Waan Thai

เมื่อครั้งที่ไปดินเนอร์ร้าน R-Haan (อาหาร) ร้านมิชลินสตาร์ 2 ดาว ตรงทองหล่อซอย 9 (ย้อนไปอ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ >> bit.ly/KANT_R_HAAN ) ผมสังเกตเห็นว่าด้านข้างกำลังตกแต่งเพิ่มเติม ถามพนักงานได้ความว่าเตรียมจะเปิดเป็นร้านขนมไทยสไตล์โมเดิร์นทวิสต์ … ฟังดูน่าสนใจดีครับ
.
จังหวะที่เพิ่งกลับจากทริปญี่ปุ่น ได้มาทำธุระแถวทองหล่อพอดี ขับรถผ่านหน้าร้าน เห็นมีลูกค้ามานั่งกันเยอะเลยขอแวะสักหน่อย จุดแรกเลยที่ชอบคือจอดรถสะดวก (เรารู้กันดีว่าทองหล่อหาที่จอดรถยากมาก) แต่ที่ร้านมีบริการ Valet ยื่นกุญแจให้พนักงานแล้วเดินเข้าร้านได้เลย
.
ตัวร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นไทยร่วมสมัย ภายในดูโปร่งสบายน่านั่ง ด้วยความที่เพดานสูงแบบ Double Volume ใช้กระจกเข้ามาประดับ ทำให้ข้างในดูกว้างขวาง บรรยากาศผ่อนคลาย จัดวางที่นั่งไว้ทั่วร้าน เลือกใช้สีโทนอ่อนค่อนไปทางพาสเทลหวานๆ แต่ดูจะเข้มกว่าเล็กน้อย ละมุนใจมาก
.
จริงๆ คอนเซ็ปต์คือภูมิปัญญาขนมไทยและอาหารไทยโบราณ แต่ผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์ตามสไตล์ร้านศิษย์พี่ที่ได้รางวัลมิชลินสตาร์ ทำให้บางเมนูผมแทบจะจำหน้าตาดั้งเดิมไม่ได้เพราะเชฟใช้เทคนิคที่ล้ำมาก ครีเอทขนมขึ้นมาน่ารักดี เรียกว่าเป็น “ขนมไทยและอาหารไทยโบราณในสำรับใหม่” รสชาติอร่อย หน้าตาสวยดี ถ้าถ่ายรูปลง IG ผมว่าได้คอนเทนต์แน่นอน
.
กานต์ลองสั่งมาทานหลายเมนูเลยครับ แต่ที่ชอบคือ “มิลล์เฟยหม้อแกงเผือกหอมเสิร์ฟพร้อมซอร์เบท์เสาวรส” เป็นจานที่ผมว่าอร่อยได้รสชาติขนมหม้อแกงโบราณเมืองเพชรแต่พรีเซนต์เทชั่นเป็นสไตล์ฝรั่งเศส มันเก๋ตรงนี้
.
ส่วนชุด Waan Thai High Tea ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดครับ มาพร้อมกับ Dessert 4 อย่างและ Savoury อีก 4 อย่าง เลือกได้ว่าจะรับเป็นกาแฟหรือชา ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่เสิร์ฟชาพรีเมี่ยมจากสิงห์ปาร์คเชียงรายเป็นหลัก แต่ก็มีชาจากแหล่งที่มาอื่นๆ ให้เลือกด้วย
.
เอาจริงผมว่าตัวร้านได้ฟีลร้านชาแบบในโรงแรมหรู 5 ดาวเลยนะครับ แต่พอเราเข้ามาในร้านหวานไทยจะให้รู้สึก Comfy กว่า เหมาะสำหรับมานั่งจิบชา ทานขนมหวานอร่อยๆ เม้าท์มอยคุยกันสนุกสนานยามบ่าย มานั่งได้ตั้งแต่ 11 โมงเช้า ยาวไปจนถึง 5 โมงเย็นเลยครับ ถ้าหิวก็มีอาหารไทยจานเด็ดไว้ให้สั่งด้วยเช่นกัน
.
ไปชมภาพและอ่านเรื่องราวของร้านหวานไทย (Waan Thai) ขนมไทยและอาหารไทยโบราณที่ทางร้านจับมาแต่งตัวใหม่ในสไตล์สาวปารีเชียงเก๋ๆ กันต่อด้านในแคปชั่นดีกว่าครับ

ตัวร้านหวานไทย (Waan Thai) จะตั้งอยู่ที่เดียวกับร้านอาหาร (R-Haan) ร้านไฟน์ไดนิ่งระดับ 2 ดาวมิชลินที่คุณต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี ร่วมกับเชฟชุมพล แจ้งไพร สร้างสรรค์ขึ้นมา

ไอเดียต่อยอดนี้น่าสนใจนะ ผมว่าไหนๆ แล้วคุณต๊อดตั้งใจจะส่งเสริมภูมิปัญญาอาหารไทยก็ต้องไปให้สุด ชูจุดขายของขนมไทยและอาหารไทยโบราณหาทานยาก นำมาทวิสต์ ตีความใหม่และนำเสนอให้ดูโมเดิร์นขึ้น แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทยเอาไว้

กานต์เลือกที่นั่งเป็นโซฟาครึ่งวงกลมด้านใน ให้ความเป็นส่วนตัวดี บรรยากาศด้านในร้านโปร่งสบายด้วยเพดานสูงและมีกระจกประดับโดยรอบ

ร้านอยู่ทองหล่อซอย 9 หรือเข้าทางซอยสุขุมวิท 53 ก็ได้เช่นกัน

เปิด 11 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น

การตกแต่งร้านในสไตล์ร่วมสมัย ดูโมเดิร์นนั่งสบายไม่ต้องเกร็ง แต่ยังคงเสน่ห์ความเป็นไทยเอาไว้เห็นได้จากลายไทยที่กระเบื้อง เพดานที่วาดลวดลายไทยหรือการประดับตกแต่งภายใน และที่ขาดไม่ได้คือดอกบัวครับ

ด้านในสุดยังมีห้องส่วนตัวประมาณ 10-12 ที่นั่งสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศคุยงาน นัดประชุมเป็นกลุ่มใหญ่ ทานขนมไปพูดคุยกันไปในบรรยากาศสบายๆ ครับ

เราสามารถแสกนดูเมนูได้จาก QR ที่ตั้งไว้บนโต๊ะได้เลย มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวานและมีอาหารจานเดียวให้เลือกด้วยเผื่อใครหิวๆ มา อยากจะเริ่มจากมื้อหนักช่วงกลางวันแล้วต่อกันด้วยขนมหวาน จิบชายามบ่าย

ในระหว่างที่รอเพื่อนมาแจม ผมสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาจิบก่อนเลยครับ

ผมถามพนักงานว่ามีเครื่องดื่มแก้วไหนที่เป็น Signature ของทางร้าน ก็ได้คำแนะนำว่าเป็นเครื่องดื่มชื่อว่า “ละมุน” มาครับ

เป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมไทย ที่จะให้ความรู้สึกหวานๆ นุ่มๆ ละมุนสมชื่อ จิบแล้วสดชื่นดีครับ ด้านบนท๊อปด้วยฝอยทองดูเก๋ดี

แก้วนี้อร่อยและถ่ายรูปสวยด้วยครับ

Signature Drinks อีกแก้วที่ผมว่าน่าสนใจคือ “Orange Mint” เครื่องดื่มคลายร้อนจากทางร้าน เป็นน้ำส้มคั้นสดมิกซ์กับสิงห์เลมอนโซดาได้ความสดชื่นซาบซ่าและความหอมของใบมิ้นท์สด ผมว่าเป็น Classic Mocktail ที่เข้ากันดีสำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเราครับ

จากนั้น เราสั่งเป็น Waan Thai High Tea สำหรับ 2 ท่าน ก่อนอื่นพนักงานจะให้เราเลือกชาครับ มีให้เลือกเยอะมากทั้งชาไทยและชาเทศ แน่นอนว่า ชาพรีเมี่ยมจากสิงห์ปาร์คเชียงรายก็มีให้เลือกด้วยนะครับ

ผมเลือกเป็นชา Mariage Freres ชาอันดับหนึ่งของโลกจากฝรั่งเศส ซึ่งที่หวานไทยก็มีเสิร์ฟให้เช่นกันครับ หรือหากใครไม่อยากดื่มชา สามารถเลือกเป็นกาแหรือว่าโอเลี้ยงก็ได้ครับ

ในส่วนของ Waan Thai High Tea ใครที่มาคนเดียวก็สั่งได้นะครับเพราะมีให้เลือกทั้งแบบสำหรับ 1 คน และสำหรับ 2 คน ซึ่งเมนูในเซ็ตจะเหมือนกันทุกอย่าง ต่างเพียงตรงที่จำนวนขนมที่มาในเซ็ตเท่านั้น

พนักงานจะเสิร์ฟชามาพร้อมกับ ของหวาน (Dessert) 4 อย่างคือ เค้กกะทิสดมะพร้าวน้ำหอม, ดาราทองหวานไทย, ช็อคโกแลตเชียงใหม่ไส้ชาไทย และขนมเบื้องเสวย

ส่วน Savoury หรือของคาวมี 4 อย่าง เช่นกัน ได้แก่เครปผัดไทย, ทอดมันฝรั่งต้มยำกุ้ง, ขนมครกคาร์เวียร์ และข้าวเกรียบปากหม้อไส้เห็ดรวม

เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะมากครับทั้งชา กาแฟ โอเลี้ยง Soft Drinks น้ำผลไม้ น้ำสมุนไพร Mocktail เบียร์ Signature Cocktail ก็มีให้เลือกเช่นกัน

ผมสั่งขนมตัวที่เป็นไฮไลท์ไม่อยากให้พลาดมาลองชิมมาหลายเมนูเลยครับ จะได้ตามรอยกัน

เริ่มจากจานนี้ เห็นพรีเซนเทชั่นแล้วดูเก๋ มีความเป็นไทยสมกับเป็น King of Fruit นั่นก็คือ “ชีสเค้กทุเรียนหมอนทองของไทย” กลิ่นทุเรียนคือแรงแต่หอมมาก (ใครไม่รักก็เกลียดเลยนะ 555)

แต่ผมชอบทุเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สามารถทานหมดได้ในทันที มีความละมุนของครีมชีสสดและเนื้อทุเรียนที่ปั่นรวมกันจนเนียนเป็นเนื้อเดียว เสิร์ฟมาเป็นรูปโดมสีทองวางลงบนแป้งทาร์ตบางๆ กรุบกรอบ เป็นสูตรพิเศษของทางร้านหวานไทย ตกแต่งโดมด้วยเกล็ดมะพร้าวขูดอบกรอบเพื่อเพิ่ม Texture ในการรับประทาน ผมว่าเมนูนี้สุดยอดมากเลยครับ

ขนมหวานจานต่อมา ผมไม่ชอบ … แต่รักเลยครับ เป็นเมนู “มิลล์เฟยหม้อแกงเผือกหอมเสิร์ฟพร้อมซอร์เบท์เสาวรส”

เชฟนำความเป็นไทยไปทวิสต์กับขนมอบของฝรั่งเศสได้อย่างน่าสนใจ ได้รสชาติของหม้อแกงเผือกที่หอมนุ่มมาก ผสานสัมผัสความกรอบบางของแป้งพัฟหลายชั้น เติมความหวานจากน้ำตาลโตนดเล็กน้อย เพิ่มความกรอบด้วยเผือกฉาบด้านบน ทานคู่กับซอร์เบท์เสาวรสที่มีความเปรี้ยวนิดๆ คอยตัดเลี่ยนได้ดี

กัดเข้าไปคำแรกก็รู้สึกถึงความกรอบหอมหวาน รสชาติอร่อยกินง่าย ตักได้เรื่อยๆ แปบเดียวหมดจานครับ

“ทับทิมสยามหวานไทย” อัญมณีแห่งขนมไทยที่เสิร์ฟมาในกะลามะพร้าว เมนูนี้พรีเซนเทชั่นผมให้คะแนนเต็ม 10 เพราะมีเทคนิคการเสิร์ฟที่เก๋มาก จากไอน้ำแข็งแห้งด้านล่าง

ส่วนรสชาติให้ 11 เพราะอร่อยเด็ดเกิน ด้านในเป็นทับทิมกรอบจากเผือกเม็ดใหญ่ (บ้านนี้รวย) เติมน้ำเชื่อมมาให้เล็กน้อย ทานกับไอศกรีมกะทิสดจากมะพร้าวทับสะแก ผมแนะนำว่ารอให้ละลายสักนิด ค่อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน มันดีมาก

ช็อกโกแลตของร้านหวานไทยก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจ ทำออกมาเป็น 4 แบบคือ

ช็อกโกแลตเชียงใหม่ไส้ชาไทย
ช็อกโกแลตเชียงใหม่ไส้กาแฟเย็นวิสกี้
ช็อกโกแลตเชียงใหม่ไส้กระชายดำบรั่นดีไทย
ช็อกโกแลตเชียงใหม่ไส้ลิ้นจี่จุฬาลงกรณ์

ด้านในมีตู้โชว์ขนมด้วยครับ สามารถเดินมาดูหน้าตาก่อนได้ หรือหากใครทานที่ร้านแล้วติดใจ ก็สั่งกลับบ้านได้เช่นกัน

ขนมหน้าตาน่าทานเยอะมากครับ ผมสังเกตว่าลูกค้าสั่งกลับบ้านเยอะอยู่เหมือนกันนะ

นอกจากนี้ ทางร้านหวานไทยยังมีเมนูอาหารให้ทานด้วยครับ เป็นอาหารไทยเสิร์ฟแบบจานเดียว ทานง่าย (แต่บางเมนูหาทานยาก) ผมสั่งเป็น “หมี่กรอบชาววังกุ้งแม่น้ำ” เนื้อกุ้งเด้งฉ่ำ ทานแล้วเข้ากันดีกับหมี่กรอบที่คลุกซอสให้หวานซ่อนเปรี้ยวคล้ายผัดไทกุ้งสดแต่อร่อยกว่ามาก

ส่วนอีกจานเป็น “ขนมจีนน้ำพริกชาววัง” รสชาติแบบครบเครื่อง เป็นเมนูที่จะหาร้านดีๆ ทำอร่อยๆ ทานได้ยากเช่นกัน ต้องมาลองทานที่ร้านหวานไทยดูครับ

ร้านหวานไทย (Waan Thai) ยังมีอีกหลายเมนูของหวานที่น่าสนใจ แต่สั่งมากินไม่ไหวแล้ว เล็งไว้ว่าต้องมีมาต่อภาค 2 แน่นอนครับ เพราะผมยังไม่ได้สั่ง “บ้าบิ่นมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว” จานนี้อยากกินมาก แต่ไปถึงที่ร้านคือหมด อดเลยครับ เศร้ามาก “ข้าวเหนียวมะม่วงหวานไทย” จานนี้เคยทานที่ร้านอาหารมาแล้วแต่ยังชอบและติดใจมาจนถึงตอนนี้ ใครไปที่ร้านหวานไทยผมแนะนำให้สั่งเลยครับ

“ไอศกรีมกะทิสดกับกล้วยไข่เชื่อมน้ำผึ้ง” อ่านชื่อแล้วก็คิดว่าน่าสนใจ เดี๋ยวครั้งหน้าต้องไม่พลาด เช่นเดียวกับ “เปียกปูนมะพร้าวน้ำหอมรมควัน” ผมจดใส่ลิสต์เอาไว้แล้ว

ผมว่าหวานไทยเป็นร้านขนมไทยสไตล์โมเดิร์นที่มานั่งทานง่าย ในบรรยากาศสบายๆ ใจกลางเมือง ร้านอยู่ทองหล่อซอย 9 หรือเข้าทางซอยสุขุมวิท 53 ก็ได้เช่นกัน ฟีลเหมือนไปทานร้านขนมในโรงแรมหรู แต่ที่นี่ผมว่าดูจะสะดวกกว่ามาก จอดรถปุ๊บ Valet ปั๊บ เดินเข้าร้าน สั่งเครื่องดื่มขนมมาทานได้ในทันที

เปิด 11 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น จองที่นั่งได้ที่ โทร 094-215-3945, 094-215-4156 หรือแอดไลน์ @waanthaidessert

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน