9H NINE HOUR KYOTO

นอนโรงแรมแคปซูลดีไซน์ล้ำอนาคตที่เกียวโต

พามาเที่ยวที่เกียวโตกันบ้างนะครับ คืนนี้ผมลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนโรงแรมแคปซูลแบบญี่ปุ่นดู

จากที่อ่านข้อมูลมาเล่าว่า สมัยก่อนโรงแรมประเภทแคปซูลนี้จะมีไว้ให้เฉพาะผู้ชายพัก [บางแห่งยังระบุอยู่ว่าพักได้เฉพาะผู้ชาย] แต่สำหรับที่นี่ให้พักได้ทั้งชายและหญิงครับ โดยจะแยกชั้นกันเป็นสัดส่วน เห็นหน้ากันเฉพาะที่ล็อบบี้ เล้าจน์ เท่านั้น


โรงแรมนี้ชื่อ “9h nine hours hotel Kyoto” ครับ ตั้งอยู่บนถนน Teramachi ตัดกับถนน Shijo อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Kawaramachi หรือจะเดินมาจาก Gion ก็ได้ไม่ไกลนักแถมยังอยู่ใกล้ตลาด Nikishi ]และถนนช้อปปิ้งยอดฮิตของนักท่องเที่ยว

ขออนุญาตนำภาพแผนที่มาให้ดูเพื่อเป็นไกด์เดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นครับ

ผมเดินเฉียดโรงแรมหลายวันเพราะมาเดินดูเกอิชาที่กิออน แต่คืนก่อนหน้านี้ผมจองโฮลเทลที่อื่นไว้ (แล้วจะมารีวิวให้คราวหลังนะครับ) กว่าจะได้ฤกษ์เข้าพักที่ 9h สักทีก็ปาเข้าไปวันที่ 3 ของการอยู่เกียวโตครับ!!

โรงแรม 9h จัดวางผังอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาวลึกเข้าไป แต่ความเก๋ไก๋เพิ่งเริ่มต้น ด้วยการดีไซน์พื้นที่เน้นสีขาวออกแนวล้ำหน้าอนาคตยังไงก็ไม่ทราบ การออกแบบจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้เยี่ยมมาก

ตกแต่งเท่ สะอาด เน้นการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ ติดไว้บริเวณต่างๆ อาจจะเป็นเพราะการใช้สีขาวต้องการสื่อถึงความเงียบสงบสงัดไปในตัว

9h มาจากคอนเซปต์ อาบน้ำ 1 ชั่วโมงนอนหลับ 7 ชั่วโมง แล้วก็พักอีกสัก 1 ชั่วโมง เพื่อเดินทางต่อ ที่นี่นอกจากจะมีให้บริการแบบค้างคืนแล้ว ยังมีบริการสำหรับผู้ที่ต้องการงีบแป๊บๆ หรือแค่แวะมาอาบน้ำก็ได้

9h พยายามที่จะอำนวยความสะดวกทุกอย่าง สำหรับผู้ [ผ่าน] มาพัก เช่น มีล็อกเกอร์ให้สำหรับกระเป๋าใหญ่ มีบริเวณให้เล่นเน็ต ถ้าไม่ได้เอาแล็ปท็อปมาเอง ก็มีให้เช่า ล็อกเกอร์ของเราจะเป็นหมายเลขเดียวกับแคปซูลที่เรานอนครับ

ที่นี่ตอนเช็คอินจะแจกสลิปเปอร์คนละคู่ จากนั้นให้เอารองเท้าใส่ตู้ด้านหน้าเคาท์เตอร์ และยังมีล็อคเกอร์ให้อีกในส่วนด้านบนของห้องอาบน้ำ

อ่อ!! ที่นี่จะแยกกันชัดเจนระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงนะครับ

ชั้น 2 และชั้น 3 เป็นส่วนห้องล็อกเกอร์ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำของผู้หญิง โดยชั้น 4-5 จะเป็นส่วนพักอาศัยของผู้หญิง

ส่วนของผู้ชายจะพักชั้น 6-7 ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่ชั้น 9 ต้องขึ้นลิฟต์ไปครับ และยังแบ่งโซนล้างหน้า แปรงฟัน มีบริการโต๊ะกระจก ไดร์เป่าผมให้ด้วย

ตอนที่ผมไป ผมพักห้องนี้ครับ เป็นห้องแบบ 25 แคปซูล

ผมได้หมายเลข 712 ผมจองเตียงล่าง เนื่องจากเตียงบนต้องปีนขึ้นลงตลอด อาจจะไม่สะดวกเผื่ออยากเข้าห้องน้ำตอนดึก

ที่สำคัญมีบริการชุดนอน!! ให้ด้วย ใส่แล้วเดินมาคุยกันข้างล่าง แต่งตัวเหมือนกันทั้งโรงแรม!! เหมือนคนกลุ่มเดียวกันมารวมตัวกันทำอะไรสักอย่าง มันเก๋ไก๋ปลายสัปดาห์มากอ่ะ!!

มาดูห้องอาบน้ำกันบ้าง ต้องขึ้นไปชั้น 9 [เราควรหยิบของใช้ส่วนตัวจากกระเป๋าเดินทาง ซึ่งฝากไว้ที่ห้องล็อคเกอร์ด้านล่าง ขึ้นมาด้วยทีเดียวเลยนะครับ]

ห้องอาบน้ำรวมแยกห้องกันเป็นสัดส่วน จะมีส่วนแห้งส่วนเปียก แถมด้านหลังจะมีประตูกระจก [ฝ้า] ปิดไ้ว้ครึ่งตัว ก้มเก็บอะไรไม่ได้เลยนะ

ด้านหลังห้องน้ำจะเชื่อมทุกห้องเข้าหากันไปตามทางเดินเล็กๆ ข้างหลัง … เพื่อไปออนเซ็นยังอ่างแช่น้ำครับ เผื่อใครอยากนอนแช่
แบบนี้พี่ยุ่นแกชอบมาก!! ตามสไตล์เค้าเลยหละ

ห้องอาบน้ำมีบริการแชมพู ครีมนวดผมและครีมอาบน้ำ สูตรเฉพาะของทางโรงแรม ถ้าติดใจก็ขอซื้อได้นะ [ส่วนตัวไม่ชอบกลิ่น แต่อาบแล้วรู้สึกสะอาดมาก อันนี้ถูกใจ] นอกจากนี้ ยังมีบริการแปรงสีฟันยาสีฟันให้ด้วย เอากับเค้าซิ๊!!

อาบน้ำเสร็จแล้ว เข้าไปดูในโรงนอนกันดีกว่า เปิดประตูไปแทบช็อค เป็นแคปซูลนอนเรียงกันเต็มไปหมด สวยงามมาก ยังกับฉากในยาน Enterprise ของ Star Trek หรือพวกหนัง Sci-Fi ทั้งหลาย เก๋ไก๋ปลายเดือนเลยล่ะงานนี้

ยัง ยังไม่จบ ความเก๋ไก๋ เท่ห์ เฉี่ยว เปรี้ยว ล้ำ ยังมาในรูปแบบของหมอนนอน ซึ่งข้อมูลจากในเวปของ 9h โฆษณาว่าเป็นหมอนที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการนอนทำให้หลับสบาย หมอนจะทรงยาวๆ ไม่แข็งไม่อ่อน คล้ายๆ หมอนเปลือกโซบะ กำลังดีไม่แข็งไปไม่อ่อนไป
ใบละ 18,000 เยน [ไม่รวม TAX]

ผมชอบมากเลยหมอนของที่นี่ แต่ด้วยความที่แบกเป้ไป จึงไม่สามารถแบกหมอนกลับมาได้

แต่เดี๋ยวก่อน!! ถ้าคุณคิดว่าหมอนคือที่สุดของโรงแรมนี้ ผมขอแนะนำ ระบบแผงคุมหัวเตียงของ 9h ซึ่งจะอำนวยความสะดวกด้วยปลั้ก แถมยังมีโหมด Sleep Ambience ให้เลือก ถ้าเลือกโหมดนี้ก่อนนอน สักพักหนึ่งไฟดวงที่อยู่เหนือศรีษะจะจะค่อยๆ หรี่จนมืดสนิท หรือถ้าไม่ตั้ง Sleep Ambience ก็ดับไฟนอนได้เลย โป๊ะ!!

ส่วนการตั้งนาฬิกาปลุก ก็ออกแบบได้อย่างเก๋ไก๋ซุปเปอร์กู๊ด เป็นการปลุกแบบใช้แสง-ไม่ใช่เสียง หากตั้งปลุกเอาไว้ที่แผงควบคุม เมื่อถึงเวลาไฟจะค่อยๆ สว่างขึ้นจนมันแยงตาเราให้ตื่นเอง เจ๋งค่อดๆ!!

จากนั้นก็เข้านอนครับ ตามกฎของโรงแรมแคปซูลหรือแม้แต่โฮสเทลส่วนมากก็จะมีกฎประมาณนี้ เช่น ห้ามส่งเสียงดัง หากจะคุยโทรศัพท์ต้องออกไปคุยนอกส่วนห้องพัก และให้เปิดระบบสั่นเอาไว้เพื่อป้องกันเสียงรบกวนผู้อื่น, ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มมาทานบนเตียงนอน กรุณาทานที่เล้าจน์หรือคิชเช่นส่วนกลางเท่านั้น, ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้า และห้ามสูบบุหรี่ครับ

ปิดท้ายด้วยเซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะผมดันจองแบบรวมอาหารเช้ามา เมื่อตอนเช็คอิน พนักงานได้ยื่น Starbucks Card ให้หนึ่งใบพร้อมกับบอกว่า “นี่คืออาหารเช้าของคุณ” 
ในการ์ดมีเงินอยู่ 1,000 เยนครับ หรือประมาณ 350 บาท คุ้มสุด!!
โอ๊ะ!! สุโค่ย!!

โรงแรม 9h เอาไปเลย 10 10 10!!

 

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน