BABA BEACH CLUB HUAHIN

“Summer นี้จะลุกเป็นไฟ”
__

ตอนนี้เห็นหลายๆ คนเริ่มต้นประโยคด้วยคำพูดนี้ คิดดูสิ ยังไม่ทันจะเมษา เดือนที่ร้อนที่สุดเลย แค่มีนาคมเราก็ยังแทบจะทนไม่ได้

ฤดูร้อน นอนทะเล ทิวมะพร้าว กลายเป็น 3 คำที่เข้ากันได้อย่างลงตัวและทำให้หลายๆ คิดถึงวันพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ
ที่จะทำให้เราได้หยุดเวลาเอาไว้ริมชายหาด ท่ามกลางบรรยากาศสบาย อบอุ่น เป็นกันเองและมีชีวิตชีวา …

เมื่อมองหาโรงแรมสำหรับพักผ่อนในช่วงวันหยุด ผมจึงพุ่งเป้ามาที่ “หัวหิน” ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องด้วยมนต์เสน่ห์ของทะเลหัวหินที่สงบเงียบไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก กอรปกับงานสถาปัตยกรรมที่ทรงเสน่ห์ ล้อกันไปกับ Modern Neo-Colonial Style ไปทั้งเมืองหัวหิน จึงทำให้เป็นถิ่นที่ถวิลหาทุกครั้ง … เมื่อคิดถึงทะเล

มาหัวหินครั้งล่าสุดนี้ ผมเลือกที่จะใช้บริการ โรงแรมน้องใหม่ล่าสุดในเครือศรีพันวา
“BaBa Beach Club Hua Hin”

ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ศรีพันวา วิลล่าหรูจากภูเก็ต ทำให้เกิดความท้ายทายว่า เมื่อข้ามถิ่นมายังหัวหิน จะยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ในระดับ “ดีเยี่ยม” อยู่หรือไม่

จึงอยากจะชวนทุกท่านไปพักผ่อนด้วยกันครับ

Baba Beach Club Hua Hin is ideal for a family holiday or friends. Let’s live together here. And do not forget to have a private time. To absorb the feeling and good impression and bring it back to your home.

I’m impressed by the definition of the word. “Relaxing by the sea” is quite good and level. Sri Panwa’s standards are very high in terms of quality and service. When we meet the staff, they always say hi with my name, It’s greetings. I think it’s a little detail, hard to create, but they’s can, and it’s here to create the spirit of being a service. No matter which department you are in, you can always find a good solution. It is like the hostess who takes care of guests when they arrive at the home. and don’t forget to release a feeling free (ISSARA – Thai) with Baba Beach Club Hua Hin.

I have seen that the hotel has a 3-day and 2-night package. Next time i’ll try this. As if to add more enjoyment of relaxation together. I promise.

BaBa Beach Club Hua Hin เป็นโรงแรมระดับ Luxury บนชายหาดชะอำ-หัวหิน เกิดขึ้นจากการที่บริษัทฯ ต้องการมอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดเอ็กซ์คลูซีฟอย่างใกล้ชิดธรรมชาติท่ามกลางชายหาดส่วนตัว พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกสุดอลังการและมีความหลากหลายตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักทุกคน ทำให้มั่นใจได้ถึงความงดงามของสถานที่ความใส่ใจในรายละเอียดทุกสิ่ง รวมไปถึงความเป็นมาตรฐานของการบริการที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

ที่นี่เป็นทั้งโรงแรมและ Beach Club Resident สุดหรูในคอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel ริมทะเลชะอำ- หัวหิน ทุกห้องเป็น BeachFront Pool Suite บริหารโดยศรีพันวาครับ ชื่อชั้นการันตีขนาดนี้ รับรองว่าที่นี่ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

สัมผัสแรกที่พบคือสถาปัตยกรรมภายนอกที่ได้รับการออกแบบโดย HABITA ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากการออกแบบโรงแรมระดับ Super Luxury อย่าง Sri Panwa และ BaBa Beach Club Phuket มาแล้ว ซึ่งต่างก็สะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจน

เช่นเดียวกับที่ BaBa Beach Club Hua Hin ก็เลือกใช้สไตล์การตกแต่ง Modern Neo-Colonial Style ที่สะท้อนถึงกลิ่นอายความเป็นหัวหินยุคใหม่และแฝงไปด้วยความหรูหรา เพดานที่สูงโปร่งพร้อมผนังกระจกที่มองเห็นธรรมชาติที่โอบล้อม

Lobby และ Front Desk สวย ดูดี มีระดับ น้อยแต่ มาก เรียบแต่โก้ High Fashion!

รายละเอียดของการตกแต่งที่ใช้สะท้อนผ่านแความหรูหราของวัสดุ และการนำไม้เข้ามาเป็นองค์กระกอบหลัก ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เรียบง่าย กระจกช่วยทำให้ Space ดูโปร่ง ไม่อึดอัด ตัดด้วยขอบสีทอง ช่วยยกระดับเฟอร์นิเจอร์ให้หรูหรา มากยิ่งขึ้น

ด้านหน้าส่วนของโรงแรมจะจุด Drop Off ของโรงแรม ก่อนเข้าสู่ล็อบบี้ของโรงแร

Hotel Design เป็น Modern Neo-Colonial Style ที่นำเอกลักษณ์การออกแบบของหัวหินมาใช้ในงานดีไซน์ ผสานเข้ากับความโมเดิร์นสมัยใหม่ มีลวดลายที่ Twist ความเก่าและความใหม่ได้อย่างลงตัว

Check-In กันก่อนครับ พนักงานต้อนรับให้ข้อมูลและอธิบายดี ครบถ้วน ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามมาตรฐานของศรีพันวา

รับ Welcome Drinks และผ้าเย็น หวานๆ เย็นๆ ฉ่ำๆ ให้ชื่นใจ เป็นการ Say Hi! ครั้งแรกจาก BaBa Beach Club Hua Hin ครับ

เพื่อให้สมกับ คอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel ภายในโรงแรม ทุกพื้นที่และภายในห้องพักจึงมีเพลงเปิดบรรเลงจาก Sound Cloud @ Baba Beach Club ให้ฟังตลอดเวลา

จากนั้นพนักงานจะยกกระเป๋าขึ้นมาให้บนห้อง รับคีย์การ์ดมาแล้ว ห้องพักอยู่ชั้น 2 ครับ ที่อาคารนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้น (มีลิฟต์) ห้องพักในส่วนตึกนี้มี 18 ห้อง ทุกห้องเป็น Beachfront ทั้งหมดครับ แบ่งเป็น 3 ชั้นแรกจะเป็น Beachfront Pool Suite (Ground Floor) จะมีพื้นที่ส่วนนอกกว้างกว่า แต่มีสระว่ายน้ำและมีสวนเล็กๆ เหมาะกับคนที่มีเด็กๆ มาด้วย

แบบที่สอง Beachfront Pool Suite อยู่ชั้น 2 กับ 3 คือห้องพักของผมเอง รับวิวเต็มๆ มีทั้งสระ สวน และทะเล มีความเป็นส่วนตัวมาก ส่วนอีกแบบจะเป็น Beachfront Penthouse จะตั้งอยู่ที่ชั้น 3 บริเวณห้องมุมขวาและซ้าย พื้นที่กว้างมากพักได้หลายท่าน ถ้าชวนเพื่อนมากันนะ รับรองสนุก อย่างรูปนี้ก็ยิงมาจากในระเบียงห้องพัก

เข้าห้องพักกันดีกว่า สัมผัสแรกห้องเป็นเพดานสูงแบบ Double Volume เมื่อเข้ามายังพื้นที่นี้จะสร้างความรู้สึกที่โปร่งโล่ง ผ่อนคลาย ภายในห้องรู้สึกได้ถึงธรรมชาติที่โอบล้อมรอบตัวเรา

งานตกแต่งภายใน นอกจากจะใช้เพดานที่สูงโปร่ง และวัสดุอย่างไม้ เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่น การใช้กระจกเพื่อห้องดูโล่งสบาย

การตกแต่ง Modern Neo-Colonial Style ที่มีกลิ่นอายของหัวหิน ในแบบ Classy และ City Style การใช้วัสดุตกแต่งภายในก็เลือกใช้เกรดคุณภาพดี โทนสีน้ำตาล ขลิบขอบทองให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับ

การออกแบบ Function ใช้งานทำออกมาดีมากๆ ลิ้นชักตู้เสื้อผ้าที่เก็บของใช้ได้จริงๆ คุณภาพดี ส่วนที่นั่งโซฟาต่างๆ ขนาด Space กำลังดี เป็นโซฟาที่มีไว้นั่งจริงจัง ไม่ใช่เพียงเอาไว้ประดับห้องเฉยๆ

มี Magazine ให้บริการไว้อ่านเพลินๆ ในห้องด้วยครับ และจากโซฟาตรงนี้ สามารถดูทีวีได้อย่างลงตัวครับ พวกเครื่องเสียง ทีวี ต่อเข้า Netflix, Youtube ได้ทันที ดีงามมากๆ

นอกจากสระว่ายน้ำระบบเกลือภายนอกห้องแล้ว ภายในห้องน้ำ ยังออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำสำหรับพักผ่อนนอนแช่น้ำ เพื่อให้ทุกส่วนสามารถใช้เป็นที่พักผ่อนได้ทั้งหมด

มาเหนื่อยๆ ขออาบน้ำก่อนเลยครับ ห้องน้ำก็กว้างขวาง Bathroom Amenity Kit ครบ สบู่ ยาสระผมกลิ่นดี มาพร้อมอ่างอาบน้ำและ ฝักบัวแบบ Rain Shower

มองจากเตียงนอนออกไป ผ่านประตูกระจกบานใหญ่ มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำ และวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เราสามารถเปิดประตูแล้วลงสระว่ายน้ำได้ทันที

ประตูกระจกด้านนอก ถ้าเปิดค้างไว้เกิน 3 นาที ระบบจะตัดแอร์ทันที ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงาน แต่อีกด้าน คือเมื่อเราขึ้นมาจากการเล่นน้ำในสระ หากเข้าห้องทันที ห้องที่มีอากาศเย็น อาจจะทำให้ร่างกายเราปรับตัวไม่ทันและไม่สบายได้ครับ

แผงไฟก็เป็นหนึ่งในไฮไลท์ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายมา แต่จำได้ว่าจะมีสวิตช์ให้เลือกระบบไฟตามความรู้สึก เช่น Sexy, Nigh, Welcome ไฟในห้องจะหรี่ตามอารมณ์เพื่อสร้างบรรยากาศเลยครับ เป็นโรงแรมที่ปลั๊กไฟมีหลายจุดมาก เหมาะแก่การหาที่ชาร์ตแบต ขนาดหัวเตียงยังมีปลั๊กไฟ สามารถเล่นมือถือบนเตียงด้วยชาร์จไปด้วย ก็สามารถทำได้ทันที

เพื่อไม่ให้เสียคาแรกเตอร์ความเป็น Music Lovers Hotel เครื่องเสียงในห้องจึงจัดเต็ม BOSS มาเลยฮะ สามารถที่จะฟังจาก iPod ซึ่งทำ Playlist ไว้ให้เรียบร้อยแล้วก็ย่อมได้ จะ Bossa, Jazz, R&B, Party, Sun set มีหมด เปิดเพลงคลอเบาๆ ในห้อง ก็จะช่วยให้ผ่อนคลายได้มากครับ

แต่เดียวก่อน ถ้าฟังเพลงแล้วคัน!! ที่นี่มีไม้เกาหลังให้ด้วย! โอ้แม่เจ้าาาาา พักมาทั่วสารทิศ เพิ่งเคยเจอที่นี่คือที่แรกที่มีไม้เกาหลัง เผื่อคุณรู้สึกคัน

ได้เวลาเล่นน้ำกันบนห้องพักครับ ระเบียงและสระค่อนข้างกว้าง เทียบได้กับอีกห้องนอนหนึงเลยทีเดียว ผมจึงมีกิจกรรมทำริมสระหลากหลายมาก จะดริงก์ จะว่ายน้ำ จะฟังเพลง ก็ได้หมด หรือแม้แต่ทำงานไปด้วย แช่น้ำไปด้วย ฟินมากกกกก

หรือแม้แต่จะหอบ MacBook มาทำงานไปด้วย แช่น้ำไปด้วย ฟินมากกกกก

ชอบการตีความคำว่า “พักผ่อน” ของที่นี่ ให้ความรู้สึกสบายใจ อยากจะทำอะไร ทำแล้วสบายใจ ไม่เบียดเบียนใคร เชิญเลย ทางโรงแรมคอยอำนวยความสะดวกสุดความสามารถเท่าที่จะทำได

ส่วนตัวผมชอบในความที่ห้องพักมีน้อย จึงทำให้ได้บรรยากาศเป็นส่วนตัวสุดๆ

ถ้าใครเคยพักที่ศรีพันวา จะพบว่า Mini Bar ที่นี่ก็คงคอนเซปต์เดียวกัน คือ ทานฟรีทุกอย่างเลยจ้า ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม น้ำเปล่า มาม่า ชา กาแฟแคปซูล เติมให้ฟรีวันละครั้ง เผื่อใครพักหลายคืน

มีผลไม้สด คอยให้บริการ สามารถปอกทานได้ตามใจ

เบื่อเล่นน้ำในห้อง ก็เตรียมหนังสือสักเล่มไปนั่งอ่านกันริมทะเล

ลงไปเดินสำรวจชายทะเลกันสักหน่อย
แดดร้อน-ลมแรง-ความรักกำลังจะมา

ชายหาดของโรงแรมจะมีคนเดินผ่านบ้าง แต่ไม่ถึงกับมีแม่ค้ามาขายส้มตำ ปลากหมึกย่างให้เสียอรรถรส ในการดื่มด่ำทะเล

แขกส่วนใหญ่ของที่นี่ เป็นชาวต่างชาติครับ จะเชื้อชาติไหนก็ตาม มาเหอะ ต้อนรับหมด

บริเวณหน้าชายหาดจะมีสระสำหรับว่ายน้ำ และโซนนั่งรับลมริมชายหาด ตรงเก้าอี้ชายหาดนี้ ถมด้วยทรายที่สั่งมาจากต่างประเทศซึ่งเป็นทรายเนื้อดีมีความละเอียดมาก ดังนั้นทุกสัมผัสจะมีแต่ความนุ่ม สบายเท้าครับ

ยอมใจในความละเอียดของโรงแรมจริงๆ ครับ

เมื่อคุณจะลงเล่นน้ำ ทางโรงแรมมีบริการครีมกันแดด เจลกันเบิร์น ผ้าเช็ดตัวมีให้พร้อม สักพักจะมีพนักงานนำน้ำเปล่ามาให้ “โดยที่ไม่ต้องร้องขอ” และไม่เสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด

Entertainment Pool ที่อยู่ติดชายหาด ว่ายน้ำไปก็ฟินกับบรรยากาศของทะเลไปด้วย และยังมีเสียงเพลงคลอเบาๆ ชิลล์ไปอีก

แสงแดดสีทองที่สาดส่องจากหลังอาคารที่พักมายัง Entertainment Pool ดูแล้วให้ความรู้สึกหรูหรายิ่งนัก

เบื่อสระ ก็ลากตัวเองออกไปเดินเล่นกันต่อ ผมชอบบรรยากาศของการเดินเล่นทั้งริมทะเลและสวนต้นไม้ ฟีลมันได้ในแง่ของความอบอุ่น เป็นธรรมชาติและเป็นกันเอง

มาเดินสำรวจโรงแรมกันบ้าง ตรงนี้คือร้านอาหาร Baan Chok (บ้านโชค) ครับ

Baan Chok by BaBa Beach Club Hua Hin เป็นบ้านพัก 2 ชั้น ริมทะเล สไตล์ Hua Hin’s Iconic Colonial ที่ผสมผสานระหว่างภาพกลางแจ้งที่สดใส ชาและกาแฟพื้นเมือง ไวน์และแชมเปญชั้นเลิศ กลายเป็นเมนูสไตล์ตะวันตกร่วมสมัย ค้นหาคอลเลกชั่นของบ้านโชคได้ที่แกลเลอรีชั้นบน ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของครอบครัวโชควัฒนา และเหตุการณ์สำคัญต่างๆ

บ้านโชค เป็นร้านอาหาร แนว Cafe & Eatery มีทั้งโซนด้านใน แบบ Indoor และ Outdoor ให้ลูกค้าได้นั่งชิลล์ริมทะเลบนที่นั่งแบบ Bean Bag และเก้าอี้โยก พร้อมฟังเพลงสไตล์ Pop, Jazz, Bossa,Tre-O ถ้าใครมาตรงกับ Weekend ในช่วงเย็นๆ จะมี Live Band ด้วย

โทรเช็คก่อนก็ได้ ว่า Weekend ไหน มีศิลปินคนใดมาเล่น หรือมี DJ คนใดมาเปิดแผ่น จะได้เอนกายฟังเพลงได้อย่างสบายใจ ให้สมกับเป็นวันพักผ่อน

พบกับพนักงานต้อนรับกิตติมศักดิ์ประจำบ้านโชค

บ้านโชค / BAAN CHOK

เปิดประตูเข้ามาดูด้านในบ้านโชคกัน

การตกแต่งภายในสไตล์ Hua Hin’s Iconic Colonial ที่ผสมผสานระหว่างภาพกลางแจ้งที่สดใส ชาและกาแฟพื้นเมือง ไวน์และแชมเปญชั้นเลิศ กลายเป็นเมนูสไตล์ตะวันตกร่วมสมัย

เน้นการจัดวาง Lay Out ให้ดูไม่อึดอัด มีความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศแบบส่วนรวม จริงๆ แล้วหากใครไม่ได้มาพักที่นี่ ก็สามารถแวะมาทานอาหารได้นะครับ

บ้านโชคมีพื้นที่ประมาณ 1,500 ตรม. สำหรับการทำงานส่วนตัว สำหรับจัดงานแต่งงานที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร สำหรับจัดการประชุมพิเศษ และงานเฉลิมฉลองในวาระพิเศษต่างๆ

จองล่วงหน้า กรุณาโทร +66 32 899 130

หากจะเทียบกับโรงแรมริมทะเลทั่วไป กลางคืนบรรยากาศจะกลายเป็นความเงียบสงบและสงัด แต่ด้วยความเป็น Baba Beach Club กับคอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel ที่นี่ คือสามารถสนุกกับเสียงเพลงได้ตลอดเวลา สามารถสั่งอาหารมานั่งทานริมทะเล หรือสั่ง Cocktail มาจิบเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมชายหาดได้เลย

ตรงนี้เป็น Bar ริมทะเล หากไม่สั่ง Cocktail ก็สามารถเลือกดื่มชากาแฟได้

กาแฟคือดีย์มากครับ

ว่าแล้วก็ได้เวลาทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหารและบาร์ริมทะเล Baba Beach Restaurant ครับ

ด้านในห้องอาหารตกแต่งสวยมาก มีความโมเดิร์น ชอบโซฟาและเก้าอี้ลายขาวดำ และชอบตรงจานที่นำมาตกแต่ง

แต่ช้าก่อน!!

เรายังไม่นั่งข้างในครับ เลือกนั่ง Outdoor แทน เพราะอย่างไรเสีย พรุ่งนี้เช้าเราก็ได้นั่งทานข้าวด้านในห้องอาหารนี้อยู่แล้ว

ไปกัน 2 คน อาจจะทานไม่ได้หลายอย่าง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะจากที่ดูในเมนูแล้วอะไรก็น่าทานไปเสียหมด

ไม่เป็นไร เราเลือกสั่งเมนูไฮไลท์ ละกัน

สั่ง Snack ก่อนเลยเป็น Salt & Pepper Bacon (380฿) เบค่อนทอดมากรอบกำลังดี มีการปรุงรสเพิ่มในแบบไทยๆ

เส้นหมี่แกงปู ใบชะพูล (380฿) … จัดมาเต็มชามแบบนี้ค่อยยังชั่ว ปูเป็นปู ใบชะพูลก็ลอยวนไปในชาม

อ่อ!! สามารถเลือกความเผ็ดได้นะครับว่า level ไหน Euro Spicy, Thai Spicy หรือ Extra Spicy

Spaghetti Pomodoro (350฿) เป็น classic tomato sauce สั่งตามที่เชฟแนะนำ

Pizza (380฿) ราคาต่อถาดครับ จะสั่ง Half-Half ก็ได้ มีหลายหน้าให้เลือก ลองสั่ง Rocket Parma กับ Pesto Chicken ส่วนตัวชอบการอบของตัวแป้งครับ กรอบกำลังดี

Pork Rib 300 กรัม (480฿) ซี่โครงหมูย่างสั่งตามคำแนะนำของเชฟ ไม่ผิดหวังครับ ซี่โครงอร่อย ล่อนดี ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว … แซ่บจนอยากกลับอีสาน จริงๆ มีหลายซอสให้ลองนะครับ กระซิบว่า ซอสลิ้นจี่ก็อร่อย … ลองขอเพิ่มดูนะครับ

โดยรวมของอาหารและราคา ถือว่าสัมพันธ์กันครับ กับรสมือของเชฟโรงแรม 5 ดาว เสียดายที่มากันไม่เยอะ เลยอดสั่งอีกตั้งหลายเมนู

ยกยอดเอาไว้คราวหน้าครับ

ทานข้าวเสร็จก็เดินย่อยเล่นสักพักครับ ลองไปเก็บไฟด้านหน้าโรงแรมมาฝาก … จากนั้นต้องตะลึงครับ เพราะไฟช่วยให้ตัวอาคารโดดเด่น เลอค่ามากขึ้นไปอี๊กกกกก

กลับเข้าห้องพักดีกว่าครับ แม่บ้านเทิร์นดาวน์เตียงเรียบร้อยแล้ว และก็ต้องยกมือทาบอกด้วยความตกใจระคนประทับจิต เมื่อเจอภาพนี้

แม่บ้านจัดเรียงข้าวของเครื่องชาร์ตและเครื่องใช้ พันสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก

ไม่เพียงเท่านั้น ในห้องน้ำ นางก็จัดการเรียบ … ระเบียบจัดเป็นมาตรฐาน ตรงนี้ให้ 3 ผ่านเลยครับ

บนหมอนมีคำอำนวยพรเล็กๆ ก่อนนอน เป็นความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ที่เกินกว่าความคาดหวังของผู้เข้าพักครับ แล้วแบบนี้จะไม่ให้หลงรักได้อย่างไร

เช้าแล้วครับ นี่คือมุมมองจากบนเตียงนอน เป็นภาพแรกของเช้าวันใหม่ที่ BaBa Beach Club Hua Hin มอบให้เป็นของขวัญ กับวิวทะเลยามพระอาทิตย์ขึ้นเบื้องหน้า

แสงแดดต้องชะตากับสระน้ำและทะเลยามเช้า เป็นภาพที่ประทับใจยิ่งนัก นี่ต้องยอมตื่นแต่เช้ามืดเพื่อตั้งใจมาเก็บภาพนี้

โอ้เอ้อยู่เต็มที บนที่นอน … จนแดดเริ่มแรง ส่องเป็นสัญญาณว่าได้เวลาไปทานอาหารเช้าแล้วครับ

ข่าวว่า อาหารเช้าของที่นี่ จัดหนักด้วยเมนูเลื่องชื่อไปทั้งเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ว่ากันด้วย Egg Benedict ถือว่าเป็น Signature Breakfast ของที่นี่เลย มีเมนูให้เลือกทานครับ

อาหารเช้าที่นี่จะเป็นแบบ made-to-order ครับ สั่งได้จากเมนู

ระหว่างที่รออาหาร สั่งกาแฟมาทานก่อนครับ มีความชอบลาเต้ร้อนของที่นี่มาก มีความแก้วใสและแก้วใหญ่ เพื่อโชว์เลเยอร์

มีไลน์บุฟเฟ่ต์บ้างเป็นพวกสลัด น้ำผลไม้ โยเกิร์ต ขนมปัง ครัวซองก์ อร่อยมาก จนไม่ต้องทาเนย

มีไลน์ขนมไทย ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิดหรอก แถมมีปาท่องโก๋ด้วย

3 สหาย ตระกูลซีเรียลเอาใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ Granola-Coco Crunch-Cornflake

อาหารที่ทำจานต่อจานครับ อาจจะด้วยผู้เข้าพักไม่เยอะมาก ครัวจึงไม่ค่อยวุ่นวาย live cooking show กันให้ดูไปเลย

เมื่อปรุงเสร็จก็จัดจาน side dish เหล่านี้เราเลือกได้นะครับว่าจะเอาอะไรหรือไม่เอาอะไร บอกพนักงานได้เลย

Egg Benedict

Egg Benedict : the Signature Breakfast of Baba Beach Club Hua Hin เป็น Truffle Sauce เลือกเครื่องเคียงได้ตามอัธยาศัยครับ

อีกเมนูที่อยากแนะนำสำหรับคนไทยคือข้าวต้มกุ้งครับ อร่อยมากกกกกกกกก สามารถไปตักเองได้เลยครับ

ในส่วนของเช้าวันนี้นั้น … มันก็จะฟินๆ หน่อย

ค่อยๆ ใช้เวลาอย่างช้าๆ ในการทานอาหารเช้านี้ ที่ BaBa Beach Club ทุกอย่างแทบจะระงับการเคลื่อนไหว เป็นการหยุดให้เวลากับตัวเองอย่างเต็ม

เมื่อทานข้าวเสร็จ กลับขึ้นมาบนห้อง ขอส่งต่อความประทับใจลง Social Media ทันที แบบว่ามันรอไม่ไหวที่จะเล่าแล้ว

Baba Beach Club Hua Hin เหมาะกับการมาพักผ่อนกับแฟน กับครอบครัว มาสนุกกับเพื่อนๆ มาใช้ชีวิตร่วมกันที่นี่ และไม่ลืมที่จะมีเวลาเป็นส่วนตัว เพื่อซึมซับเอาความรู้สึกและความประทับใจที่ดี กลับบ้านไปให้หมด เพราะสิ่งที่จะได้รับมันครบเครื่องยิ่งเรื่องการเที่ยวทะเล เหมือนจะเคยเห็นว่าทางโรงแรมมีแพคเกจแบบ 3 วัน 2 คืนด้วย คราวหน้าจะลองแบบนี้ดู ราวกับเป็นการเพิ่มอรรถรสของการพักผ่อนร่วมกันให้มากขึ้นไปอีก

ผมเคยเขียนไว้ใน https://goo.gl/eGe5ac ว่าด้วยเรื่องของการค้นหาตัวเองในการทำสิ่งใดก็ตาม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างทาง ระหว่างบรรทัดของโจทย์ชีวิต คำตอบที่คิดว่า ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดคือ การที่เราสามารถตอบในทุกสิ่งที่ทำเราลงไปได้ว่า เราทำไปทำไม …. เพื่ออะไร

“ความสุข” คือ ข้อ ง

เป็นคำตอบสุดท้ายที่ถูกทุกข้อ เหมือนที่ Baba Beach Club Hua Hin เจ้าของ ทีมงานพนักงานทุกคนกำลังทำอยู่ นั่นคือการสร้างความสุขด้วยความสุขและไม่ลืมที่จะ “ส่งมอบความสุข” มายังผู้เข้าพักทุกท่าน ครับ

สรุปโดยรวมแล้ว

ประทับใจในการให้นิยามของคำว่า “พักผ่อนริมทะเล” ได้ค่อนข้างดีและมีระดับ ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของศรีพันวา ทำไว้สูงมาก ทั้งเรื่องคุณภาพและการบริการ เจอพนักงานทีไร เรียกชื่อทักทายตลอด ผมว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่สร้างยากแต่สร้างได้ และที่นี่ สร้างให้มันเกิดขึ้นได้แล้วคือการสร้างจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้บริการ ไม่ว่าคุณจะอยู่แผนกไหนก็ตาม สามารถประสาน รับเรื่อง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีทั้งสิ้น เป็นเหมือนเจ้าบ้านที่คอยดูแลแขกเหรื่อเมื่อมาถึงเรือนชาน อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ต้องยกนิ้วให้ กับ Over Standard and Over Expectation

และที่สำคัญ … อย่าลืมปล่อยใจให้ “อิสระ” ไปกับ Baba Beach Club Hua Hin 

หากใครสนใจ สามารถสอบถามข้อมูลโรงแรมได้ที่ www.facebook.com/BabaBeachClubHuaHin
Tel: +66 32 899 130
E-mail: huahin@bababeachclub.com
Website: www.bababeachclub.com

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน