Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve

Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve ตั้งอยู่บริเวณ หาดทับแขก กระบี่ ยอมรับเลยว่าเป็นโรงแรมที่สวย หรู ดูดีมีระดับแต่ไม่ถึงกับต้องคลานเข่าเข้าไปนอน เพราะตอนนี้ราคาลงมาพอสมควร สำหรับตลาดไทย

คุณ Anthony (แอนโทนี่) GM คนใหม่บอกว่า “ที่นี่คือบ้านของคนไทย” .

Marriott เจ้าของเชน ได้วาง Position ของแบรนด์ Ritz Carlton Reserve ซึ่งอยู่ในหมวด Distinctive Luxury ให้เป็นโรงแรมระดับหรูหรา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นคอนเซ็ปต์ที่น่าตื่นเต้นว่า

“Your Home at The End of The Earth”

หรือเข้าใจได้ว่าเป็น “บ้านสุดท้ายที่ปลายฟ้า สุดขอบโลก”

ดูจินตนาการเหนือจริง ยังไงก็ไม่ทราบ แต่ความสุขจากการได้ไปพักผ่อนทื่ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve ซึ่งเป็นแห่งแรกของโลกนั้น (ปัจจุบันมี 5 Reserve ทั่วโลก) ราวกับอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน

กานต์ได้ร่วมโต๊ะ Exclusive Dinner กับ คุณแอนโทนี่

“ยังหนุ่มอยู่เลยแหะ อายุอ่อนกว่าผมอีก แต่ได้เป็น GM แล้ว แสดงว่าดีกรีคงไม่ธรรมดา” แวบแรกทางความคิดของกานต์ที่ได้เจอ GM โรงแรมนี้

กว่า 3 ชั่วโมงที่คุยกันบนโต๊ะอาหาร ทำให้รู้เลยว่า แอนโทนี่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา หรือการศึกษา แต่ผมว่า Attitude ของเขาต่างหากที่เป็นคีย์การ์ด ทำให้มาถึงตรงจุดนี้ได้ เพราะเป็นคนท่ีคิดอะไรในแง่ดีมาก มี vision ของการพัฒนา สมแล้วที่เกิดมาเพื่อทำงานด้าน Hospitality โดยตรง และเป็นคนที่อยู่กับแบรนด์ Ritz-Carlton มา 15 ปี ตั้งแต่เริ่มทำงาน เพิ่งย้ายมาอยู่ไทยได้ 6 เดือน จากสิงคโปร์

เป็นช่วงเวลาที่สร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นให้กับวงการ Luxury Hotel พอสมควรครับ

กานต์ชอบที่สุดคือคำที่ว่า “Luxury is no rule” แขกของที่นี่จะเช็คอินกี่โมงก็ได้ เช็คเอ้าท์กี่โมงก็ได้ แขกต้องได้รับการปรนนิบัติอย่างเต็มที่ ตามมาตรฐานของแบรนด์ 1 ต่อ 5 คือ พนักงาน 5 คนจะดูแลแขก 1 คน ด้วยการบริการที่ต้องเหนือความคาดหวังและต้องคุ้มค่าต่อราคาที่จ่าย

GM สุดหล่อยังเตรียมแผนอีกมาก ที่จะทำให้ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve อยู่อันดับหนึ่งในใจแขกที่มาเข้าพัก และแน่นอนว่าตลาดไทยยังเป็น Target ที่สำคัญครับ

จริงๆ ควรเรียกว่าสัมภาษณ์ เพราะน่าจะเอามาลงเป็น Exclusive Interview ด้วย ตามสไตล์ของ KANT ซึ่งเป็น Journalist Travel x Hotel Lifestyle แต่ก็กลัวว่า เนื้อหาจะยาวเกินไป

ในส่วนของห้องพักนั้น กานต์ชอบใจที่ได้พัก Royal Beach Villa ซึ่งเป็นวิลล่าแบบที่ดีที่สุด แต่คุ้มราคามาก ในแง่ของการออกแบบ ตกแต่ง ผลงานของคุณเล็ก บุนนาค-สถาปนิก

วิวและทำเลของวิลล่าคือดีมาก อยู่หน้าหาดโซนส่วนตัว ห้องมีขนาดใหญ่ราวสนามหลวง มีสระว่ายน้ำอยู่ติดทะเล มองออกไปเป็นทะเลสุดลูกหูลูกตา แบบไม่ต้องมีอะไรกั้น อาหารเช้าเป็น In Villa Breakfast กิน … นอน อยู่ในนี้ทั้งวัน แทบไม่อยากออกไปไหนเลยครับ

ส่วนเรื่องมาตรฐานในการให้บริการ GM บอกว่า ต้องให้เหนือว่าความคาดหวังและราคาที่ลูกค้าจ่ายมา มีบัทเลอร์ บริการตลอดเวลา ที่นี่เรียกเป็นภาษาไทยเก๋ๆ ว่า “ต้นห้อง”

.

บางช่วงเวลามีฝนตกลงมาโปรยปราย ตอนดินเนอร์เลยออกตัวไปแรงมากกับ แอนโทนี่ว่า ฝนตกทุกวันและเกือบทั้งวัน อาจจะไม่ได้รูปที่ดีมากนัก โดยเฉพาะรูปโซนเอ้าท์ดอร์ของโรงแรม

แต่ GM กลับตอบว่า “ที่จริง บรรยากาศการพักในวิลล่าก็สำคัญไม่แพ้กัน อยากให้คุณกานต์ได้รับประสบการณ์ในการเข้าพักวิลล่าที่ดีที่สุดของเรา โดยไม่ต้องกังวลว่ารูปจะสวยหรือไม่สวย”

บร๊ะเจ้าาาา!!!

บอกแล้ว “แอนโทนี่” เป็นคนที่ทัศนคติดีมาก ดีพอๆ กับหน้าตา เห็นควรว่าน่าจะไปประกวดมิสเตอร์เวิล์ด น่าจะเข้ารอบ 3 คนสุดท้ายเพราะตอบคำถามได้ดี เอาไปเลย 10 10 10!!

“ศาลาศรีจันทร์” Iconic ของโรงแรมเป็นนามของคุณแม่เจ้าของคือคุณปิยะ ภิรมย์ภักดี แห่งตระกูลเบียร์สิงห์ เป็นธุรกิจที่แยกออกมา ไม่ได้อยู่ในสิงห์เอสเตทแต่อย่างใด

ตั้งใจให้ศาลาศรีจันทร์ เป็นส่วนการต้อนรับเมื่อแรกถึง ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าพักได้

รถจะมาจอดส่งบริเวณด้านหน้าทางเข้าศาลา จากนั้นพนักงานจะนำแขกมาเช็คอินที่นี่

ภาพมุมกว้างของ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve ที่จะเห็นความสวยงามและสมบูรณ์ของโลเคชั่น วิลล่าต่างๆ จะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ ด้านหน้าคือหาดทรายช่วงโค้ง ที่แบ่งโซนกันชัดเจน ระหว่างพื้นที่ส่วนกลางกับส่วนพักอาศัย

ไฮไลท์ของที่นี่อีกอย่างคือสปาครับ ข้อแรกเลยคือเป็นสปาที่สวยมาก ยอมใจคนออกแบบจริงๆ ครับ ราวกับได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ มีจากุซชี่ กลางแจ้งในห้องนวดแบบส่วนตัว ท่ามกลางสวนสีเขียวที่เงียบสงบ ใช้วัสดุเรียบง่ายอย่างไม้มาตกแต่ง เพื่อให้เกิดความรื่นรมย์ในการใช้ชีวิตที่นี่

ส่วนวิลล่าที่กานต์พักในครั้งนี้ จะเป็นระดับสูงที่สุดคือ Royal Beach Villa ติดชายหาดฝั่งด้านขวา หากหันหน้าเข้าหาทะเล ซึ่งโซนนี้ ดูจะเป็นไพรเวท มีเพียง Royal Beach Villa ไม่กี่หลังที่ตั้งอยู่ติดทะเล ไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมา ทำให้เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัวครับ

ศาลาศรีจันทร์ในวันที่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ แต่ก็ยังสามารถมองออกไปได้เห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ของกระบี่ ที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งเราจะได้นั่งเรือไปเที่ยวกันในวันพรุ่งนี้ครับ

เมื่อเดินขึ้นบันไดจากโถง มาถึงหน้าอาคารศรีจันทร์ เชื่อว่าทุกคนคงเกิดอาการเดียวกับผม คือสตั้นท์ไป 3 วิ ในความสวยงามอลังการ เป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ ไว้รอต้อนรับทุกคน

แอบถ่ายกับป้ายหน้าวิลล่าของข้างบ้าน ชอบงานดีไซน์กับสีครับ ดูทะลุมิติดี งานศิลปะนี่ทำเอาเราทึ่งไปอย่างนึงก็คือ เป็นลักษณะของ timeless คือไร้กาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ความรุ่มรวยในงานศิลปะที่ดี ก็ยังคงอยู่

Royal Beach Villa จะเป็นโซนที่แยกออกมาต่างหาก ในมุมที่สงบกว่า ตั้งเรียงรายกันไป ได้ความเป็นส่วนตัว วิลล่าแต่ละหลังจะตั้งสับหว่างกันไป เพื่อไม่ให้อยู่ใกล้กันเกินไป จะได้ไม่รบกวนกัน

ภายในใช้สีโทนม่วงอมชมพู ออกไปทางสีกะปิ ให้ความรู้สึกมีเสน่ห์ยั่วยวนดีครับ ภายในวิลล่าใหญ่โต แยกออกเป็นห้องย่อยๆ และโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมทำงานด้านขวา ปีกซ้ายยื่นออกไปเป็นอ่างอาบน้ำกลางแล้ว และมีจุดเด่นอยู่ตรงกลางห้องคือความกว้างของเตียงที่เป็นเอกลักษณ์ของท่ีนี่ บริเวณปลายเตียงมีโซฟาเบดขนาดใหญ่ เอาไว้นั่งชมวิวทะเล

บริเวณด้านข้างบ้าน ทาผนังสีรับกันไปทั้งหมด โรยด้วยหินก้อนใหญ่ ทำให้เกิดความเรียบง่าย ซึ่งเป็นมุมที่ผมชอบ คิดว่าถ่ายรูปออกมาน่าจะสวยสไตล์มินิมอล ไม่ต้องมีอะไรเยอะ …

เน้นนายแบบ 555

ด้านหลังเป็นโซนห้องน้ำ ห้องแต่งตัว มีโซนอาบน้ำด้านนอกด้วยครับ ดีไซน์เป็นรูปทรงกลมรับกันทั้งห้อง แต่ยังคงประดับด้วยภาพวาดสไตล์ล้านนาประยุกต์ที่เราเห็นได้ตามวัดทางภาคเหนือ (นึกถึงวัดภูมินทร์ที่จังหวัดน่านเลย) ภายในโซนนี้จะเน้นสีขาว ฟ้า สบายตา

อย่างที่บอก ห้องน้ำคือสีสวยมาก เป็นสีขาวรับกับผนังรั้วด้านนอกที่ทาสีม่วงอมชมพูเอาไว้ ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมาถนัดตา

โซนอ่างแบบนี้จะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง รวมทั้งห้องแต่งตัวก็แยก 2 ฝั่งด้วยเช่นกัน ทำให้มีพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวางมาก

ปีกซ้ายของวิลล่าจะเป็นจากุซชี่ที่เปิดรับชมวิวด้านนอก ให้อารมณ์เหมือน outdoorแต่ยังปิดล้อมรอบด้วยกระจกใสอยู่ในห้องแอร์ สบายมากกกกก

ล้อมรอบวิลล่าเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเย็นสบายเข้าไปอีก ยิ่งได้แช่ฟองโฟมนุ่มๆ จิบแชมเปญเบาๆ ฟังเพลงแจ๊สยุค 70 ยิ่งเข้ากันดี

ส่วนด้านนอก เป็นพูลวิลล่าที่อ่างเป็นรูปทรงหยักคล้ายโพธิ์แดง หรือจะมองเป็นกาบหอยก็ได้ ส่วนโค้งเว้ายื่นออกไปริมทะเล เป็นวิวส่วนตัวที่แต่ละวิลล่าก็จะมองเห็นทะเลด้วยองศาที่ต่างกันไป

มาดูพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสระใหญ่กันบ้าง สวยงามอลังการไม่แพ้กัน ชอบการดีไซน์สเปซที่ดูรูปทรงเป็นอิสระ ไม่ต้องมีเหลี่ยมมุมเท่ากันตลอดเวลาก็ได้ จะได้ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายมากขึ้น ยิ่งได้สีเขียวของต้นไม้มาตัดกับสีฟ้าของน้ำในสระและสีเทอคอวยซ์ของน้ำทะเลที่เข้ามาสอดรับ ทำให้รู้สึกเย็นสบายมากยิ่งขึ้น

โดมทรงกลมหลังคาสีน้ำตาลคือบาร์ครับ มองมุมท๊อปจะเห็นเป็นเหมือนหมวก

มองมุมสายตาจะเห็นเป็นหลังคาสระที่รูปทรงแปลกตาน่ารักดีมากครับ

ถัดจากสระน้ำใกล้ๆ หาดจะมีเปลสีขาวผูกไว้ใต้ต้นมะพร้าว ให้เราได้นอนชมวิวถ่ายรูปกับทะเล มองออกไปจะเห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่

ธรรมชาติบ้านเราสวยงามใจละลายเลยครับ

ที่นั่งบริเวณบีชบาร์ชื่อว่า “ชมตะวัน” บรรยากาศดีมาก เปิดให้บริการทั้งวันจนถึงดึก สามารถมานั่งรับลมทะเลได้ที่นี่ จนกระทั่งถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งได้คอคเทลเบาๆ สีสวยๆ สักแก้ว มาจิบ ยิ่งเข้ากันครับ

ไฮไลท์อีกอย่างของที่ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve คือ The Spa ครับ นอกจากชื่อเสียงเรื่องความสวยงามแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องการนวดที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย

ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ทว่ามีกลิ่นไอของความเป็นจีนปนมาเล็กน้อย พอให้ดูแปลกตา ทว่า ความสวยยังคงเต็มพิกัด

ผมชอบรูปนี้เพราะดูไปทิศทางเดียวกันดีระหว่างบันไดกับโคมไฟ

ห้องนวดยังคงตกแต่งสไตล์เก๋งจีนโมเดิร์น มีห้องทำทรีตเม้นท์เยอะมาก ถึง 11 ห้อง เน้นสีเหลืองทองในการตกแต่ง

เมนูสปามีให้เลือกหลากหลายครับ จะนวดแผนไทยโดยใช้สมุนไพรพื้นบ้านก็ได้ ส่วนกานต์เลือกเป็นนวดอโรม่าสไตล์ยุโรป เพราะชอบกลิ่นของน้ำมันที่หอมสบายเข้าจมูกเวลานวด สดชื่นดีครับ

การนวดนี่ก็ดีนะครับช่วยให้ร่างกายและจิตใจของเราเกิดสมดุล เป็นการฟื้นฟูตัวเอง

ด้านนอกจะเป็นโซนพักผ่อนหลังนวด เราสามารถมาแช่ตัวในสระว่ายน้ำที่มีชีวิตชีวาซึ่งมีสายน้ำช่วยให้ผ่อนคลายระหว่างการบำบัด ที่ The Spa ได้ ส่วนภายในห้องนวดบางห้องก็มีจากุซชี่ส่วนตัวท่ามกลางสวนสวยไว้บริการเช่นกันครับ

หลังจากนวดผ่อนคลายเสร็จก็กลับไปเปลี่ยนชุดแต่งตัวอีกรอบ เพราะมีนัดทานมื้อค่ำกับคุณแอนโทนี่ ซึ่งเป็น GM หรือผู้จัดการของรีสอร์ตแห่งนี้

คืนนี้ทางโรงแรมจัด Exclusive Dinner ให้ที่ศาลาศรีจันทร์ครับ ซึ่งยามทไวไลท์จะสวยมากขึ้นไปอีกด้วยแสงไฟและแสงเทียนกว่า 2 พันดวงที่ประดับไว้โดยรอบ งดงามยิ่งนัก ส่งให้คืนนี้เป็นมื้อพิเศษที่มีความหมายมาก ใครอยากขอแต่งงานหรือจะฉลองในโอกาสพิเศษ ก็สามารถแจ้งทางต้นห้องของเราได้เลยครับ

คุณแอนโทนี่มารอรับก่อนเวลา ไอ้เราก็มัวแต่แวะกดชัตเตอร์มาตลอดทาง ก็ของเค้าสวยจริงๆ ครับ

คุยกับคุณแอนโทนี่ สนุกมากครับ สัมผัสได้ว่า เป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีมาก การตอบคำถามดูฉลาดและเฉลียว ไม่ฟันธงเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ตัดขาดในคำตอบแบบไร้เยื่อใย

เป็นคนที่รักในแบรนด์ Ritz-Carlton มากๆ ไม่เคยเปลี่ยนแบรนด์เลยตั้งแต่ทำงานมาสิบกว่าปี และตั้งใจมากกว่าอยากจะมาทำริซต์คาร์ลตันที่เมืองไทย เพราะชอบใจเป็นพิเศษ

โควิดอาจจะพ่นพิษ แต่หากเราคิดหามุมอื่นๆ มาดำเนินชีวิต มันก็ยังสามารถไปต่อได้ เหมือนกับที่ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve กำลังทำอยู่ในตอนนี้ มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และธุรกิจขนานใหญ่ เพื่อให้โรงแรมสามารถดำเนินต่อไปได้

และดูเหมือนว่าจะมาถูกทาง เพราะได้คนไทยหน้าใหม่มาเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จนถึงจุดที่ว่า สุดสัปดาห์โรงแรมถูกจองเต็มหมดทุกห้อง

คุณแอนโทนี่บอกว่า ความคิดของเขาจะไม่สามารถเป็นจริงได้ หากทีมงานทุกคนไม่มองไปในทิศทางเดียวกันและไม่ช่วยกัน ที่สำคัญเขาโชคดีที่ Owner (เจ้าของ) ไม่เคยกดดันก้าวก่ายอะไรจนเกินความพอดี

เมนูคืนนี้เป็น 3 คอร์สสั้นๆ จัดมาเป็นพิเศษเลยครับ ผมเลือกเป็น เนื้อ Australian Angus beef tenderloin Carpaccio ท๊อปด้วย Rocket Salad และ น้ำมันมะกอก

Main เป็น ข้าว Risotto กุ้งลายเสือ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศอ่อนๆ มีหญ้าฟรั่น ท๊อปมาด้วยครับ

ของหวานเป็น เค้กช็อคโกแล็ตไร้แป้ง อร่อยมากกกก

จริงๆ ที่นี่มีห้องอาหารหลายห้องเลยนะครับ สามารถเลือกทานได้ตามใจ แต่ในช่วงโควิดก็จะเปิดให้บริการที่ห้องอาหาร Jampoon เป็นหลัก

ส่วนมื้อค่ำอีกมื้อผมไปทานที่ห้องอาหารศรีตรัง เนื่องจากอยากทานอาหารไทยที่ปรุงแบบต้นตำรับแต่ใส่เทคนิคในการทำอาหารแบบสมัยใหม่เพิ่มเข้าไปเพื่อให้เกิดความน่าสนใจในทุกจาน

ในช่วงเฝ้าระวังโควิดที่ไปเข้าพัก ทางรีสอร์ตได้จัดเสิร์ฟเป็๋นแบบท In Villas แทนครับ ซึ่งส่วนตัวชอบมาก จะได้ไม่ต้องออกไปทานที่ห้องอาหาร ลดการสัมผัส แต่ยังสามารถเลือกทานได้ตามใจเช่นเคย เพียงแค่นัดแนะเวลาและเลือกเมนูกับต้นห้องในช่วงกลางคืน

เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ

ช่วงสายเราไปทำกิจกรรมล่องเรือเที่ยวเกาะห้องกันครับ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตเท่าไรนักใช้เวลาราวๆ 20 นาทีก็ถึง

หมู่เกาะห้องเป็นหนึ่งในเกาะที่ได้รับการคุ้มครองภายในพื้นที่ของ “อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี” เกาะแห่งนี้เป็นที่นิยมในเรื่องหาดทรายขาวแนวปะการังพืชและสัตว์รวมถึงถ้ำที่สวยงาม

ผมชอบตรงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าเกาะอื่น แถมเกาะห้องยังมีชายหาดที่เงียบสงบเหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนและหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองเหมือนผม

ทางรีสอร์ตจะเตรียมน้ำ มาให้พร้อมกับผ้าปูนั่งพักผ่อนครับ แน่นอนว่าน้ำที่เสิร์ฟต้องเป็นน้ำสิงห์เท่านั้น

ส่วนขนมผมติดมาจากในวิลล่า เพราะว่าเมื่อเช้าทานไปไม่เยอะเท่าไร อยากได้ฟีลแบบปิคนิคบนเกาะ เลยหอบของว่างมาถ่ายเก๋ๆ

เราจะใช้เวลาที่นี่ประมาณครึ่งวันเช้า เพื่อที่จะได้กลับไปทานอาหารกลางวันที่รีสอร์ตครับ

ช่วงบ่ายเราไปเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ต มีหลายมุมให้เราได้ถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆ เต็มไปหมดครับ

อย่างวิลล่าหลังนี้จะชื่อว่า RESERVE POOL VILLA ซึ่งจะไม่ติดทะเลครับ แต่เดินไปได้ไม่ไกล ราว 200 เมตรได้ ดีไซน์ยังคงคุม Mood and Tone ได้ดีครับ

ภายในก็ยังคงกว้างขวางแม้จะเป็นห้องระดับต้นๆ แต่ออกแบบจัดแต่ง ได้อย่างสวยงาม เตียงยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ความใหญ่ และยาวมาก จนบางทีก็สับสนว่าจะนอนหันศรีษะไปทางทิศไหนดี

ภายในตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ มีทั้งอ่างอาบน้ำแบบ indoor และ outdoor มีแยกโซนแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้ง อ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำและห้องสุขา

มีอ่างจากุซชี่อยู่ในสวนหลังวิลล่าด้วยครับ เย็นๆ แม้จะไม่มีวิวพระอาทิตย์ตกให้เห็นในวิลล่า แต่เราก็มีฟองนุ่มๆ ให้ละเลียด พักผ่อนกายาให้สบายใจ

นี่เป็นห้องอีกแบบที่ผมชอบและตั้งใจว่าคราวหน้าจะมาพักที่นี่ นั่นก็คือ BEACH VILLA อยู่หน้าหาดเลยครับ

ก่อนกลับยังแว๊บมาถ่ายรูปได้เพราะแทบทุกจุดออกแบบไว้สำหรับถ่ายลงไอจีได้เยอะมาก กานต์ไกด์ไว้ให้หลายมุมเหมือนกัน ลองตามมาถ่ายดูนะครับ

อาคาร Kids Club ปรับปรุงมาจากบ้านเก่า ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับเด็กๆ ที่จะมาคลุกอยู่ด้านในนี้ทั้งวัน บรรยากาศดีมากครับ

#โดยสรุป Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve เป็นรีสอร์ตที่ “ต้องมา” สักครั้งในชีวิตครับ ไม่เพียงแต่เป็น Ritz-Carlton Reserve แห่งแรกของโลกและแห่งเดียวในประเทศไทยแล้ว การยึดถือตามไบเบิ้ลการให้บริการของ Ritz-Carlton ยังคงเต็มเปี่ยมในทุกวิลล่า และปรับให้เข้ากับรสนิยมการเข้าพักของคนไทย

มิพัก ที่ได้กล่าวไปถึงงานดีไซน์ของคุณเล็กที่ไม่ทำให้หลายคนผิดหวัง มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะมาก แนะนำว่าน่าจะเตรียมชุดมาให้เยอะๆ ครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน