กานต์พาซิ่งเที่ยว #ฉงชิ่ง เมืองที่มี #Starbucks เยอะมาก
เจ้าของฉายา #เมืองหมื่นสะพาน เอาจริง ฉงชิ่งเที่ยวง่ายกว่าที่คิด
ไฮไลท์ อุทยานหลุมฟ้า
สถานที่ถ่ายหนัง #ทรานสฟอร์มเมอร์
_
ทริปนี้พาเที่ยว ช้อปปิ้งในเมือง ตั้งแต่ห้างหรูหรา เรื่อยไปจนเข้าป่าไปดูอุทยานหลุมฟ้า สะพานสวรรค์ สถานที่ถ่ายหนังเรื่องศึกโค่นบัลลังก์วังทอง ของผู้กำกับชื่อดัง จาง อวี้ โหมว โดยมี 3 นักแสดงชั้นนำ คือ โจวเหวิน ฟะ, เจย์ โชว์และกงลี่ นำแสดง ส่วนอีกเรื่องที่เรารู้จักกันดีก็คือทรานสฟอร์มเมอร์ก็มาถ่ายทำที่นี่ครับ
_
อีกหนึ่งไฮไลท์คือไปดูโชว์ IMPRESSION WULONG ของผู้กำกับจางอวี้โหมว เนรมิตหุบเขาทั้งลูกของเมืองอู่หลง ให้กลายเป็นฉากเวทีโชว์ขนาดใหญ่ ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตประวัติศาสตร์ของผู้คนท้องถิ่นที่นี่
_
ภาพแรกที่มองฉงชิ่งลงมาจากบนเครื่องบิน “ใหญ่และเจริญมาก” มีฐานะเทียบเท่า มณฑล อีก 3 นครคือ ปักกิ่ง, เทียนจิน และเซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองท่าที่มีแม่น้ําแยงซีและแม่น้ําเจีย หลิ่งเจียงอยู่คู่บ้านคู่เมือง
_
ฉงชิ่งเป็นเมืองที่เจริญมากนะครับ ใครที่บอกว่าเคยมาเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว อาจจะอาจจะจำหลายๆ ย่าน หลายๆ มุมในเมืองนี้ไม่ได้ เพราะมันเปลี่ยนไปชนิดที่แทบจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินกันเลยทีเดียว
_
อย่างถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย มีอนุสาวรีย์ปลดแอก สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะในการทำสงครามกับญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางทางการค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง เต็มไปด้วยร้านค้า กว่า 3,000 ร้านอาหาร ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ เฉพาะย่านนี้ก็มีร้านกาแฟ สตาร์บัคส์หลายสาขามากครับ เป็นที่ได้รับความนิยมมาก ไลฟ์สไตล์คนหนุ่มสาวจะเหมือนที่บ้านเรา คือ นิยมมานั่งทำงาน ทำกิจกรรม นั่งเล่นกันที่สตาร์บัคส์
_
ใกล้กันเป็นจุดชมวิวย่าน “หงหยาต้ง” เป็นจุดชมวิวชั้นดี เพราะจะเห็นเวิ้งน้ำกว้าง อีกทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวด้วย
_
ชวนเข้าไปอ่านต่อด้านใน ยังอีกหลายสถานที่เที่ยวน่าสนใจครับ
#กานต์เที่ยวทิพย์ ฉบับพาเที่ยวมหานครฉงชิ่ง
—
นครฉงชิ่งเป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า #เมืองหมื่นสะพาน หรือจะเรียกว่า “เมืองแผ่นดินพื้นราบไม่เกินสามลี้” เพราะมีแม่น้ําแยงซีและแม่น้ําเจีย หลิ่งเจียงอยู่คู่บ้านคู่เมือง หรือบางทีก็เรียกว่าเมืองเตาไฟ ฯลฯ
ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงกว่า ก็ถึงสนามบินนานาชาติเจียงเป่ย นครฉงชิ่งแล้วครับ ผมนั่ง THAI Smile Airways มีเส้นทางสุวรรณภูมิ-ฉงชิ่ง วันละ 1 เที่ยวบิน
ฉงชิ่งเที่ยวง่ายมาก เพราะโคตรเจริญ ต้องใข้คำนี้ จุดเด่นของฉงชิ่ง นอกจากเรื่องการเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ขึ้นต่อรัฐบาลกลางจีนโดยตรง เป็นมหานครใหญ่อันดับต้นๆ ที่มีฐานะและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดีเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นฮับสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และเมืองใหญ่ๆ ของจีนตอนล่างแล้ว ผมยังได้เห็นโมเดลการวางผังเมือง ที่ทางรัฐบาลจีนได้เนรมิตสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ขึ้นมา ผ่านการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดโซนต่างๆ ของเมืองไว้อย่างชัดเจน
ฉงชิ่งเป็นเมืองที่เจริญมากนะครับ ตึกรามบ้านช่องใหญ่โต ผู้คนเยอะแยะมากมาย ประมาณ 85 ล้านคน มากกว่าไทยทั้งประเทศเสียอีก นับเป็นอีกเมืองหนึ่งของจีนที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงและรวดเร็วมาก
ใกล้กับ ถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย เป็นจุดชมวิวย่าน “หงหยาต้ง” เป็นจุดชมวิวชั้นดี เพราะจะเห็นเวิ้งน้ำกว้าง
หงหยาต้ง มีลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่สร้างอยู่บนภูเขาขนานไปกับแม่น้ำเจียหลิง ประกอบด้วยโรงแรม ร้านค้าจำหน่ายสินค้า, ร้านอาหารพื้นเมือง, ร้านน้ำชา โรงละครซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อสร้างตกแต่งในรูปแบบโบราณให้อารมณ์และบรรยากาศย้อนยุค ที่นี่ถ้าเป็นในยามค่ำคืนถือเป็นจุดนัดพบพักผ่อนของชาวเมือง ถ้ามองไปอีกฝั่งแม่น้ำจะเป็นตึกรามใหญ่โต แยกโซนกันอย่างชัดเจนครับ ดังนั้น ถ้ามาฉงชิ่ง ก็ดูเหมือนจะครบรส ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ ช้อปปิ้ง และอาหารอร่อยครับ
มหาศาลาประชาคมฉงชิ่ง (The Great Hall of the People) หนึ่งในสัญลักษณ์ของฉงชิ่ง ภาษาจีนเรียกว่า ต้าหลี่ถัง เป็นอาคารขนาดใหญ่ทรงโดมในรูปแบบชิโน – โซเวียต สถาปัตยกรรมยุคราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ภายในมีหอประชุม 4,000 ที่นั่ง สำหรับใช้เป็นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และยังใช้เป็นโรงละครสำหรับประชาชนอีกด้วย
นั่งรถไปราวๆ 2 ชั่วโมงกว่า เพื่อจะไปที่เมืองอวู่หลง (Wulong) เมืองตากอากาศ โอบล้อมด้วยภูเขาสูง มีแม่น้ำอู่เจียงไหลผ่านตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฉงชิ่ง
ต่างจังหวัดของจีน ก็ยังคึกคักครับ บ้านเรือนใหญ่โต
ที่เมืองอวู่หลง ผมพักโรงแรมกลางหุบเขาในอุทยานแห่งชาติเลยครับ อารมณ์เหมือนนอนเขาใหญ่ มองไปทางซ้ายก็เขา มองไปทางขวาก็เหงา
โรงแรมชื่อกาแลคซี่ บรรยากาศดีมาก ฟีลเหมือนยุโรป มีทะเลหมอกยามเช้าเคล้ากับแสงแดดสีทอง แนะนำให้รีบตื่นครับ เพราะอากาศบริสุทธ์รอทักทายเราอยู่
อุทยานเขานางฟ้า เป็นอุทยานท่องเที่ยวทางธรรมชาติระดับ AAAA ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เพราะผมพักในเขา ใกล้กับอุทยานแห่งชาติอยู่แล้ว ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเฉลี่ย 1,900 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมียอดเขาสูงสุดที่ 2,033 เมตร อุทยานเขานางฟ้ามีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู คือมี ป่าไม้หนาแน่น, ยอดเขาประหลาด, ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และลานหิมะในฤดูหนาว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ดินแดน 4 สิ่งมหัศจรรย์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมาเที่ยวกันเยอะมากกกกกกก
ที่สำคัญที่สุดคือ ที่นี่เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์อันดับ 1 ทางภาคใต้ของจีน เรานั่งรถไฟฟ้าวนรอบอุทยาน จะเห็นฝูงสัตว์ต่างๆ นอนๆ นั่งๆ ท่ามกลางธรรมชาติ จะว่าไป มาที่นี่ก็คล้ายกับมาสวนสัตว์ขนาดย่อมๆ แหะ
อุทยานหลุมฟ้า สะพานสวรรค์ นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแหล่งใหม่ล่าสุดที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในปี 2007 ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกกลายเป็นหลุมธรรมชาติขนาดใหญ่ บริเวณหุบเหวด้านล่างยังเป็นที่ตั้งของ โรงเตี๊ยมโบราณ ที่เคยเป็นจุดแวะพักแรมยามค่ำคืนของคนเดินทางในสมัยโบราณที่ใช้เป็นเส้นทางลัดจากมณฑลเสฉวนไปมณฑลเหอหนานและยังเคยใช้เป็นฉากสำคัญของภาพยนตร์จีน เรื่องศึกโค่นบัลลังก์วังทอง ของผู้กำกับชื่อดัง จาง อวี้ โหมว โดยมี 3 นักแสดงชั้นนำ คือ โจวเหวิน ฟะ, เจย์ โชว์และกงลี่ นำแสดง ส่วนอีกเรื่องที่เรารู้จักกันดีก็คือทรานสฟอร์มเมอร์ก็มาถ่ายทำที่นี่ครับ
งานขอพร บนบานพระต้องมา ถามว่าถ้าสัมฤทธิ์ผล ก็ต้องเหนื่อยมาแก้บนอีกป่ะ!!
ตอนค่ำ ไปดูโชว์ของจาง อวี้ โหมว ชุด Wulong Impression อลังการดาวล้านดวงเช่นเคย ดูแค่โถงทางเข้าก็รู้แล้ว บิลด์เรื่องกันมาตลอดทาง บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพรับจ้างลากเรือ ซึ่งทำกันมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้วครับ
โชว์ IMPRESSION WULONG ผลงานการสร้างของผู้กำกับจางอวี้โหมว เนรมิตหุบเขาทั้งลูกของเมืองอู่หลง ให้กลายเป็นฉากเวทีโชว์ขนาดใหญ่ ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตประวัติศาสตร์ของผู้คนท้องถิ่นที่นี่
การแสดงชุดนี้เป็นเรื่องราวปรัมปราของหญิงสาวที่ต้องพรากจากหนุ่มชาวเรือที่รัก ที่ต้องออกเดินทางเพื่อทำงานไกล มีการแสดงถึงอาชีพรับจ้างลากเรือ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีใครทำแล้ว และการคิดถึงครอบครัวฝั่งแม่ของหญิงสาว เพราะว่าตามประเพณี ลูกสาวที่แต่งออกไปแล้วจะแทบไม่มีโอกาสกลับมาดูแลครอบครัวตัวเองเลย การจากลาจึงเหมือนกับส่งลูกสาวเข้าสู่สนามรบที่เธอแทบไม่มีวันกลับมา ดูแล้วจับใจความได้ประมาณนี้
นี่เป็นหนึ่งในการแสดงที่ยิ่งใหญ่อลังการของจีน ใช้ผู้แสดงหลายร้อยคน กอปรกับระบบแสง สี เสียง อันยิ่งใหญ่ ตระการตา ตามสไตล์ของจาง อวี้ โหมว คือเน้นโชว์ที่จัดไฟสีสดๆ ให้อารมณ์แบบสุดๆ
“สวนเอ๋อหลิ่ง” ครับ ที่นี่เคยเป็นของเศรษฐีจีนซึ่งทางการยึดมาเป็นของหลวงเพื่อให้ผู้คนได้มาพักผ่อนหย่อนใจ สวนตั้งอยู่ในช่องแคบเขาซันหลิ่ง มีลักษณะเหมือนคอห่านจึงถูกขนานนามว่า เอ๋อหลิ่ง ซึ่งแปลว่า “คอห่าน” ภายในบริเวณสวนประกอบไปด้วย สะพานเชือก ศาลาชมวิว ฯลฯ สวนมีบรรยากาศที่ร่มรื่น ดอกไม้ต้นไม้เยอะดี สามารถมาพักใจได้ที่นี่ทั้งวัน เย็นสบายดีมากๆ ครับ ชอบอะไรเขียวๆ แบบนี้ สบายตา
สวนเอ๋อหลิ่ง เป็นสถานที่ที่คู่บ่าวสาวนิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งกัน
แอบเก็บภาพเจ้าสาวคนสวยมาฝากครับ
งานสตรีทอาร์ตเราก็มา ถ่ายจากจุดพักรถก่อนไปเมืองเป่ยเป้ยครับ เป็นอีกสถานที่ ที่มีคู่บ่าวสาวนิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะมาก
ไปเที่ยวกันต่อที่เมืองต้าจู๋ เป็นเมืองที่มีสมญานามว่า “บ้านเกิดแห่งหินแกะสลัก” เพราะทั่วทั้งเมืองมีศิลปะรูปปั้นหินแกะสลัก ว่า 50,000 ชิ้น จารึกคำสอนภาษาจีนถึง 100,000 ชิ้น กระจายกันอยู่บนหน้าผากว่า 75 จุด ใน บริเวณ 5 ภูเขา คือ เป่าติ่งซาน, เป่ยซาน, หนันซาน,สือเหมินซาน และสือจ้วนซาน ได้รับการจัดเข้าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก้ในปี 1999
ที่เมืองต้าจู๋เป็นงานศิลปะถ้ำยุคหลัง (คริสต์ศตวรรษที่ 9-13) ที่มีความอ่อนช้อยงดงาม ถ้ามาที่นี่ อยากเน้นให้ไปเจาะลึกงานศิลป์หินแกะสลักที่ เขาเป่าติ่งซาน น่าจะสมบูรณ์ที่สุดและสวยที่สุด อยู่บนพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 527.83 เมตร ที่นี่ประกอบด้วยกลุ่มรูปสลักพระพุทธรูป 13 กลุ่ม ซึ่งมีรูปสลักอยู่กว่า 10,000 ชิ้น ตามแนวยาวของหน้าผากว่า 500 เมตร ซึ่งทั้งหมดเป็นรูปแบบศิลปะการแกะสลักหินสมัยราชวงศ์ซ่ง เช่น พระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน, รูปสลักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ,วัฏสังสาร หรือวงเวียนชีวิต, พระศรีอริยะเมตตรัย เป็นต้น
งานหินแกะสลักของต้าจู๋เป็นศิลปะสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง ล้วนแล้วแต่นำเสนอเรื่องราวทางพุทธศาสนานิกายมหายาน, หลักธรรมลัทธิเต๋า และปรัชญาคำสอนของขงจื๊อที่ชาวจีนเคารพนับถือ และเป็นอีกกลุ่มงานหินแกะสลักทางพระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียง 1 ใน 4 แห่งของจีน คือ ถ้ำผาโม่เกาคูที่เมืองตุนหวง มณฑลกานซู, ถ้ำพระพุทธหลงเหมินที่ลั่วหยางและถ้ำผาหยุนกัง ที่ต้าถง มณฑลซานซี ซึ่ง 3 แห่งนั้นเป็นศิลปะถ้ำสมัยเริ่มต้นของจีน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากครับ
ใครชอบดูงานศิลปะโบราณที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามหายานต้องมาครับ
ใกล้ๆ กันมีวัดด้วย
ชอบภาพนี้จัง คุณยายดูเหงาๆ แต่แววตายังกร้าวไปด้วยความสู้ชีวิตตามสไตล์คนจีน
ที่เป่ยเป้ย ผมพักที่โรงแรมชื่อเก๋ไก๋ดี “She Enjoy” ไฮไลท์คือออนเซ็นน้ำแร่ครับ #ตามประสาคนชอบลงอ่าง เป็นน้ำแร่ธรรมชาติ อันเป็นชื่อเสียงของเมืองนี้
บรรยากาศคล้ายญี่ปุ่นเลย ด้วยการตกแต่ง ซาวด์ที่เปิดขณะเดินผ่าน มีด้วยกันหลายสิบบ่อและมีห้องส่วนตัวราวๆ 8 ห้องได้ บ่อมีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันและมีจอแสดงอุณหภูมิของน้ำว่าร้อนขนาดไหน มีตั้งแต่ระดับเบสิค 37-38 จนถึงร้อนที่ราวๆ 42-43 องศา ถือว่ากำลังดีครับ
กลับเข้าเมืองบ้างจะไปเดินเล่น หมู่บ้านโบราณฉือชี่โข่ว
หมู่บ้านโบราณฉือชี่โข่ว (Ciqikou Old Town) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิง ทางตะวันตกของนครฉงชิ่ง เป็นที่ที่มีหลายชนเผ่ามาอยู่รวมกัน เป็นสถานที่ที่สะท้อนรากเหง้าความดั้งเดิมของเมืองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือนที่มีรูปทรงแบบโบราณ แหล่งผลิตสินค้าและอาหารพื้นเมืองที่สืบทอดกิจการต่อกันมาหลายต่อหลายรุ่น
ข้างหลังที่คนเยอะๆ คือเค้ากำลังซื้อ “ขนมหมาคว่า” มีลักษณะเป็นแป้งทอดบิดเกลียวรสชาติต่างๆ คล้ายกับครองแครงกรอบบ้านเรา
จริงๆ ก็ไปอีกหลายที่ ช้อปปิ้งในเมืองก็มี ที่นี่ร้านกาแฟไม่เยอะ แต่ร้านชามีเยอะกว่า เอาเป็นว่าชอบมากครับสำหรับที่ฉงชิ่ง เป็นอีกทริปที่เหมือนมาชาร์จแบตให้ตัวเอง อยู่กับธรรมชาติ สบายใจ อยากกลับไปอีก
