The City Bangna 3

“𝐋𝐢𝐟𝐞 𝐢𝐬 𝐚 𝐛𝐥𝐚𝐧𝐤 𝐜𝐚𝐧𝐯𝐚𝐬, 𝐚𝐧𝐝 𝐲𝐨𝐮 𝐧𝐞𝐞𝐝 𝐭𝐨 𝐭𝐡𝐫𝐨𝐰 𝐚𝐥𝐥 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐚𝐢𝐧𝐭 𝐨𝐧 𝐢𝐭 𝐲𝐨𝐮 𝐜𝐚𝐧.”.― Danny Kaye ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกันเคยพูดไว้แบบนั้น

กานต์คิดว่าเป็นประโยคที่มีความหมายและใช้ได้จริงเลยครับ ชีวิตเปรียบเสมือนผืนผ้าใบที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง องค์ประกอบอื่นไม่ว่าจะเป็นตัวเรา ครอบครัว หน้าที่การงาน เพื่อนฝูง ญาติมิตร บ้าน ออฟฟิศ งานอดิเรกและอีกมากมาย ล้วนเป็นดินสอสีที่รอให้เราบรรจงวาดหรือสาดบรรเลงไปตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน จนออกมาเป็นภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราวแตกต่างกันไป

ที่อยู่อาศัยก็เช่นกันครับ บ้านก็เปรียบเหมือนผืนผ้าใบที่มีชีวิตซึ่งบรรยายเรื่องราว รวบรวมและสะท้อนตัวตนภายในของเราในทุกมุม

ทุกเฉดสีและทุกองค์ประกอบภายในพื้นที่อยู่อาศัย องค์ประกอบของสถาปัตยกรรม ศิลปะ วัฒนธรรม สไตล์และปรัชญาที่หลากหลายรวมตัวกันภายในบ้านของเรา จึงพร้อมที่จะสะท้อนออกไปสู่โลกภายนอก

สถาปัตยกรรมจึงไม่ใช่แค่การออกแบบทางกายภาพ แต่ยังเป็นรูปแบบของการแสดงออกทางศิลปะที่สื่อถึงอัตลักษณ์บุคคลที่แตกต่างกันไป เช่น คนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน อาจเลือกสร้างบ้านด้วยวัสดุรีไซเคิล มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน ส่วนผู้ที่ต้องการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อาจเลือกออกแบบบ้านที่มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงและวิวได้เพียงพอ

โครงการใหม่ที่กานต์จะพาไปชมกันในพาร์ทนี้มีคอนเซปต์ที่พูดถึงพื้นที่สีเขียว NATURE ARCHITECH DESIGN ท่ามกลางทำเลถนนบางนา-ตราด ที่เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางแห่งความสะดวกสบาย การเดินทางที่ไร้รอยต่อสู่ใจกลางเมืองด้วยทางด่วนบูรพาวิถี หรือจะเชื่อมต่อสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ด้วยถนนวงแหวนรอบนอกก็ทำได้อย่างง่ายดาย

แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือความอุดมสมบูรณ์รอบด้านที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในย่านนี้ เพียงไม่กี่นาทีคุณก็สามารถดำดิ่งสู่โลกแห่งการช้อปปิ้งที่ เมกาบางนา (Mega Bangna) ที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า แต่คือแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า โรงภาพยนตร์ และแหล่งบันเทิงมากมาย นอกจากนี้ยังมี IKEA, โฮมโปร (HomePro) และแหล่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน

สำหรับครอบครัวที่มีลูกหลาน ที่นี่ก็รายล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ อาทิ โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน (Concordian International School) และ โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา (Bangkok Patana School) โรงเรียนนานาชาติดิษยะศริน (D-PREP) โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ และยังอุ่นใจด้วยการเข้าถึงโรงพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (Princ Hospital Suvarnabhumi) โรงพยาบาลศิครินทร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณ

และครอบครัวได้อย่างแท้จริง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://apthai.ly/ElCUkm

#APThai#APHome#APLivingseries#บ้านเดี่ยวAPบ้านที่เข้าใจชีวิต#APbeyondSPACE#THECITY#THECITYBANGNA3

จุดเด่นที่ทำให้ The City บางนา 3 แตกต่างอย่างสิ้นเชิงคือพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่น (Flexible Space) ที่เจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำเป็นห้องทำงานส่วนตัว ห้องออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งห้องเล่นเกมสำหรับลูก ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่นี่ไม่ได้มองบ้านเป็นแค่สิ่งปลูกสร้าง แต่เป็นพื้นที่ที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับผู้อยู่อาศัย
การออกแบบของ The City บางนา 3 เป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความอบอุ่นได้อย่างลงตัว สถาปัตยกรรมภายนอกดูเรียบหรูเหนือกาลเวลา แต่ภายในบ้านกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกของการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
การจัดสรรพื้นที่ถูกคิดมาอย่างดีเพื่อให้ทุกตารางนิ้วสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวบ้านได้รับการออกแบบให้มีหน้าต่างบานใหญ่และช่องแสงที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาเติมเต็มทุกพื้นที่ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่ง โล่งสบาย และช่วยลดการใช้พลังงานในเวลากลางวัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่น (Flexible Space) ที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างห้องสมุดส่วนตัว ห้องทำงาน หรือมุมสงบสำหรับฝึกโยคะในยามเช้า
การตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการ
The City บางนา 3 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเลือกที่อยู่อาศัย แต่เป็นการตัดสินใจที่จะลงทุนในอนาคตที่ดีกว่า ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
เราขับรถมาเรื่อยๆ สามารถลัดเลาะผ่านเมกาบางนาใช้เวลาไม่นานก็จะพบกับโครงการ The City บางนา 3 มีป้ายขนาดใหญ่บอกชื่อโครงการเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล Main Gate เข้าออกโครงการเป็นซุ้มประตูในสไตล์ Modern Tropical Contemporary ที่ให้อารมณ์เรียบหรู รอบด้านเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้สีเขียวสบายตา ด้านหน้ามีน้ำพุเพิ่มความสดชื่น ได้บรรยากาศสไตล์รีสอร์ต ประตูทางเข้าออกควบคุมด้วยระบบ KATSAN นวัตกรรมความปลอดภัยจาก AP ที่มาพร้อมความสะดวกสบาย
ไม่เพียงแต่การอ่านป้ายทะเบียน แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกบ้าน AP ด้วยระบบการแจ้งเตือนที่เหนือกว่าผ่าน Katsan Application พร้อมทั้ง Fuction ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน อาทิ ค้นหาทะเบียนรถ ลงทะเบียนล่วงหน้าด้วย E-Stamp เป็นต้น ส่วนแขกที่มาติดต่อลูกบ้านจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ในช่องทางขวาก่อนครับ มีประตูเล็กเป็นเหล็กสีดำสำหรับคนเดินเข้าออก มีป้อมยามอยู่ตรงกลางโดยมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วโครงการ
การมีบ้านใน The City บางนา 3 จึงเป็นมากกว่าการมีบ้าน แต่เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับชีวิตในอนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาสและสิ่งดีๆ
สามารถใช้โถงทางเดินยาวที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านในสุดได้ในการเปลี่ยนเสื้อผ้าและพื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระ ทำให้สะดวกและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังสามารถเก็บของและเสื้อผ้าไว้ใน Locker ในห้องน้ำได้อีกด้วย ห้องน้ำและโถงทางเดินมีขนาดใหญ่ออกแบบให้รองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์ได้สะดวกเลยครับ เพราะ Clubhouse ได้รับการออกแบบโดยใช้หลักการ Universal Design คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
Clubhouse ออกแบบทำให้สัมผัสได้ถึงความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังจัด Landscape เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียว
โอบล้อมอาคารเอาไว้และช่วยทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวขณะเข้าใช้บริการ

ด้านหน้าโดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำสีฟ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ขนานไปตามแนวถนนหลัก ท่ามกลางพื้นที่สวนสีเขียวและไม้ดอกหลากสี หลายสายพันธุ์ที่คอยชูช่อรอทักทายเราตลอดเวลาเมื่อขับรถกลับเข้ามาบ้าน สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่มากสามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง เป็นสระระบบเกลือ พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนั่งรอเด็กๆ ที่กำลังเล่นน้ำสนุกสนานได้สบายเลยครับ

หากมาว่ายน้ำช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็ถือว่าเป็นเวลาดีในการออกกำลังกาย บริเวณสระว่ายน้ำจะร่มรื่น เพราะมี Main Gate ช่วยบังแดดเอาไว้ สำหรับลูกบ้านที่มาใช้ บริการสระว่ายน้ำ 
จาก Main Gate ขับรถต่อเข้าไปด้านใน ถนนสายหลักมีความกว้าง 12 เมตร Clubhouse ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการเรียกได้ว่าเมื่อขับรถเข้ามาก็จะเจอ Clubhouse ตั้งเด่นเป็นสง่าช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับแขกที่มารอพบได้ทันที ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและสร้างความปลอดภัยของผู้พักอาศัย หากมีแขกมาพบก็สามารถนัดหมายที่ Clubhouse ได้โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าไปภายในตัวบ้าน ออกแบบให้มีลานกว้างและพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือน 
ด้านใน Clubhouse จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเป็นห้องโถงใหญ่ เรียกว่า Leisure Lounge มีพื้นที่กว้างขวาง ดูหรูหรา โอ่โถง โดยรอบผนังประดับด้วยกระจกใสเปิดช่องแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน 
ส่วนชั้นบนเป็น Gym ซึ่งก็มีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเตรียมไว้อย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio มีทั้ง Treadmill, Elliptical และ Spin Bike กานต์ชอบรายละเอียดของการจัดวางเครื่องออกกำลังกาย ให้เราได้ปั่นจักรยานหรือวิ่งบนลู่ไฟฟ้า ไปพร้อมกับการชมวิวต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ภายนอกอาคารไปด้วย ช่วยให้เราหายเหนื่อยได้ดีมากเลยครับ
รวมถึงเตรียม Gym Ball Yoga Mat และที่เก๋สุดๆ ถูกใจคุณสาวๆ เราว่าน่าจะเป็นการติดตั้งเครื่อง Pilates เอาไว้ให้แล้ว
ท่ามกลางวิวสวนสีเขียวขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นล่าง
สวนขนาดใหญ่มาพร้อมกับสนามเด็กเล่นและ Jogging Path ให้เราได้ใช้เวลาในช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือจะเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานในการออกกำลัง วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ หรือใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้งที่ติดตั้งไว้ให้
ออกแบบให้มีพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ มีสนามหญ้าให้ได้มาทำกิจกรรม วิ่งเล่น นั่งปิคนิกในสวนหรือจะตีแบดมินตันกันเบาๆ ก็ได้เช่นกัน
เราสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นบริเวณสวนได้ เพราะออกแบบให้มี Pet Park หรือจะมาทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างคุณพ่อ คุณแม่กับเด็กๆ ก็สนุกสนานดีเหมือนกัน สามารถมานั่งปิคนิก อ่านหนังสือหรือออกกำลังกายกลางแจ้งเช่น โยคะ เมดิเทชั่นได้
พื้นที่ส่วนหนึ่งจัดเป็น Children’s Playground ขนาดใหญ่ โดยความตั้งใจคือต้องการให้เด็กๆ ได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสเรียนรู้อยู่กับธรรมชาตินอกบ้าน ออกมารับวิตามินดีให้กับร่างกายบ้าง มีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งขนาดใหญ่พร้อม ม้าโยกและสไลเดอร์สำหรับปีนป่ายเน้นให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกกัน ได้ปลดปล่อยและใช้ชีวิตสมวัยในแบบที่ต้องการได้เต็มที่
มาชมบ้านตัวอย่างกันบ้างครับ เราเริ่มจากภาพรวมของงานดีไซน์ที่โดดเด่นกันก่อน บ้านทุกหลังได้รับแรงบันดาลใจจาก Nature Architech ที่ให้ความรู้สึกถึง ธรรมชาติและความเรียบง่ายเข้าไว้ด้วยกัน
เราจึงได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กรอบบัวอาคารที่เน้นช่องหน้าต่างและประตู การใช้เส้นสายที่มีความมั่นคง เหล็กสีดำทำให้บ้านดูมีความเป็นยุโรปมากขึ้น ตลอดจนการเลือกใช้สีหลักคือ White & Grey ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบ้าน The City บางนา 3
โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ เริ่มจาก แบบบ้าน VERIDA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 3 ที่จอดรถ
ลำดับต่อมาคือแบบบ้าน BREEZEBORNE พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 326 ตร.ม. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
แบบบ้านต่อมาคือ PETRICHOR พื้นที่ใช้สอย 396 ตร.ม. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องรับประทาน / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
ส่วนบ้านที่เห็นอยู่นี้คือบ้านตัวอย่างที่เราจะพามาชมกันชื่อว่า ORYNTHIA เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่สุด พื้นที่ใช้สอย 458 ตร.ม. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องรับประทาน / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับโถงกว้างชั้นล่างขนาดใหญ่
ชั้นล่างมีห้องนอนผู้สูงอายุ
ถัดมาเป็นพื้นที่ของ Dining Area จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ขนานไปกับความกว้างของตัวบ้านรองรับการใช้งานได้มากถึง 10-12 คนหรือจะทำเป็น Long Table ก็ยังไหว
ติดกันด้านในสุดเป็นครัวไทย ด้านหน้ามีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหารลักษณะเป็น Pantry พร้อมเก้าอี้สตูลสำหรับนั่งทานอาหารเช้าเบาๆ สำหรับเด็กๆ ก่อนไปโรงเรียน ส่วนเราขอเป็นกาแฟกับขนมปังสักชิ้นก็พร้อมลุยกันต่อแล้วครับครัวไทยอยู่ถัดเข้าไปด้านใน แยกสัดส่วนเป็นห้องปิดจะได้หมดปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวน
โถงบันไดสูงโปร่งประดับด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลทองอร่าม ทอแสงอ่อนโยนจากเพดานสูง สร้างบรรยากาศที่สง่างามแต่แสนอบอุ่น ราวบันไดเหล็กดัดสีดำดีไซน์ทันสมัยตัดกับขั้นบันไดไม้สีอ่อน สะท้อนรสนิยมอันเหนือระดับของเจ้าของบ้าน เป็นภาพที่กานต์ประทับใจมาก
ชั้นบนเราว่าฟีลลิ่งค่อนข้างโปร่งโล่งสบาย เพราะมีประตูกระจกเปิดออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ เราสามารถปลูกไม้กระถางเพิ่มได้ หรืออยากจะแนะนำให้หาเก้าอี้โยกเป็นไม้ดีไซน์วินเทจเก๋ๆ สักตัวมาวาง เพื่อจะได้นั่งเล่นรับลมชมวิว อ่านหนังสือหรือว่าจิบกาแฟยามเช้าหลังตื่นนอน
ข้อดีของการแยกฟังก์ชันทำให้เราสามารถรับแขกที่ชั้นล่างได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นการรบกวนสมาชิกคนอื่นที่อยากพักผ่อนหรือดูทีวีอยู่ที่ชั้นบน ออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัว ทำการบ้าน นั่งอ่านหนังสือหรือนั่งคุยกันก่อนนอนที่มุมนี้ได้
ฝั่งตรงข้ามมีห้องอเนกประสงค์ที่ให้เราปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตรงใจ
Master Bedroom
ด้านซ้ายเป็นในส่วนของตู้เสื้อผ้าทางโครงการจัดให้ดูเป็น Build-in Wardrobe เชื่อมต่อกับโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ตรงกลาง มาพร้อมกับกระจกตู้สีชาช่วยให้ห้องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ไอเดียในการติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่รอบห้องเพื่อให้เราได้ใช้พื้นที่ส่วนตัวอย่างเต็มที่ เราเชื่อเลยว่าคนที่รักในการแต่งตัวแล้วออกไปปาร์ตี้จะชอบห้องนอนนี้มาก
Master Bathroom จะอยู่ฝั่งตรงข้ามภายในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างขวาง แยกส่วนการใช้งานแบบเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her ที่มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่และกระจกเงาสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มบานขนานไปกับตัวห้อง ใกล้กันเป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติ และอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
ห้องนอนรองห้องถัดมาออกแบบมาสำหรับลูกชายที่มีความเท่ๆ แบบวัยรุ่น เน้นการเลือกใช้สีสันของเฟอร์นิเจอร์ที่สดใสสมวัย ตกแต่งในสไตล์อวกาศ ภายในห้องนอนจัดวางฟังก์ชันได้ค่อนข้างลงตัว

ภายในออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อน จัดวางเตียงนอนไว้เกือบชิดผนัง มีพื้นที่โดยรอบเตียงสามารถเดินได้สบายเลยครับ ข้างเตียงจัดวางโคมไฟและข้าวของตกแต่งเอาไว้ สามารถเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอกได้ หัวเตียงดีไซน์เป็นงานอาร์ตสไตล์ที่เชื่อมต่อสไตล์ของวัยรุ่น
เราชอบไอเดียของการจัดพื้นที่รอบบ้านด้านนอกให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ทว่ายังอยู่ภายใน Area บ้านของตัวเอง ด้วยกันจัดวางเซ็ทที่นั่งปิคนิกเอาไว้เป็นไอเดีย ซึ่งหากเป็นบ้านหลังจริงก็จะมีรั้วรอบขอบชิด เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก
นึกภาพไปถึงตอนที่คุณแม่จะมาเล่านิทานให้ฟัง ส่วนเด็กๆ ก็นั่งอยู่ในกระโจมฟังอย่างตั้งใจว่าเมื่อไรจะถึงตอนที่เจ้าหมาป่าจะมาแย่งแอปเปิ้ลเจ้าหญิง ฟีลลิ่งดีจริงๆ ครับ
#สรุป โครงการบ้าน The City บางนา 3 เหมาะสมและดีงามสำหรับใครที่มองหาบ้านหลังใหญ่ อยู่กันหลายเจนเนอเรชั่น สามารถเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ที่สำคัญอยู่ใกล้ห้างสรรสินค้าชื่อดังอย่าง Mega Bangna เราว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจะแวะเข้ามาชมกัน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://apthai.ly/ElCUkm
KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน