอนนี้มี Sales Gallery แล้วครับ

นับว่าเป็นการมาเยี่ยมชมโครงการที่น่าตื่นเต้น เพราะผมยังไม่เคยเห็น SC ASSET บุกโครงการแนวดิ่งย่านฝั่งธนเลยครับ ดูเหมือนว่าจังหวะลงตัวดีมาก เพราะตอนนี้วงเวียนใหญ่เปลี่ยนไปมากแล้ว

โครงการทำเลยอดเยี่ยมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS เพียงแค่ไม่กี่ก้าว เราสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางธุรกิจอย่างสาทร-สีลม-สยาม-สุขุมวิทได้ในทันที ย่านนี้ยังมีแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอย่าง ICONSIAM ด้วยครับ เหมาะสำหรับการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน จากนั้นก็กลับมาพักผ่อน

ที่ผมชอบคือการออกแบบล้อไปตามคอนเซ็ปต์โครงการ “MOON” เป็นสัญลักษณ์ของการพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน Sales Gallery จึงออกแบบไปตาม Form & Shape ในรูปพระจันทร์โค้งมนกลม สีขาวสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าที่สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ ไอเดียใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์จัดแบบนี้ น่าจะดึงดูดใจกลุ่มคน Gen Y ได้ดีเพราะเติบโตมากับ “Good Design” และให้ความสำคัญกับ “Lifestyle” กลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ Source of Inspiration

รีวิวนี้ผมจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 3 type เป็นแบบ Fully Furnished ทั้งหมด คือ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ซึ่งเป็น Rare Item และเป็น Type ห้องที่ผมชอบมาก การวางผังเป็นห้องหน้ากว้างต่างจากคอนโดทั่วไป ได้ผนังกระจกในทุกห้องช่วยเรื่องของแสงสว่างที่ส่องเข้ามาภายใน มี Living Area ที่ใหญ่ช่วยให้ห้องดูโอ่โถงขึ้น ดูแล้วอยู่สบายไม่อึดอัดได้ฟีลลิ่งเหมือนอยู่บ้านจริงๆ เลยครับ

ชั้น 2 ของ Sales Gallery ยังมีร้านโดนัทชื่อดังอย่าง Drop By Dough มาเปิด Pop-Up Cafe ให้เราได้มาทานขนมอร่อยและมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เป็น Reference ที่ดีในการใช้ชีวิต และช่วยให้วงเวียนใหญ่คึกคักขึ้นอีกมากเลยครับ

ไปชมภาพในคอลเลคชั่น Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ ที่กานต์นำมาฝากกันต่อด้านในดีกว่าครับ

กานต์เดินมาถึงสำนักงานขายโครงการ Referance สาทร – วงเวียนใหญ่ ในช่วงเช้า ท้องฟ้าวันนี้สดใสดีมาก ผมมองว่าเป็นแบ็กกราวด์ให้กับภาพถ่ายของผมได้ดี ซึ่งเป็นตีมสีที่คุมโทนเข้ากับตัวโครงการคือใช้สีฟ้า-ขาว

Sales Gallery ออกแบบเป็นรูปทรงโค้งมนเหมือนพระจันทร์ เนื่องจากคอนเซ็ปต์คือ Day & Night ให้เราออกไปใช้ชีวิต ทำงาน แถวสีลม สาทร ในช่วงเวลากลางวัน

จากนั้น ก็กลับมาพักผ่อนอยู่ที่บ้านในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเปรียบเหมือนพระจันทร์ที่เราจะพบกันในช่วงท้องฟ้ามืดลงเท่านั้น

ดังนั้น องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและการออกแบบจึงอ้างอิง Form & Shape ของพระจันทร์

สังเกตได้จากการเปิดช่องแสงครึ่งวงกลม ประตูโค้งทรง Arch หรือความกลมมนของผนังอาคาร ล้วนแต่เป็นการอ้างอิงลักษณะของพระจันทร์ในช่วงเวลาต่างๆทั้งข้างขึ้น-ข้างแรมและพระจันทร์เต็มดวงนั่นเองครับ

อยากบอกว่านี่การเป็นรีวิวคอนโดที่ใกล้บ้านผมที่สุดเลยครับ ดังนั้น จะหาคนมารีวิวที่คุ้นเคยกับทำเลนี้ไม่มีอีกแล้ว ผมอยู่มามากกว่า 15 ปี มองเห็นพัฒนาการของโลเคชั่นซึ่งต่างจากอดีตมาก

ปัจจุบัน วงเวียนใหญ่ โดยเฉพาะรอบๆ สถานีรถไฟฟ้า BTS ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกค่อนข้างมาก เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างครบถ้วน ตลอดจนการเดินทางเข้าสู่ใจกลางธุรกิจอย่างรวดเร็ว

ถ้าจะให้สะดวกที่สุดต้องโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ Reference เพียง 130 เมตรเท่านั้น เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีทองเพื่อไปยัง ICOMSIAM ได้ หรือใครที่จะขับรถยนต์ ก็สามารถกลับรถแล้วตรงขึ้นสาทรได้ทันที

ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงอยู่ใกล้ๆ เรียกได้ว่า วงเวียนใหญ่จะพัฒนาไปสู่การเป็น Hub of Transportation

โครงการ Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น และ 51 ชั้น จำนวน 2 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 3-2-78.4 ไร่ จำนวนห้อง 815 ยูนิต มีส่วนพักอาศัยด้วยกัน 2 อาคาร พร้อมอาคาร 2 ชั้นด้านหน้าที่เป็น Retail และสวน

ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางมีทั้งสระว่ายน้ำชั้นรูฟท็อป, สวนลอยฟ้า, Onsen, Fitness, Lounge, Co-Space เพื่อรองรับทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไปได้อย่างครบถ้วน

ภายใน Sales Gallery ออกแบบได้น่ารักดีครับ ดูครีเอทและสดใสด้วยการเลือกใช้สีฟ้า มาตัดกับสีขาวเพื่อไม่ให้ดูนิ่งเรียบจนเกินไป ด้านในโดดเด่นด้วยพระจันทร์กลมมนดวงโตที่เด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณโถงต้อนรับ พร้อมกับจัดวางเคาน์เตอร์หินอ่อนสีเข้มทรงกลมมน เพื่อให้ดูเป็นจุดสนใจแรกเมื่อเข้ามาถึง

Sales Gallery จัดวางที่นั่งฟอร์มกลมมนกระจายไปทั่ว มีแบบที่เป็นห้องส่วนตัวด้วยครับเผื่อใครจะปิดดีลเซ็นใบจองห้องแบบสวยและรวยเงียบๆ 555

อนาคตของอาคาร Commercial ซึ่งเป็น Sale Gallery อยู่ในตอนนี้ จะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็น Foodland ในรูปแบบใหม่ สไตล์ Grab & Go และสวนสำหรับพักผ่อน ให้ลูกค้าและลูกบ้านได้มานั่งเล่นอยู่ที่ชั้น 2

ห้องพักของโครงการ Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ มีด้วยกัน 4 แบบ เป็นการขายแบบ Fully Furnished คือจะตกแต่งเฟอร์นิเจอร์มาครบแล้ว

ออกแบบมาให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้หลากหลาย ที่สำคัญคือเราสามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลยครับ นับว่าสะดวกมาก

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมจะเป็นห้องแบบ Studio ซึ่งจะมีขนาด 24.19 – 27.94 ตร.ม. เป็นห้องคอมแพคที่อยู่กันประมาณ 1-2 คนกำลังดี

โครงการติดตั้ง Digital Door lock ให้ที่ประตู ส่วนภายในตัวห้องวางผังเป็นสี่เหลี่ยม ที่มีครัวอยู่ด้านหน้าประตู เว้นช่องว่างสำหรับจัดวางตู้เย็นและเป็นตู้เก็บของเก็บรองเท้าอยู่ด้านหน้าห้อง

สำหรับใครที่ชอบทำอาหารทานเอง ผมแนะนำว่าสามารถกั้นประตูบานสไลด์กระจกเพื่อทำครัวปิดได้ เพราะมุมจะชนกับเหลี่ยมผนังห้องด้านในพอดี พื้นห้องปูด้วย SPC (Stone Plastic Composite) ลายไม้ธรรมชาติเป็นวัสดุปูพื้นที่ผมว่ามันทนความชื้นได้ดีและไม่ค่อยมีรอยขีดข่วน

ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำและที่สำคัญเป็นห้อง Studio ที่มี Walk-in Closet ด้วยครับ เป็นการออกแบบที่เซอร์ไพรส์ผมมาก

ไม่ค่อยได้เห็นผังห้องแบบ Studio ที่ออกแบบให้มี Walk-in Closet เท่าไรนัก ต้องยกนิ้วโป้งให้ในความครีเอทของทีมออกแบบครับ

ส่วนที่อยู่ติดกับครัวจะเป็นชั้นวางทีวีซึ่งติดตั้งตู้คาบิเนททรงเตี้ยสำหรับเก็บของ โดยยกทีวีไว้เป็นแบบแขวนผนังแทนช่วยในการประหยัดพื้นที่ ส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ระยะห่างจากทีวีประมาณ 3 เมตร สามารถวางทีวีจอใหญ่ได้สบายเลยครับ

ด้านข้างเปิดช่องแสงด้วยผนังหน้าต่างกระจกบานใหญ่ รับวิวได้สบายๆ เลยครับ

ส่วนอีกด้านจะเป็นระเบียงซึ่งออกแบบให้วางเครื่องซักผ้าได้หรือจะออกไปยืนรับลมชมพระจันทร์ก็ได้เช่นกัน

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซนพักผ่อน ห้องตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ โดยห้องตัวอย่างออกแบบให้เป็นเตียงแบบยกพื้นแล้ววางฟูกนอนสไตล์ Japandi แทน ดูน่ารักมาก ด้านล่างเป็นลิ้นชักสามารถเปิดออกมาเพื่อเป็นที่เก็บของได้

ทางโครงการได้ Buid-in ตู้เก็บของขนาดใหญ่ พร้อมกับจัดที่นั่งเอาไว้ให้เรียบร้อย

เท่านี้ยังไม่พอ ยังซ่อนความครีเอทเอาไว้ด้วยการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานของตู้แบบ Flexible Furniture สามารถกางออกเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือหรือนั่งทานข้าวได้อีกด้วย หากไม่ใช้ก็แค่พับเก็บเข้าไว้ในตู้เหมือนเดิม

ไอเดียนี้ผมชอบมากเลยครับ ไม่รู้คิดได้ไง ประหยัดพื้นที่และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคน Gen Y มากๆ

มาดูห้องแบบ 1 Bedroom กันบ้างครับ ขนาด 31.24 – 31.88 ตร.ม. อันที่จริงจะมีห้องแบบ 1 Bedroom Plus ด้วยอีกหนึ่ง Room Type ขนาดก็จะใหญ่กว่านี้อีกหน่อยคือ ขนาด 32.54 – 53 ตร.ม. แต่ว่าไม่ได้มีห้องตัวอย่างให้ดู

ห้อง 1 Bedroom วางผังเป็นสี่เหลี่ยมครับแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานภายในห้องได้อย่างชัดเจน

เริ่มจากด้านหน้าประตูเป็นห้องครัวแบบปิดสามารถทำอาหารได้พร้อมประตูกระจกคอยกันกลิ่นเข้ามาในห้อง และช่วยกั้นเสียงจากภายนอกได้อีกชั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและสงบเงียบมากขึ้น

เนื่องจากเป็นการขายแบบ Fully Furnished ทางโครงการจึงได้ติดตั้ง Hob & Hood แบบดูดควันออกไปภายนอก โดยเลือกใช้เป็นแบรนด์ Hafele และยัง Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมติดตั้งตู้บนล่างและอ่างล้างจานมาให้

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ ส่วนผนังหน้าเตาไฟฟ้าเป็นกระจก Backsplash กันเปื้อน เผื่อทำอาหารแล้วน้ำมันกระเด็น เช็ดออกง่ายทำความสะอาดได้สะดวกและไวดีครับ 

นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีพื้นที่วางตู้เย็นยู่ด้านหน้าประตู ส่วนฝั่งตรงข้ามทางโครงการได้ Built-In ตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้ามาให้แล้วเรียบร้อย ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบมากขึ้น

ใกล้กันจะเป็นการก่อเคาน์เตอร์สำหรับวางของขึ้นมาเพิ่มเติมพร้อมติดตั้งตู้แขวนผนังสำหรับเก็บของเอาไว้ให้ ส่วนด้านล่างเจาะช่องสำหรับจัดวางเครื่องซักผ้าได้ แต่จะมีสเปคไซส์ของเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้สามารถเช็คได้เพิ่มเติมจากพนักงานขายครับ 

ด้านในเป็น Common Area แบ่งเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน ห้องตัวอย่างจัดวางโซฟาเป็นแนวยาว มีโต๊ะกลางสำหรับนั่งจิบกาแฟ วางขนมได้

ด้านล่างสามารถเปิดลิ้นชักออกมาเก็บของได้ด้วย ซึ่งโครงการจะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ

เช่นเดียวกับโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งที่อยู่ติดกัน ซึ่งผมว่าพอเหมาะพอเจาะกับสมาชิกในห้องนี้ที่น่าอยู่กันประมาณ 1-2 คนกำลังดี

ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นตู้เตี้ยสำหรับเก็บของและทำเป็นชั้นวางทีวี หรือใครจะใช้วิธีแขวนผนังแบบห้องตัวอย่างก็ได้ครับ ประหยัดเนื้อที่และยังดูโมเดิร์นดีอีกด้วย

ติดกันเป็นระเบียง สามารถออกไปยืนรับลมชมวิวหรือปลูกไม้กระถางเล็กๆ พอให้ชื่นใจได้เช่นกัน 

ด้านในสุดเป็นโซนพักผ่อน ห้องตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้ชิดติดผนังกระจกซึ่งเปิดช่องเอาไว้ทำเป็นบานกระทุ้งเพื่อช่วยระบายอากาศภายในห้อง 

ปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังให้เรานั่งๆ นอนๆ ดูซีรีย์เรื่องโปรดอยู่บนเตียงได้อย่างสบายใจ

ส่วนที่ติดกับเตียงนอนจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in ให้เป็นชุดเดียวกันกับชั้นวางของและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ยาวไปเป็นรูปตัวแอล (L) 

ด้านในสุดเป็นมุมแต่งตัว มีตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่สูงจรดเพดาน ทางโครงการทำไว้ให้เรียบร้อยเลยครับ นับว่าสะดวกมาก

ก่อนจะไปเชื่อมต่อกับห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุดที่แบ่งฟังก์ชั่นและแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้เรียบร้อย โดยสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดจะเป็นของแบรนด์ Kohler ครับ 

ไปชมห้องตัวอย่างอีก 1 Roomtype ซึ่งผมยกให้เป็นไฮไลท์เลยครับ นั่นก็คือห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของ Sales Gallery ครับ 

อย่างไรก็ตามทางโครงการมีลิฟต์บริการด้วยนะครับสำหรับใครที่สนใจจะขึ้นมาชมห้องตัวอย่าง แต่ส่วนตัวผมอยากพาขึ้นมาทางบันได เพราะอยากให้เห็นรายละเอียดของงานดีไซน์ที่ซ่อนตัวอยู่แทบทุกตารางนิ้วของที่นี่ ซึ่งก็เข้ากับคอนเซ็ปต์โครงการที่เรียกว่า Find Inspiration in Design ได้เป็นอย่างดี 

ห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 70.08 – 72.85 ตร.ม.

เมื่อมาถึงหน้าห้องจะเจอกับประตู 2 ชั้นเป็น Double Access อย่างในรูปประตูที่เห็นจะเป็นอลูมิเนียมฟินเฉียง ไม่ใช่บานทึบ เพื่อที่จะให้เกิดการไหลเวียนถ่ายเทของอากาศภายในห้องกับอากาศภายนอก

เพราะประตูนี้เมื่อเปิดไว้ พอมองเข้าไปจะเห็นแค่เป็นผนังทึบคือส่วนที่มีบอร์ดแขวนอยู่เท่านั้น ส่วนประตูอีกบานจะอยู่ลึกเข้าไปทางด้านขวามือ

ซึ่งใครที่อยู่คอนโดมานานๆ จะเข้าใจฟีลนี้ เพราะบางทีเราอยากเปิดประตูห้องเพื่อระบายกลิ่นระบายอากาศแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะจะไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวนั่นเอง

ดังนั้น การออกแบบประตู Double Access แบบนี้ผมว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก

นอกจากนี้ บริเวณพื้นที่ Foyer ด้านหน้าประตูยังสามารถทำเป็นพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ได้อีกด้วย เช่น กระเป๋าเดินทาง แขวนจักรยานพับได้ หรือจะติดตั้งเป็นตู้รองเท้าก็ได้เช่นกันครับ 

เมื่อเปิดประตูรั้วบานแรก (ผมเรียกแบบนี้ละกันจะได้เข้าใจง่าย) เราเลี้ยวมาทางขวาเล็กน้อยถึงจะเป็นประตูบานทึบเพื่อเปิดเข้าสู่ภายในห้องอีกชั้นนึง ซึ่งคนที่ผ่านไปมาจะมองไม่เห็นความเป็นไปภายในห้องของเรานะครับ ทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ด้านในจะเป็น Common Area เป็นโถงกว้างขนานกันไปตามแนวอาคาร ซึ่งเป็นจุดเด่นของห้อง Type นี้คือเป็นห้องที่หน้ากว้างถึง 13 เมตร

ทำให้มุมนี้ซึ่งประกอบไปด้วย Living Dining และครัว แม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่กลับรู้สึกอยู่สบายไม่อึดอัด เพราะห้องค่อนข้างโอ่โถงกว้างขวาง ตลอดจนสเปคความสูงที่ให้มา 2.70 เมตร ถือว่าดีกว่ามาตรฐานคอนโดทั่วไปเพราะได้เพิ่มมาอีก 10 เซนติเมตร 

อย่างที่บอกไปว่า โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ดังนั้น ในส่วนของมุมนั่งเล่นทางโครงการจึงได้ดีไซน์ชุดโซฟา โต๊ะกลางสำหรับวางกาแฟ ชั้นวางทีวีที่เป็นตู้เก็บของในตัวก็มีมาให้เราเรียบร้อยแล้ว

รวมถึงเครื่องปรับอากาศด้วยครับ แต่ที่แตกต่างจากห้อง Type อื่นก็คือห้องนั่งเล่นของห้อง 2 Bedroom จะได้แอร์เป็นแบบ Concealing ส่วนห้องนอนจะเป็นแอร์แบบแขวนเช่นเดียวกับห้อง Type อื่นๆ ครับ

ส่วนวัสดุปูพื้นก็จะเป็น SPC (Stone Plastic Composite) ปูเรียบร้อยเสมอเป็นลวดลายไม้ธรรมชาติ ซึ่งผมค่อนข้างชอบเพราะ SPC เป็นนวัตกรรมที่กันน้ำได้ดี (ระดับหนึ่ง) กันไฟ กันปลวก และไม่ค่อยมีรอยขีดข่วน ทำความสะอาดก็ง่ายครับ 

ห้อง 2 Bedrooms เป็นห้องที่ผมชอบมากที่สุดครับ ด้วยความลงตัวของหลายเหตุผลไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผังห้องเป็นแบบห้องหน้ากว้างไล่เรียงกันไปตั้งแต่ Common Area ไปจนถึงห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

จุดเด่นคือผนังห้องของทุกห้องจะเป็นกระจกใส เปิดรับวิวและมุมมองใหม่ภายนอกได้อย่างเต็มที่ เปิดช่องแสงธรรมชาติให้ส่องผ่านเข้ามาทำให้ห้องดูโอ่อ่า อยู่สบายไม่อึดอัด

ที่สำคัญห้อง Type นี้จะอยู่ตรงหัวมุมอาคาร และมีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็น Rare Item มากๆ เลยล่ะครับ 

ในส่วนของครัวที่เชื่อมต่อกับโต๊ะรับประทานอาหาร ผมว่าออกแบบได้ค่อนข้างลงตัวครับ มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวยู (U) ดูโมเดิร์นดี เป็นห้องครัวสไตล์คนเมืองที่ไม่เน้นทำอาหารหนักแต่มักจะเป็นมื้อเบาๆ หรือเป็นการอุ่นกับข้าวมากกว่า 

Top ของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ซึ่งข้อดีคือค่อนข้างแข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วนได้ และไม่มีรูพรุนจึงไม่ซึมน้ำ สามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่าย

ทางโครงการติดตั้งอ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยวมาให้แล้วเรียบร้อยเป็นของ Hafele มาพร้อมฝาปิด ผมชอบมากดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีและยังมีพื้นที่วางของเพิ่มอีกด้วย ใต้ซิงค์จะติดตั้งถังขยะมาให้ 

ส่วนถัดไปด้านในจะเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวและเครื่องดูดควันจากแบรนด์เดียวกัน มาพร้อมกับกระจกผนังกันรอย Backsplash เช็ดออกง่ายเผื่อเวลาใครอุ่นอาหารแล้วเกิดการเลอะเทอะ

ด้านบนด้านล่างยัง Build-in เป็นตู้เก็บของด้วยครับ เอาจริงๆ ห้องนี้มีพื้นที่ Storage เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ส่วนเคาน์เตอร์ด้านหลังออกแบบให้วางของได้โดย แต่ที่ชอบคือจะมีที่แขวนทิชชู่เหนือเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งมาให้แล้วด้วยนะครับ

ส่วนด้านล่างจะเปิดช่องเพื่อจัดวางเครื่องซักผ้า เช่นเดียวกับการเปิดช่องขนาดใหญ่ด้านข้างเพื่อให้ติดตั้งตู้เย็นได้ 

บริเวณที่เชื่อมต่อกับครัวจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ซึ่งออกแบบมาได้สวยมาก เป็นสไตล์ Japandi ขาโต๊ะเป็นทรงกลมมนช่างออกแบบได้สอดรับเข้ากันกับคอนเซ็ปต์ของโครงการสุดๆ เป็นมุมโปรดของผมเลยครับ

ถัดจากมุมนี้จะมีระเบียงเปิดออกไปรับลมได้ หรือจะเปิดประตูระเบียงออกช่วยในการไหลเวียนถ่ายเทอากาศภายในห้องด้วย

ส่วนระเบียงแอร์อีกด้านจะเหมาะสำหรับการวางคอยน์แอร์ร้อนมากกว่า 

ส่วนโถงทางเดินด้านในจะนำไปสู่ห้องนอนรองและ Master Bedroom ที่จะอยู่ด้านในมุมสุดของห้องครับ แต่เราจะเริ่มจากห้องนอนรองกันก่อน

ซึ่งห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะครับ จะใช้ห้องน้ำร่วมกับ Share Bathroom ด้านนอกซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามห้อง 

ส่วนภายในห้องจัดวางเตียงเดี่ยวไว้ชิดติดผนังกระจก ข้อดีก็คือสามารถเปิดรับช่องแสงธรรมชาติจากภายนอกได้ ส่วนปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่ Build-in มาให้เรียบร้อยแล้วครับ 

Master Bedroom อยู่ด้านในมุมสุดของห้องครับ ภายในห้องตัวอย่างตกแต่งได้สวยมาก โดยเฉพาะห้องนี้ ดูเรียบหรู ดูดี ด้วยการเลือกใช้สีเบจตัดกับขลิบสีดำของขอบผ้า ให้อารมณ์ Coco Chanel มากๆ ครับ

ห้องนอนจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ไว้พร้อมกับโต๊ะหัวเตียงดีไซน์เก๋ สามารถเดินได้รอบเลยครับ 

ด้านในสุดเป็นผนังกระจกใส สามารถเปิดบานกระทุ้งออกไปเพื่อรับลมและระบายอากาศภายในได้

ที่สำคัญคือได้ประโยชน์เรื่องแสงธรรมชาติจากภายนอกเต็มๆ เลยครับ ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น

ส่วนปลายเตียงผมว่าเราติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังแบบห้องตัวอย่างก็ดูเป็นไอเดียที่เข้าท่าดี ช่วยให้ห้องนอนดูโมเดิร์นขึ้น 

เดินผ่านประตูเข้าไปด้านในจะเป็นมุมแต่งตัวที่ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานได้สัมพันธ์กับเนื้อที่ดีครับ

กล่าวคือ พื้นที่นี้จัดวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตรงกลาง ด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำและสุขา แยกส่วนเปียกแห้งด้วย Shower Screen มาให้เรียบร้อยแล้ว

ด้านขวามีตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่สูงจรดเพดาน ทางโครงการทำไว้ให้เรียบร้อยเลยครับ นับว่าสะดวกมาก 

ห้องน้ำแบ่งฟังก์ชั่นและแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้เรียบร้อย โดยสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ให้ห้องน้ำจะให้เป็นแบรนด์ Kohler ครับ มาพร้อมกับกระจกเงาดีไซน์กลมมนน่ารักดี ส่วนด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เมื่อเราอาบน้ำเสร็จก็สามารถแต่งตัวแต่งหน้าให้เสร็จเรียบร้อยในชั่วเวลาเดียวกัน 

ด้านบนยังมี Pop Up Cafe จากร้านโดนัทชื่อดังอย่าง Drop By Dough มาเปิดเป็นคาเฟ่ เพราะมีคอนเซ็ปต์ที่เก๋ไม่แพ้กัน แถมการเลือกสื่อสารแบรนด์ผ่านโดนัทก็ดูเป็นความตั้งใจที่ได้ผลดีมากครับ เพราะฟอร์มของโดนัทคือทรงกลม เหมาะสมกับคอนเซ็ปต์ดีไซน์ MOON ของโครงการนี้มาก 

หากใครแวะมาชมโครงการก็สามารถเดินขึ้นมาทานขนมและถ่ายรูปเช็คอินกันเก๋ๆ ได้ครับ มาโพสต์ท่าถ่ายรูปกับกำแพงลายกราฟฟิตี้ จากผลงานของ Pure Lokuttra มีความน่ารักสดใสมากๆ เลยครับ 

#โดยสรุป โครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ เป็นอีกหนึ่งคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ อยากชวนมาอยู่เป็นชาวธนบุเรี่ยนด้วยกัน เพราะปัจจุบันทำเลนี้ถือว่าร้อนแรงมาก ด้วยศักยภาพแห่งการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว

รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ถือว่าครบครัน เหมาะแก่การอยู่อาศัยพักผ่อนสบายๆในช่วงหลังเลิกงานตอนกลางคืน ซึ่งก็สอดรับกับคอนเซ็ปต์ของโครงการคือ Source of Inspiration ที่ผสมผสานระหว่างงานดีไซน์กับไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ ยังมี Special Service ที่ให้มากกว่าห้องพักในคอนโดมิเนียม เตรียมไว้เป็นพิเศษ อาทิ USDC Coin จาก Zipmex มูลค่า 1 แสนบาท สิทธิในการขึ้น Muvmi เดือนละ 2 ครั้ง ประกันสุขภาพเป็นเวลา 2 ปีจาก Allianz Ayudhya และจะได้รับ Internet และรายการช่องพิเศษ Premium Plus จาก Ais ฟรี 1 ปี

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1749 หรือ Line : @referencecondo 

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน