Nue Connex House Don Mueang

Steve Jobs เคยพูดเอาไว้ว่า #เวลาของเรามีจำกัด ดังนั้น อย่ามัวไปเสียเวลากับการใช้ชีวิตตามแบบคนอื่น “𝐘𝐨𝐮𝐫 𝐭𝐢𝐦𝐞 𝐢𝐬 𝐥𝐢𝐦𝐢𝐭𝐞𝐝, 𝐬𝐨 𝐝𝐨𝐧’𝐭 𝐰𝐚𝐬𝐭𝐞 𝐢𝐭 𝐥𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐬𝐨𝐦𝐞𝐨𝐧𝐞 𝐞𝐥𝐬𝐞’𝐬 𝐥𝐢𝐟𝐞. 𝐃𝐨𝐧’𝐭 𝐛𝐞 𝐭𝐫𝐚𝐩𝐩𝐞𝐝 𝐛𝐲 𝐝𝐨𝐠𝐦𝐚 – 𝐰𝐡𝐢𝐜𝐡 𝐢𝐬 𝐥𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐭𝐡𝐞 𝐫𝐞𝐬𝐮𝐥𝐭𝐬 𝐨𝐟 𝐨𝐭𝐡𝐞𝐫 𝐩𝐞𝐨𝐩𝐥𝐞’𝐬 𝐭𝐡𝐢𝐧𝐤𝐢𝐧𝐠.” กานต์ว่าเป็นประโยคที่สะท้อนแนวคิดในการใช้ชีวิตของเราในยุคนี้ได้ดีมากครับ

ผมยึดถือมาเสมอว่า การที่เราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราคิดเราเป็น ไม่เบียดเบียน ไม่เอาเปรียบคนอื่น ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ทำร้ายใคร เป็นตัวของตัวเองไป นั่นคือความสุขที่สุดแล้วครับ ขณะเดียวกัน เราควรจะใช้ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนของเรา ไปสร้างสัมพันธ์เชื่อมต่อกับคนอื่นให้ได้ในหลากหลายรูปแบบ เพราะสุดท้ายมนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะเรียนรู้และอยู่คนเดียว

“𝐂𝐨𝐧𝐧𝐞𝐜𝐭 𝐄𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐋𝐢𝐟𝐞 𝐌𝐨𝐯𝐞𝐦𝐞𝐧𝐭” จึงเป็นคอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผมและอีกหลายคนในยุคนี้ ซึ่งที่โครงการ Nue Connex House Don Mueang มีบ้านให้เลือกหลากหลาย แต่ที่เป็นไฮไลท์คือการออกแบบให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกแต่ละบ้าน ที่อาจจะคล้ายหรือต่างกัน

รีวิวนี้ กานต์พาไปชมบ้านใน 2 แบบ คือ Townhome และ GEMINI HOUSE ซึ่งผมชอบมาก เพราะออกแบบภายนอกดูโมเดิร์น หน้าบ้านกว้าง ภายในดีไซน์ฟังก์ชั่นแบบ Open Plan มีความยืดหยุ่นในการออกแบบให้เราปรับเปลี่ยนได้เองสบายๆ โดยเฉพาะบ้านแฝดที่มีโถง Living สูงแบบ Double Volume ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งสบายและดูเป็นคนมีไลฟ์สไตล์ชิคๆ เก๋ๆ ไม่เหมือนใคร เอาจริงๆ นะ ผมว่าบ้านทั้ง 2 แบบ เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาทำเลเปิดเป็น Home Office ของตัวเองมากๆ ครับ

ที่พูดเช่นนั้น เพราะโลเคชั่นถือเป็นจุดเด่นที่หาได้ยากมากจากโครงการอื่น ด้วยความที่เข้าออกได้ 2 เส้นทางหลักคือถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน แน่นอนว่าเราจะหาโครงการที่เชื่อมต่อทุกเส้นทางการใช้ชีวิตแบบนี้ได้ยากมาก จึงถือว่า Nue Connex House Don Mueang เป็นโครงการที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหาที่อยู่อาศัยหรือทำเป็น Home Office สำหรับทำธุรกิจในทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือครับ

เอาละ ไปติดตามรูปภาพในคอลเลคชั่น Nue Connex House Don Mueang ที่กานต์นำมาฝากกันและเรื่องราวของการ Connex ทุกไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน อ่านต่อที่แคปชั่นด้านในได้เลยครับ

____________________

Nue Connex House Don Mueang หลังใหญ่ เข้า-ออก 2 ทาง พหลฯ-วิภาวดี

ทาวน์โฮม เริ่ม 5.49 ล้าน*

โฮมออฟฟิศ เริ่ม 9.29 ล้าน*

รับ CASHBACK สูงสุด 250,000 บ.*

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://nobleurl.com/3sAvksQ

ขออนุญาตเล่าสั้นๆ ถึงนิยามความหมายของคำว่า Connex ก่อนนะครับ ว่ามาจากคอนเซ็ปต์ของโครงการ Nue Connex House Don Mueang ที่ว่า “Connect Every Life Movement” นั่นคือการเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของทุกคนในทุกด้าน ผ่าน 3 แกนหลัก คือ

1. Connect The Diverse Lifestyle เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตจัดเต็มไปกับพื้นที่ส่วนกลางที่ชอบได้ตลอดเวลา

2. Connect The Flexible Of Living เชื่อมต่อเรากับคนรอบข้างที่เรารักด้วยพื้นที่ภายในบ้านที่ออกแบบมาอย่างลงตัวในทุกตารางเมตร ออกแบบสเปซครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน

3. Connect Every Life Movement เชื่อมต่อทุกการเดินทางให้เราได้ใช้ชีวิตสมูทยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทของการทำงานหรือทำธุรกิจก็มีความสะดวกมากขึ้น เพราะเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทางหลักคือถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต

เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ 2 สายจึงเป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจเพราะสามารถ Connectivity ทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็น ถนนสายหลัก ทางด่วน รถไฟฟ้ารวมไปถึงสนามบินด้วยครับ เพราะอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง

ดังนั้น ใครที่ทำงานสายการบินหรือใครที่ทำธุรกิจที่ต้องเดินทาง ขนส่งสินค้า ผมว่าทำเลนี้สะดวกมากครับใช้เวลาเดินทางไปยังสนามบินเพียง 5 นาทีเท่านั้น

ทั้งยังสามารถปรับบ้านของเราให้เป็น Home Office ได้อีกด้วย

โลเคชั่นนี้ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์และรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตลาดค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล สถานศึกษา นับว่าเป็นทำเลที่เพอร์เฟคมากๆ

อย่าลืมนะครับว่าโครงการนี้เข้าออกได้ 2 เส้นทางจึงทำให้มีทางเลือกในการเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะมาหาของอร่อยทานที่ย่านสะพานใหม่ เป็นอะไรที่เด็ดสุด

ตอนที่มาเยี่ยมชมโครงการผมลองขับรถเข้ามาทางถนนพหลโยธิน และกลับออกทางวิภาวดีถือว่าสะดวกมากครับ นับเป็น Supply ที่หาได้ยาก ต้องยอมใจโนเบิลในการหาทำเลเทพจริงๆ

นอกจากแบบบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจ เป็นได้ที่พักอาศัยและ Home Office แล้ว ผมว่าอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ซึ่งอยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการฝั่งถนนพหลโยธิน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการ Nue Connex House Don Mueang เลยนะครับ

เดี๋ยวจะได้พาไปชมกันเต็มๆ

ด้านหน้าเป็นซุ้มทางเข้าโครงการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย ในส่วนของ Home Office Townhome และ GEMINI HOUSE จะใช้ทางเข้าออกร่วมกันแต่จะแยกออกจากคอนโดทำให้สะดวกและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่พลุกพล่าน ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตรถือว่ากว้างขวางมาก

อาคาร Clubhouse 2 ชั้น มีขนาดใหญ่เพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านที่มีเพียงแค่ 111 ยูนิตเท่านั้น ออกแบบฟังก์ชั่นมาสำหรับแต่ละครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์ความชอบและกิจกรรมที่ทำแตกต่างกันไป มีมุมนั่งเล่นทำงานอ่านหนังสือภายในห้องปรับอากาศด้านใน ด้านนอกมีพื้นที่สังสรรค์เป็นลานกว้าง

Facilities รองรับการใช้งานได้หลากหลาย รายล้อมด้วยสวนส่วนกลางที่เต็มไปด้วยไม้ดอก ไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดใหญ่คอยให้ร่มเงา

ด้านนอกจัดวางเก้าอี้นั่งสบายๆ ในพื้นที่ Semi-outdoor ให้เราออกมานั่งรับลมสบายๆ ชมบรรยากาศของแมกไม้สีเขียวกันไป พร้อมกับชื่นฉ่ำใจด้วยสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Sunken Seating เป็นที่นั่งแบบหลุมระนาบเดียวกับสระว่ายน้ำ ให้เราได้นั่งพักผ่อนระหว่างที่รอเด็กๆ เล่นน้ำออกกำลังกายไป รู้สึกราวกับได้พักผ่อนอยู่ในโรงแรมหรู

ด้านนอกมีพื้นที่สังสรรค์สำหรับทำบาร์บีคิวปาร์ตี้แบบส่วนตัว มี Terrace กว้างๆ สำหรับจัดกิจกรรมกับคนในครอบครัว จัดวางโต๊ะพูลเอาไว้ให้ได้เล่นสนุกกัน มีสนามเด็กเล่น พื้นที่ออกกำลังกายและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่

ภายในอาคารชั้น 1 ของ Clubhouse จะเป็น Meet and Greet Lobby ที่ออกแบบให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีส่วนที่เพดานเปิดโล่งตรงกลางเพื่อรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

จัดวางที่นั่งไว้หลากหลายทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่หรือจะมาเป็นหมู่คณะ สามารถใช้เป็น Co-working space ให้เราได้มานั่งทำงาน อ่านหนังสือที่ทำกิจกรรมกลุ่มเบาๆ กันได้ที่นี่ครับ

ภายในอาคารชั้น 1 ของ Clubhouse จะเป็น Meet and Greet Lobby ที่ออกแบบให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีส่วนที่เพดานเปิดโล่งตรงกลางเพื่อรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

จัดวางที่นั่งไว้หลากหลายทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่หรือจะมาเป็นหมู่คณะ สามารถใช้เป็น Co-working space ให้เราได้มานั่งทำงาน อ่านหนังสือที่ทำกิจกรรมกลุ่มเบาๆ กันได้ที่นี่ครับ

ส่วนอีกฝั่งของอาคารจะเป็น Yoga Studio ที่มีความเก๋คือ Yoga Fly ห้อยผ้าลงมาจากเพดาน เสื่อเล่นโยคะ ลูกบอลโยคะเตรียมไว้ให้ลูกบ้านสาวๆ ได้เติมความฟิตในสไตล์ที่ตัวเองชอบ

โดยรอบเป็นห้องกระจกใสและกระจกเงาทำให้เราเห็นบอดี้และท่วงท่าในการออกกำลังกายที่ชัดเจนดี

อีกห้องเป็นห้องเกมส์และ Kids Club มุมสำหรับเด็กๆ ที่จะมานั่งเล่นทำกิจกรรมเสริมทักษะกันตรงนี้ ตกแต่งแบบเรียบง่าย พร้อมของเล่นมากมายเลยครับ และยังมีมุมเครื่องเล่นที่ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ผ่อนคลายสนุกสนานไปพร้อมกับลูกๆ ได้อีกด้วย

นอกจากจะมี Kids Club แล้วยังมีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งติดตั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็กไว้ที่สนามหญ้า ให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบตัวอีกด้วย

ติดกันเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่สามารถว่ายได้จริง เป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือที่มีความยาว 21 ม. ลึก 1.2 ม. พร้อมสระเล็กสำหรับเด็กครับ ออกแบบให้เป็นรูปร่างแบบฟรีฟอร์มดูสวยแปลกตา มีลักษณะยกสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กหน่อย จัดวางที่นั่งไว้บริเวณ Semi-Gazebo และมี Sun Bed สำหรับใครที่อยากจะอาบแดด นอนชมวิวพักผ่อนริมสระ

จากพื้นที่ส่วนกลาง เรามาชมบ้านตัวอย่างกันบ้างครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามอาคาร Club House เลย

หลังแรกเป็น GEMINI HOUSE หน้ากว้าง สูง 3 ชั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจของโครงการ Nue Connex House Don Mueang บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 38.00-69.80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ผมว่ามีขนาดใหญ่กว่าบ้านเดี่ยวทั่วไปบางโครงการเสียอีก

ภายนอกออกแบบในสไตล์ Modern Contemporary สีเอิร์ธโทน มีความเป็นดีไซน์แบบสี่เหลี่ยมและเส้นสายแนวตั้ง ส่วนผนังบ้านไม่ติดกับใครทำให้ได้เรื่องความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ดีไซน์ภายในบ้านมีฟังก์ชั่นที่หลากหลายและปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเรียกว่ามีความยืดหยุ่นมากครับ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่าง สามารถปรับการใช้สอยภายในบ้านได้ตามความต้องการ

ประตูเข้าบ้านทางโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วใช้ได้ทั้งการแตะคีย์การ์ด สแกนนิ้วและใส่รหัส เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปจะพบกับ Common Area มี Living Room ที่เชื่อมต่อกับ Dining Area

บริเวณนี้จะมีความโดดเด่นเป็นพระเอกของบ้านเพราะเพดานสูงแบบ Double Volume 6.2 ม. บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมชั้นวางทีวีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เราสามารถติดตั้งสมาร์ททีวีขนาด 65 นิ้วได้สบายๆ เพราะมีพื้นที่ระยะในการรับชมเหลือมากพอ

ชุดโซฟาสีเบจช่วยทำให้บ้านดูสว่างกว้างขวางมากขึ้น และเป็นจุดช่วยเสริมให้โต๊ะรับประทานอาหารมีความโดดเด่นเพราะเป็นสีส้มอมแดงสด จัดวางเก้าอี้ไว้ประมาณ 8 ที่นั่ง ถือว่าเยอะมากครับ

เป็น Area ที่มีความกว้างขวางเชื่อมต่อกับครัวแบบปิดเพราะสามารถกั้นแบ่งสัดส่วนด้วยหน้าต่างบานสไลด์เวลาทำอาหารกลิ่นจะได้ไม่เข้ามารบกวนภายในห้องนั่งเล่น

ห้องครัวออกแบบมาให้สามารถใช้เป็นครัวไทยได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องต่อเติมส่วนหลังบ้านเพิ่ม

ภายในห้องครัวติดตั้งเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวยู (U Shape) พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน

แต่สำหรับบ้านหลังจริงจะเป็นห้องเปล่าๆ ให้เราได้เติมเต็มครัวในจินตนาการได้ด้วยตัวเอง ส่วนด้านหลังบ้านมีขนาดกว้าง 0.75×2.5 เมตร ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างได้

ใกล้กับครัวจะมี 2 มุมที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจ คือห้องทำำงานด้านใน สามารถปรับเป็น Home Office ขนาดย่อมสำหรับผู้ประกอบการที่เน้นบริหารงานแบบ Online ไม่มีพนักงานเข้าออฟฟิศ ใช้เพียงห้องทำงาน 1 ห้อง หรือจะใช้เป็นห้องไลฟ์ขายของออนไลน์หรือเป็นห้องแคสต์เกมก็เข้าที

แต่หากใครที่มีธุรกิจส่วนตัวแล้วกำลังมองหา Home Office ผมว่าเราสามารถ GEMINI HOUSE ออกแบบมาให้เราสามารถปรับเป็นที่ทำงานได้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 เลยครับ ชั้น 3 ก็ทำเป็นส่วนพักอาศัยได้เช่นกัน

ผมเก็บภาพไว้เป็นไอเดียสำหรับปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นบ้านให้เป็นออฟฟิศมาฝากครับ

พื้นที่ติดกันเป็นห้องน้ำชั้นล่างสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler แยกส่วนเปียกแห้งสำหรับอาบน้ำไว้เรียบร้อย

เพราะภายในบ้านยังมีห้องนอนด้านหลังที่สามารถจัดวางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้ เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ เชื่อมต่อกับวิวสวนด้านหลังบ้านให้ความเป็นส่วนตัวได้อารมณ์พักผ่อนในพื้นที่สีเขียวตลอดเวลา

ขึ้นบันไดมาชมชั้น 2 กันบ้างครับ บริเวณนี้เป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ ผนังด้านที่ติดกับบันไดจะติดตั้งชั้นวางของแบบลอยตัว พร้อมกับพื้นที่ Outdoor ที่สามารถเปิดประตูออกไปได้ กลายเป็นมุมส่วนตัวภายในบ้านหรือเอาไว้ตากผ้าก็ยังดี

ผนังส่วนนี้จะอยู่ติดกับบ้านอีกหลังซึ่งการออกแบบให้เป็นพื้นที่กลางแจ้งก็ช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัวและกันเสียงที่หลายคนกังวลว่าจะเล็ดลอดออกไปจากภายในบ้าน

สิ่งที่ผมชอบคือการออกแบบตกแต่งภายในที่คำนึงถึงความโปร่งสบาย พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่รอบบ้าน โดยเฉพาะโถงบันได ซึ่งบ้านส่วนใหญ่จะเป็นจุดอับมุมมึดไม่ค่อยมีแสงสว่างส่องถึง

เช่นเดียวกันชั้นสองที่มีช่องแสงส่องมาจากด้านหน้าบ้านเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่ เราสามารถติดตั้งม่านหรือมู่ลี่เพิ่มเติม เปืด-ปิดม่านได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว

ชั้น 2 จะพบกับ Master Bedroom ก่อนเลยครับ ได้พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของชั้นนี้ ภายในมีขนาดกว้างขวาง บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตเอาไว้พร้อมกับมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้เดินได้สบาย และยังสามารถจัดวางโต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟเอาไว้

หัวเตียงเปิดช่องแสงส่องสว่างเข้ามายังภายใน เป็นบานกระทุ้งที่เราสามารถเปิดแง้มออกไปได้ ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ ผนังห้องด้านหนึ่งจะเป็นกระจกใสบานใหญ่ Full Height มองลงไปเห็น Living Area ด้านล่าง และมองผ่านไปยัง Family Area ชั้นบนได้อีกด้วย

ส่วนผนังอีกด้านเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่เต็มบานสูงจรดเพดาน แบ่งพื้นที่ตรงประตูทางเข้าห้องน้ำให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง อีกฝั่งบริเวณปลายเตียงติดตั้งทีวีแบบแขวนจอใหญ่พร้อมชั้นวางของแบบลอยตัว เชื่อมต่อกับห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet

ถือเป็นห้องนอนหลักที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวางและออกแบบฟังก์ชั่นใช้สอยภายในได้ค่อนข้างลงตัว

ถัดไปด้านในเป็นห้องน้ำแบบ Full Bath ซึ่งมีขนาดใหญ่เช่นกัน พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานออกเป็นสัดส่วน

ด้านในสุดจะเป็นห้องอาบน้ำพร้อม Rain Shower บ้านตัวอย่างติดตั้ง Shower Screen เพื่อแยกส่วนการใช้งานเปียกและแห้ง

แต่บ้านหลังจริงจะไม่ได้ติดตั้งไว้ให้ ซึ่งเราสามารถนำเอาไปเป็นไอเดียในการตกแต่งภายในบ้านได้ ถัดไปเป็นสุขภัณฑ์ Kohler พร้อมอ่างล้างมือแบบ His & Her มีเต้าเสียบปลั๊กไฟ พร้อมฝาครอบกันน้ำติดตั้งไว้ให้ มาพร้อมกระจกเงาติดตั้งยาวเต็มบานเต็มผนัง ดูเก๋ดีมาก ติดกันเป็นพื้นที่เว้นว่างสำหรับให้เราติดตั้งอ่างอาบน้ำแบบบ้านตัวอย่าง 

ตรงกลางระหว่างห้องนอนหลักกับพื้นที่เอนกประสงค์ มีช่องเปิดโล่งแบบ Double Volume

ผนังด้านในเป็นกระจกใสมองลงไปผ่านช่อง Void จะเห็น Living Area ชั้นล่างได้ ผมชอบมากเพราะไม่ค่อยได้เห็นบ้านที่ออกแบบสไตล์นี้บ่อยครั้งนัก แต่บ้านจริงจะไม่ได้กั้นเป็นกระจกให้เต็มบาน แต่จะทำเป็นขอบปูนยกสูงขึ้นมาทำให้ได้เรื่องการเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นด้านล่างแบบเปิดโล่ง

ขณะเดียวกันด้านในสุดเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ ที่มีขนาดกว้างขนานไปกับหน้าบ้าน พร้อมระเบียงด้านนอกเป็นกระจก Tempered Glass กันตก เราสามารถจัดวางไม้กระถางได้

ภายในห้องจะเป็นมุมทำงานหรือทำการบ้านของเด็กๆ อีกด้านจะเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่หลายที่นั่ง สำหรับล้อมวงดูซีรีส์ด้วยกันของสมาชิกในครอบครัว

หรือหากใครเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็สามารถปรับชั้นนี้ให้เป็นออฟฟิศได้เช่นกัน

แต่สำหรับผม ในระหว่างที่เดินชม ผมได้ไอเดียว่าถ้าเป็นบ้านของผมซึ่งอยู่คนเดียวกับแมวหนึ่งตัว เลยมีไอเดียว่าอยากจะกั้นทั้งหมดชั้นทำเป็นห้องนั่งเล่นใน Master Bedroom ทำให้ห้องนี้มีพื้นที่การใช้สอยที่มากขึ้นและได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า สามารถพักผ่อนอยู่ในห้องนอนตัวเองได้ตลอดเวลา

“𝐏𝐞𝐨𝐩𝐥𝐞 𝐮𝐬𝐮𝐚𝐥𝐥𝐲 𝐚𝐫𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐡𝐚𝐩𝐩𝐢𝐞𝐬𝐭 𝐚𝐭 𝐡𝐨𝐦𝐞.”

– William Shakespeare

ขึ้นไปชมชั้น 3 กันบ้างครับ ราวจับเป็นไม้ทรงกระบอกกลมดูน่ารักดี มีแสงสว่างจากผนังกระจกด้านนอกที่ชั้น 2 และชั้น 3

เมื่อเดินขึ้นมาจะพบกับโถงนั่งเล่นบริเวณบันได สามารถจัดวางชุดโซฟาที่นั่งสำหรับพักผ่อนเบาๆ ยามก่อนเข้านอนได้ ใกล้กันเป็นทางเดินตรงกลางระหว่างห้องนอน

โดยชั้นนี้จะมีด้วยกัน 2 ห้อง ซึ่งห้องแรกจะอยู่บริเวณด้านหลังติดกับโถงบันได หน้าห้องมีการติดตั้งชั้นลอยสำหรับวางโชว์ข้าวของและตู้เก็บของบานเล็ก ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor เป็นการดึงพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติและแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาสู่ในตัวบ้านผ่านผนังกระจก Full Height บานใหญ่ มาพร้อมกับชุดเก้าอี้ที่นั่งให้เราพักผ่อนจิบกาแฟตอนตื่นนอนเช้าๆ ได้ในบรรยากาศแบบส่วนตัว ทำให้บ้านดูน่าอยู่ยิ่งขึ้น

หน้าห้องนอนรอง 2 ออกแบบให้เป็นห้องเอนกประสงค์ซึ่งสามารถติดตั้งประตูกระจกอลูมิเนียมแบบบ้านตัวอย่างได้ เพราะบ้านจริงจะเป็นผนังปูนสีขาวเว้นช่องว่างเอาไว้ให้เท่านั้น หรือจะใช้ห้องนี้ทำเป็นมุมสำหรับยืนไลฟ์ขายของออนไลน์ก็ได้เช่นกัน

ห้องนอนรอง 2 อยู่โซนด้านหลังบ้าน ทำให้ได้ความเงียบสงบมากกว่า ขณะเดียวกันก็มีช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ให้เราเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกเข้ามายังภายในห้อง

ตรงกลางจัดวางเตียงนอนควีนไซส์ หัวนอนตกแต่งด้วยคิ้วไม้สีแดงสดใสรับกับงานศิลปะแนวแอปสแตรคสีเดียวกัน สำหรับสไตล์เด็กรุ่นใหม่ ด้านข้างเตียงจัดวางโต๊ะหัวเตียงพร้อมโคมไฟเอาไว้ ส่วนอีกด้านเป็นโต๊ะทำงานสีสันสดใส พร้อมกับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจรดเพดาน

ด้านในสุดเป็นห้องน้ำในตัว ติดตั้งสุขภัณฑ์ของ Kohler และอ่างล้างมือพร้อมตู้เก็บของด้านใต้ ด้านหลังอ่างติดตั้งกระจกเงาเต็มบาน ส่วน Shower จะอยู่ในฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass โครงการแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้แล้ว

แต่ห้องน้ำของบ้านจริงจะเป็นเพียงห้องเปล่าๆ ให้เราออกแบบห้องน้ำในฝันได้ด้วยตัวเองส่วนปลายเตียงติดตั้งชั้นวางทีวี ซึ่งบ้านตัวอย่างใช้วิธีแขวนทำให้ห้องดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น

ห้องนอนรอง 3 จะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว จุดเด่นของห้องนี้คือได้ช่องแสงขนาดใหญ่กระจก Full Height เต็มบานขนานไปกับความกว้างของหน้าบ้าน เราสามารถติดตั้งม่านโปร่งเพื่อกรองแสงและม่านทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวเวลานอน

ภายในห้องกว้างขวางพอที่จะจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเตี้ยหัวเตียงขนาดเล็กพร้อมโคมไฟเอาไว้บริเวณหัวนอน ส่วนปลายเตียงจะกั้นผนังสำหรับติดตั้งทีวีและตู้ลอยตัวสำหรับเก็บของ

ซึ่งบ้านจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ครับ พอบ้านตัวอย่างออกแบบให้ดูเป็นไอเดียแบบนี้ผมว่าเข้าท่าดีเลย เพราะด้านหลังผนังกั้นจะสามารถทำเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ได้ เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกับห้องนอนรอง 2

ผมชอบมุมแต่งตัวหน้ากระจกทรงโค้งแบบนี้ ดูเป็นห้องนอนสาวชิคๆ ที่แอบมีกลิ่นอายวินเทจนิดๆ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์อยู่ในตอนนี้ ขณะเดียวกันด้านในสุดของห้องนี้ที่เชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้าน จะมีประตูเล็กๆ สำหรับเปิดออกไปยังภายนอกซึ่งเป็นส่วนของเซอร์วิสคอมเพรสเซอร์แอร์ ถ้ามองจากภายนอกจะเห็นเป็นระแนงเหล็กแทนบังสายตาได้ดี

หน้าบ้านเป็นลานจอดรถ สามารถจอดได้ 2 คัน แต่เราก็สามารถปรับเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวก็ได้เช่นกัน

มาดู Town Home ของโครงการ Nue Connex House Don Mueang กันบ้างครับ ชื่อแบบบ้านว่า Tango มี 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยขนาด 190 ตร.ม. ปรับฟังก์ชั่นได้ดีมากจนกลายเป็นบ้านที่มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ บ้านหน้ากว้าง 8 ม. ตัวบ้านลึก 9.75 ม. สามารถจอดรถได้ 2 คัน บ้านตัวอย่างจะมีพื้นที่สวนหย่อมด้านข้างบ้าน

โครงการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แล้วใช้ได้ทั้ง สแกนนิ้ว ใส่รหัส และแตะคีย์การ์ดครับ

ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนหลังเปิดประตูเข้าไปภายในบ้านคือเป็นบ้านแนวลึกที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก และค่อนข้างครบครัน

เพราะภายในบ้านชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ของ Living Room ที่จัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่ไว้หลายรูปแบบพร้อมกับชั้นวางทีวีที่อยู่ติดกับบันไดทางขึ้นชั้นบน

ใต้บันไดมีห้องน้ำแบบ Powder Room อีกหนึ่งห้องด้วยครับ ตกแต่งได้สวยดี

ถัดไปด้านในเป็นโต๊ะรับทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งพร้อม Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารหรือจะเอาไว้นั่งปาร์ตี้กับเพื่อนเบาๆ ในบ้าน ด้านในยังมีห้องเอนกประสงค์ (ถ้าเพื่อนจะเมาค้างก็จัดเป็นห้องนอนได้เลยครับ) ส่วนห้องครัวจะอยู่ในสุด

จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือมีผนังที่ติดตั้งกระจกด้านข้างหลายจุดทำให้เปิดรับแสงสว่างส่องเข้าบ้านได้เต็มที่ กลางวันแทบจะไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ และให้เราเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านข้างได้อย่างลงตัว

บันไดทางขึ้นชั้น 2 ออกแบบให้มีที่ว่างทรงสี่เหลี่ยมตรงกลางระหว่างทางเดินก่อนจะขึ้นไปชั้น 3 เราสามารถทำเป็นมุมตู้โชว์เล็กๆ ก็ได้ หรือจะจัดเป็นกระถางต้นไม้มงคลภายในบ้านก็เก๋ดีเหมือนกัน ดูเป็นบ้านรักษ์โลกขึ้นมาทันที

ชั้นนี้จะมี Master Bedroom อยู่ทางฝั่งด้านหน้าบ้าน ถ้ามองจากมุมนี้จะเห็นพื้นที่ Multi-purpose ที่เชื่อมต่ออยู่บนชั้นเดียวกัน ภายในห้องนอนมีขนาดกว้าง

บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์ไว้ตรงกลาง ผมชอบหัวเตียงมาก ตกแต่งได้แปลกตาดูโมเดิร์นด้วยกระจกเงาที่สลับฟันปลากับผนังลายหินอ่อนสไตล์อิตาลี ด้านข้างมีโต๊ะหัวเตียงขนาดเล็กจัดวางไว้

ส่วนปลายเตียงเป็นชั้นวางทีวีติดผนังซึ่งกั้นเอาไว้ให้เป็นไอเดียเหมาะสำหรับทำเป็น Partition กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องแต่งตัวที่จัดวางตู้เสื้อผ้าเต็มพื้นที่แบบ Walk-in Closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง 

ผมจะชอบมุมนี้เป็นพิเศษ เพราะออกแบบให้เป็นแนวลึกขนานไปกับตัวบ้าน เริ่มตั้งแต่โต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ริมระเบียงได้แสงธรรมชาติ ตู้เสื้อผ้า เรื่อยไปจนถึงห้องน้ำส่วนตัวซึ่งอยู่ด้านในสุด

ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อย พร้อมอ่างล้างมือและกระจกเงาเต็มบาน โครงการติดตั้งสุขภัณฑ์ห้องน้ำแบรนด์ Kohler ถือว่าสเปคดีงามมาก

เนื่องจากชั้นนี้จะมีพื้นที่เอนกประสงค์ ซึ่งจัดวางฟังก์ชั่นไว้ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว บ้านจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง แต่สำหรับบ้านตัวอย่างได้ออกแบบไว้เป็นแรงบันดาลใจเผื่อใครอยากทำแบบนี้บ้าง

โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นโถงทางเดินตรงกลาง จัดวางตู้เก็บของเป็นแนวยาวพร้อมกับตู้โชว์เก๋ๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวติดตั้งกระจกใสเพื่อให้ได้ความเป็นสัดส่วนไม่ถูกรบกวนจากสมาชิกคนอื่นที่ทำกิจกรรม เล่นเกม อ่านหนังสือ หรือดูทีวีอยู่ด้านนอก พอทำเป็นห้องส่วนตัวก็สะดวกไปอีกแบบ

สำหรับใครที่ทำธุรกิจขายของออนไลน์ ไลฟ์สดหรือแม้แต่ใครที่เป็น Youtuber Podcaster จะทำห้องนี้เป็นสตูดิโอนั่งสัมภาษณ์กับแขกรับเชิญก็ได้เช่นกัน

ด้านในสุดเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับ Family Area จัดวางชุดโซฟาที่นั่งเอาไว้ สามารถทำกิจกรรมภายในครอบครัวหรือถ้าทำเป็นห้องทำงานก็อาจจะจัดเป็นที่นั่งสำหรับแขกก็ได้เช่นกัน

แต่ถ้าเป็นบ้านของผม ตั้งใจว่าจะกั้นชั้น 2 ทั้งฟลอร์ให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของผม ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างแต่เงียบสงบปราศจากการรบกวน

ผมชอบมุมโถงบันไดของบ้าน Townhome มาก เพราะดูแปลกตากว่าบ้านทั่วไปที่มักจะมีชานพักเป็นสามเหลี่ยมและค่อนข้างกระชั้น ขณะที่บ้านนี้ออกแบบให้มีพื้นที่ว่างตรงกลาง ทำให้เมื่อมองลงมาจะเกิดเป็นภาพที่แปลกใหม่และทำให้บ้านดูเก๋ขึ้นได้จากโถงบันได้ทางขึ้น

ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนมีด้วยกัน 2 ห้องแบ่งครึ่งชัดเจนคือห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านกับด้านหลังบ้าน เริ่มจากห้องด้านหลังที่มีขนาดใหญ่กว่า แบ่งสัดส่วนของมุมพักผ่อนกับมุมทำงานออกจากกัน ซึ่งบ้านจริงจะเป็นห้องเปิดโล่งแต่บ้านตัวอย่างดีไซน์ให้เป็นกระจกใสกั้นไว้ดูโมเดิร์นดี

ภายในห้องนี้จัดวางเตียงนอนพร้อมโต๊ะทำงาน 2 จุดคือด้านข้างเตียงกับห้องเอนกประสงค์อีกด้าน ตรงข้ามจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำในตัว ถือเป็นห้องนอนที่กว้างจนสามารถเรียกว่าเป็น Master Bedroom อีกห้องหนึ่งก็ยังได้

ส่วนห้องนอนด้านหน้า มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวเช่นกัน แต่ที่เป็นไฮไลท์ของห้องนี้ก็ได้ช่องแสงส่องสว่างจากผนังด้านหน้าบ้าน สามารถเปิดม่านออกเพื่อสัมผัสกับวิวภายนอกบ้าน เป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวเดินออกไปรับลมได้ ห้องนี้ตกแต่งน่ารักมาก ดูเบาๆ นุ่มนวลน่านอน คล้ายอยู่บนปุยเมฆ

#โดยสรุป Nue Connex House Don Mueang เป็นโครงการที่พักอาศัยดีไซน์ออกมาได้หลากหลายรูปแบบให้เลือกทั้ง Home Office Townhome และ GEMINI HOUSE ให้เราพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ความชอบของตัวเองและสมาชิกในครอบครัวก่อนซื้อครับ

แต่บ้านทุกแบบ ดีไซน์ให้มีความยืดหยุ่น Open Plan สามารถปรับเปลี่ยนให้เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของเราได้อย่างลงตัว เพราะมีพื้นที่เปิดกว้างสำหรับทุกไอเดียภายในบ้าน และพื้นที่ใช้สอยที่ให้มากกว่าอีกหลายโครงการ

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือทำเลที่ถือเป็น Rare Item มากๆ สำหรับกรุงเทพฯ ตอนเหนือ เพราะเข้าออกได้ถึง 2 ทางและเป็นถนนสายหลักด้วยกันทั้งคู่คือถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อกับทุกทำเลเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมาก ใกล้โทลล์เวย์ ไม่ไกลทางด่วน มีสถานีรถไฟฟ้าพาดผ่าน

ที่สำคัญหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานง่ายมาก เพราะเป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลเทพมากๆ เลยครับ

Nue Connex House Don Mueang หลังใหญ่ เข้า-ออก 2 ทาง พหลฯ-วิภาวดี
ทาวน์โฮม เริ่ม 5.49 ล้าน*
โฮมออฟฟิศ เริ่ม 9.29 ล้าน*
รับ CASHBACK สูงสุด 250,000 บ.*

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://nobleurl.com/3sAvksQ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน