ChiangRai Ryokan

ถ้าสวนสยามจะเคลมว่ากรุงเทพฯ มีทะเล
เชียงรายก็มี “เรียวกัง” สไตล์ญี่ปุ่นได้เช่นกันครับ

จากจุดเริ่มต้นบนผืนดินที่สวยงามของหมู่บ้านสันปูเลย เชียงราย ได้ก่อร่างเป็นร้านกาแฟดีไซน์ญี่ปุ่น จนมาถึงเรียวกัง

所変われば品変わる เป็นสำนวนของญี่ปุ่นที่เปรียบเทียบว่า “บ้านเมืองแต่ละแห่ง ย่อมมีประเพณี วัฒนธรรม และภาษาที่แตกต่างกันออกไป”

“เชียงราย เรียวกัง” (ChiangRai Ryokan) ก็เช่นกัน

เจ้าของเป็นสถาปนิกครับ ผมว่าเขาเก็บรายละเอียดการออกแบบได้ดี ภายในมีเสื่อ “ตาตามิ” (Tatami) ที่ใช้ใยกกมาทอแทนหญ้าอิคุสะ เนื่องจากไม่ค่อยทนทาน มีประตูบานเลื่อน “โชจิ” (Shoji) ที่กรุด้วยกระดาษฟางข้าวสีขาวนำเข้าจากญี่ปุ่น เหมือนที่เราเห็นในหนังนั่นแหละครับ พอตกค่ำ พนักงานก็จะเลื่อนโต๊ะน้ำชาออกแล้วนำฟูกแบบฟุตง (Futon) มาปู เพื่อจัดเตรียมเครื่องนอนให้กับผู้เข้าพัก พร้อมกับวางนกกะเรียนพับไว้ เป็นสัญลักษณ์ถึงความเอาใจใส่ในการดูแลตามนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น

ส่วนภายในห้องได้ยกพื้นแบบ “โทโคโนมะ” (Tokonoma) เพื่อวางเครื่องตกแต่งห้อง มาครบทั้งแจกันดอกไม้ ภาพเขียนและเครื่องลายคราม ภายในห้องพักจัด ได้จัดเตรียมชุดยูกาตะ (Yukata) ไว้ให้เราสามารถใส่เดินเล่นถ่ายรูปภายในเรียวกังได้อีกด้วยครับ ทั้งหมดเป็นการสะท้อน “จิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น” แบบโอโมเตะนาชิ (Omotenashi) ได้ดี นั่นคือการใส่ใจในทุกรายละเอียดและการทำเรื่องเล็กน้อยๆให้

เช่นตอนที่ผมเข้าไปในเรียวกัง ทุกครั้งตอนจะออกจากบ้าน เราจะพบว่ารองเท้าของเราหันหัวออกพร้อมให้เราใส่ โดยไม่ต้องเสียเวลากลับด้าน เป็นหัวใจหลักของงานบริการ แบบโอโมเตะนาชิจากเชียงรายเรียวกัง

ร่วมชายคาเดียวกันยังมี “เรียวกังคาเฟ่” ไว้เป็นกองหนุน ยามทัพจะเดินหน้า ที่นี่เน้นขายเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ขนม มีอาหารจานหลักเป็น “ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น” หรือหากใครชอบความสุนทรีย์แบบที่นี่เชียงราย แนะนำทางเลือกให้เป็น “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” ครับ รับรองจะติดใจเหมือนผม

ผมสรุปทริปเชียงรายในครั้งนี้ว่าเปรียบดั่งอาคันตุกะที่เดินทางไกล ผ่านบ้านซามูไร

เราเข้าไปดื่มน้ำชา ร่ำกาแฟ และนอนพักค้าง ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายกับห้องพักในสไตล์เรียวกัง กลางทุ่งข้าว  แถมยังมีออนเซ็นน้ำแร่ให้ได้แช่กายและมีอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นไว้คอยบริการ มีห้องเก็บงานศิลปะเป็นอาร์ต แกลอรี่ให้เราได้เสพผลงานดีๆ อีกด้วยครับ

สำนวนญี่ปุ่นเขียนไว้ว่า 思い立ったが吉日 วันลงมือทำคือวันฤกษ์ดี ความหมายก็คือ
หากเราคิดจะทำอะไร อย่าไปเสียเวลาหาฤกษ์หายามเลยครับ แต่ควรเริ่มลงมือทำโดยทันที จึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เหมือนผมและหลายคนก็ไม่คิดว่า เชียงรายจะมีเรียวกัง
… แต่มันก็เป็นไปแล้ว

ถ้าปักหมุดมาตามกูเกิ้ลจะพาอ้อมเข้าไปด้านหลัง ซึ่งจะต้องผ่านทางเข้าหมู่บ้านเล็กๆ และซับซ้อนพอสมควร แนะนำให้เลือกเส้นที่มุ่งหน้าออกนอกเมือง เลยทางเข้าวัดร่องขุ่นมาแล้วค่อยปักหมุด จะพาเข้ามาทางหน้าหมู่บ้านซึ่งถ้าจะมาจากในตัวเมืองแล้วจะสะดวกกว่ามาก

การออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยการจัดวางสวนหินเอาท์ดอร์ด้านนอก พร้อมออนเซ็นกลางแจ้ง เป็นอ่างแช่น้ำร้อน โรเท็นปุโระ (Rotenburo) มีผงแร่สีฟ้าขุ่นมาช่วยฟื้นฟูสุขภาพ มีกลิ่นหอม ผ่อนคลาย พร้อมจัดเตรียมผ้าอเนกประสงค์ผืนเล็กที่เรียกว่า “เทนนุกุย” (Tenugui) มาไว้ช่วยในการขัดถูตัวให้สะอาด

บรรยากาศภายในเรียวกัง คาเฟ่ ตกแต่งให้ความรู้สึกคล้ายกับการอยู่ญี่ปุ่น มีห้องน้ำชาสมัยเอโดะที่โชว์ชุดเกราะไว้ให้ถ่ายภาพ

ภายในห้องพักจะเริ่มต้นด้วยการจัดชุดน้ำชาไว้รอต้อนรับ จากนั้นเมื่อถึงเวลาค่ำคืนจะเลื่อนโต๊ะออกไปเพื่อที่พนักงานจะได้ปูฟุตองให้ ซึ่งเป็นไปตามวัฒนธรรมแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น

บริเวณมุมด้านในห้องได้ยกพื้นแบบ “โทโคโนมะ” (Tokonoma) เพื่อวางเครื่องตกแต่งห้องมาครบทั้งแจกันดอกไม้ ภาพเขียนและเครื่องลายคราม

โดยธรรมเนียมการต้อนรับแขกของชาวญี่ปุ่นแล้วนั้น ถ้าเป็นแขกคนสำคัญ จะเลือกให้นั่งหันหลังให้กับโทโคโนมะ เป็นการให้เกียรติกับอาคันตุกะและเจ้าบ้านก็จะไม่นั่งหันหลังให้โทโคโนมะโดยเด็ดขา

นอกจากนี้โทโคโนมะ ยังถือว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับวางเครื่องสักการะบูชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป หรือเครื่องเคารพต่างๆ ชาวญี่ปุ่น จึงค่อนข้างจะถือ ไม่ให้ใครขึ้นไปเหยียบตรงส่วนยกพื้นโทโคโนมะ เว้นเสียแต่ว่าเจ้าของบ้านจะขึ้นไปเปลี่ยนภาพวาด

ด้านในห้องมีตู้เก็บของที่ซ่อนชุดเครื่องนอนเอาไว้อย่างมิดชิดเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาพนักงานจะนำอุปกรณ์ทั้งหมดมาปูบริเวณห้องเสื่อตาตามิ

ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของทางเรียวกังอย่างเช่นการจัดเตรียมผ้า “เทนนุกุย” (Tenugui) ร่วมกับผ้าเช็ดตัว การวางเก้าอี้นั่งและถังไม้ขนาดเล็กแบบในห้องอาบน้ำของญี่ปุ่น ตลอดจนการออกแบบสวนหินที่มีความเรียบง่ายสไตล์เซ็นไว้บริเวณด้านหลังเรียวกัง

ภายในตู้เสื้อผ้าได้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกดุจมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวทั่วไป ทั้งร่ม ไฟฉาย ไม้แขวน รองเท้าแตะและมีชุดยูกาตะไว้ให้สวมใส่ ที่สำคัญ ช่วงนี้เป็นฤดูหนาว ทางเรียวกังได้จัดเตรียม “ฮาโอริ” ก็คือ เสื้อคลุมชุดยูกาตะซึ่งคนญี่ปุ่นใช้สวมทับอีกชั้นหนึ่งหลังใส่ชุดเพื่อคลายความหนาวสร้างความอบอุ่นครับ

บรรยากาศภายในห้องพักหลังจากพนักงานมาปูฟูกที่นอนให้เรียบร้อย มีการจัดเรียงข้าวของภายในห้องใหม่ เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบง่าย นำโคมไฟมาตั้งไว้บนหัวนอนและมีนกกระเรียนพับวางไว้เป็นสัญลักษณ์

ชานหน้าห้องจัดหมอนอิงสามเหลี่ยมสไตล์ล้านนาประยุกต์ เพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่เพื่อความผ่อนคลายในการพักผ่อนครับ บนโต๊ะจัดเตรียมชุดชงชา เราสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ในการรับลมหนาว

มองออกไปจากด้านหน้าเรียวกัง จะเป็นศาลากลางน้ำเพื่อให้ผู้เข้าพักได้มาใช้พื้นที่ในการพักผ่อน ทำกิจกรรมร่วมกัน ในบรรยากาศของสวนญี่ปุ่น และมีสวนหินสไตล์เซ็นที่จัดแสดงไว้บริเวณภายในเรียวกัง

ข้ามไปฝั่งคาเฟ่กันบ้างครับ จะแยกโซนออกมาจากเรียวกัง เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย เนื่องจากร้านกาแฟจะเปิดให้บริการทั้งวัน บรรยากาศคึกคักมาก มีลูกค้ามาใช้บริการตลอดเวลาครับ ส่วนโซนเรียวกังจะไม่อนุญาติให้ลูกค้าจากคาเฟ่เข้าไปข้างในได้ครับ

สั่งชาเขียวร้อนมาทานกับเค้กชาเขียวครับ รสชาตเข้มข้นสมกับเป็นเมืองแห่งไร่ชาจริงๆ

ขนมมีให้เลือกเยอะพอสมควรครับ อยากให้ลองนามะช็อคโกแลตครับ อร่อยเข้มข้นดี ส่วนเต้าซ้อนี่ดูไม่ค่อยเข้าพวก เพราะมาจากทางภูเก็ต (บ้านเกิดเจ้าของ) แต่เห็นว่าเด็ดเลยสั่งมาขายที่เชียงรายครับ

ที่นี่ไม่มีห้องแอร์นะครับ ใช้ลมธรรมชาติล้วนๆ แต่ก็เย็นสบายดี มีทุ่งนาเขียวๆ ให้ดู มีเครื่องดื่มร้อนเย็น ไอศครีมโฮมเมดให้ทาน หอบโน๊ตบุ้คมานั่งทำงานได้ครับ มีไวไฟฟรี

เมื่อก่อนนี้ เรียวกังคาเฟ่ไม่มีอาหารขาย แต่เห็นว่าลูกค้าถามหาเยอะ ตอนหลังได้พัฒนามาเสิร์ฟข้าวแกงกะหรี่หมูทอด อร่อยมากครับ เป็นน้ำแกงสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ทานคู่กับชาเขียวกาแฟ เรียวกัง ลาเต้ (Ryokan Latte) เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน

แต่ที่ชอบสุดของผมคงจะเป็น “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” ที่รสชาตดีกว่าหลายเจ้าที่ขายกันในตัวเมืองเสียอีกครับ ผมอาจจะติดลิ้นกับน้ำเงี้ยวข้นๆ ใส่ถั่วเน่า ไม่ค่อยชอบแบบน้ำใสแจ๋ว โดยรวมแล้วทานไป 2 ชามครับ

นอกจากคาเฟ่แล้วยังมี Ryokan Shop ขายเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นและของที่ระลึกจากทางเรียวกังด้วย

มองจาก คาเฟ่ 1 จะเห็นคาเฟ่ 2 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ฝั่งนั้นคนก็พลุกพล่านครับ สามารถยืมจักรยานปั่นไปได้เลย ทั้ง 2 คาเฟ่ขายเครื่องดื่มและขนมเหมือนกัน แต่คาเฟ่ 2 จะไม่มีอาหารให้บริการครับ คาเฟ่ 2 จะอยู่โซนอาร์ต เซ็นเตอร์ และมีไฮไลท์นั่นคือรูปปั้นโตโตโร่ ตัวการ์ตูนเรื่องโปรดจากสตูดิโอจิบลิ มาตั้งไว้ให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปเล่นกัน ด้านในเป็นอุโมงค์ป่าไผ่ เหมือนอาราชิยาม่าที่เกียวโตเลยครับ

รูปปั้นหมาก็มา อ่อ!! เจ้าของที่นี่รักหมาครับ มักจะพามาเดินเล่นแถวนี้บ่อยๆ

Ryokan Art Center เป็นแกลอรี่ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าไผ่ มีภาพวาดและงานศิลปะจากเจ้าของเรียวกังและศิลปินชื่อดังของเชียงรายให้ได้ชมกัน ให้บรรยากาศและอารมณ์ที่หลากหลายมากครับ แกลอรี่มีขนาดไม่ใหญ่ เดินชมงานสักพัก พอให้ได้เสพงานศิลป์ ครับ ผมว่าเชียงรายเป็นเมืองศิลปินที่แท้จริงเลยนะ งานศิลปะหลายแขนงเริ่มต้นที่นี่และทำได้ดีเสียด้วย หากมีเวลา หลังจากทานกาแฟเสร็จแนะนำให้มาเดินเล่นกันด้านใน Ryokan Art Center ครับ

ไม่ไกลจาก Ryokan Art Center เป็น Ryokan farm ครับ ตอนนี้กำลังเตรียมนาเพือจะปลูกข้าวญี่ปุ่น คาดว่าน่าจะออกรวงเขียว สีสวยเชียวราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าครับ

ได้เวลาอาหารเช้า ที่นี่จะมีให้เลือก 3 แบบนะครับ คือ ไทย ญี่ปุ่น และ อเมริกันเบรคฟาสต์

เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศผมเลือกเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ในเซ็ทจะเลือกเครื่องดื่มได้ 1 แก้วจากทางร้าน ผมสั่งเป็นฮอกไกโดคาราเมล ส่วนอาหารจะมีปลาย่างทานคู่กับไก่คาราเกะ เห็ดผัด มีมิโซซุปและข้าวต้มเติมได้ครับ ส่วนถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปสามารถสั่ง โอนิกิริ เป็นข้าวปั้นสามเหลี่ยม เสริฟกับซุปมิโซะ มาลองทานได้ครับ

เชียงรายเรียวกัง นับเป็นรีสอร์ตสไตล์ญี่ปุ่นที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือมองหาที่พักในเชียงรายสำหรับวันพักผ่อนสบายๆ ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน

เชียงรายเรียวกัง
ที่ตั้ง : 134 หมู่ 4 ปากซอยร่วมใจพัฒนา ซ.1 ถนนซอยโยธาธิการ หมู่บ้านสันปูเลย ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว เชียงราย
โทรศัพท์ : 081-868-3010
Facebook : Ryokan Cafe’

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน