“𝐄𝐥𝐞𝐠𝐚𝐧𝐜𝐞 𝐢𝐬 𝐧𝐨𝐭 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐛𝐞𝐢𝐧𝐠 𝐧𝐨𝐭𝐢𝐜𝐞𝐝, 𝐢𝐭’𝐬 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐛𝐞𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐦𝐞𝐦𝐛𝐞𝐫𝐞𝐝.” — คำกล่าวของ Giorgio Armani ดีไซเนอร์ชื่อดัง สะท้อนปรัชญาการออกแบบที่ลึกซึ้ง เมื่อวลีนี้ถูกผูกโยงสู่โลกของการออกแบบบ้านสไตล์ฝรั่งเศสในแบบ French Eclectic Series จากโครงการ NANTAWAN BANGNA KM15 ความหมายก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
ในความเป็นจริงแล้วบ้านสไตล์ฝรั่งเศสจะไม่ต้องการเป็นจุดสนใจเกินไป แต่จะค่อยๆ เผยเสน่ห์ด้วยรายละเอียดที่มีเรื่องราวเล่า ไม่ว่าจะเป็นการแกะสลักลวดลายบนบานประตู โครงสร้างไม้ที่แสดงถึงฝีมือช่างที่ประณีต หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่สะท้อนรสนิยมอันละเมียดละไม ถือเป็นความงดงามในแบบที่คนฝรั่งเศสเรียกว่าเป็นเรื่องของ L’art de vivre หรือศิลปะแห่งการใช้ชีวิต ที่เน้นความสบาย ความอบอุ่น และความมีระดับไปพร้อมกัน เหมือนการนั่งจิบไวน์ดีๆ ข้างเตาผิงในคืนฤดูหนาว หรือการอ่านหนังสือในห้องสมุดส่วนตัวที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวล
NANTAWAN BANGNA KM15 โดยแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จึงไม่ได้เป็นเพียงโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury แต่คือการหลอมรวมของงานสถาปัตยกรรมแบบ French Eclectic ศิลปะและวิถีชีวิตสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
แรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส สะท้อนผ่านเส้นสายโค้งมน หลังคาทรง Mansard ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ และลายฉลุที่สื่อถึงหัตถศิลป์ยุโรป ความงามในแบบ French Eclectic ที่นี่จึงไม่ฉูดฉาด หากแต่ลุ่มลึก หรูหรา และเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์
การอยู่อาศัยในคฤหาสน์ NANTAWAN BANGNA KM15 เรามองว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่การมีพื้นที่ใช้สอยหลายร้อยตารางเมตร แต่คือการมี “เวลา” ที่ไหลผ่านอย่างมีความหมาย พื้นที่ภายในบ้านถูกจัดวางราวกับผืนผ้าใบของจิตรกรที่รอให้เราได้เข้ามาวาดฝัน เสริมด้วยมุมสำหรับ Afternoon Tea มีห้องอเนกประสงค์ที่แปรเปลี่ยนได้ตามช่วงวัย หรือห้องอ่านหนังสือที่มองออกไปยังวิวสวนส่วนกลางและทะเลสาบจากภายในบ้าน
ความประณีตของดีไซน์ภายนอกนั้นส่งต่อถึงภายใน ทุกพื้นที่ในบ้านถูกออกแบบให้เป็น “เวทีแห่งชีวิต” จากโถงกลางสองชั้นที่หรูหราราวกับ Grand Foyer ของโรงแรมระดับโลก สู่ชั้นล่างมีห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร รองรับทั้งความเป็นส่วนตัวและการสังสรรค์
ส่วน Clubhouse ดีไซน์มาในรูปแบบ The French Chateau คือหัวใจของโครงการทั้ง 118 ยูนิต ภายในประกอบด้วยเลานจ์รับแขก, ห้องประชุม, Co-working Space, ฟิตเนสสตูดิโอ และสระว่ายน้ำแบบ Infinity Pool ที่ทอดยาวเคียงทะเลสาบส่วนตัว
บ้านในโครงการ NANTAWAN BANGNA KM15 จึงเป็นเหมือนบทกวีแห่งสถาปัตยกรรม ที่ไม่ต้องเปล่งเสียงดัง แต่กระซิบเรื่องราวความงามให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสและจดจำตลอดไปว่าความงดงามที่แท้จริงคือการที่คุณไม่รู้สึกว่ากำลังอยู่ในบ้าน แต่รู้สึกว่ากำลังอยู่อาศัยในความหมายที่ลึกซึ้งที่สุด
𝐍𝐀𝐍𝐓𝐀𝐖𝐀𝐍 𝐁𝐀𝐍𝐆𝐍𝐀 𝐊𝐌𝟏𝟓
“𝑻𝑯𝑬 𝑺𝒀𝑴𝑩𝑶𝑳 𝑶𝑭 𝑬𝑿𝑪𝑳𝑼𝑺𝑰𝑽𝑰𝑻𝒀” ทุกการใช้ชีวิตคือ..ที่สุด
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1198 www.lh.co.th
NANTAWAN BANGNA KM15 โครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ French Eclectic เพียง 118 ยูนิต บนที่ดินกว่า 90 ไร่ โดยตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.15 ซึ่งปัจจุบันบนทำเลบางนาก็แทบจะไม่มีที่ดินแปลงใหญ่เช่นนี้ให้พัฒนาเป็นพื้นที่บ้านจัดสรรได้อีกแล้วครับ ออกแบบเป็นบ้านที่ดินขนาดใหญ่ 140-220 ตร.วา มี 4-5 ห้องนอน สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้หลายเจนเนอเรชั่น
จุดเด่นของทำเลก็คือสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกสบาย ทั้งถนนบางนา-ตราด, ทางพิเศษบูรพาวิถี, วงแหวนกาญจนาภิเษก, ถนนศรีนครินทร์, ทางพิเศษสาย S1 (บางนา–อาจณรงค์), ทางแยกต่างระดับศรีเอี่ยม อีกทั้งยังอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิด้วย ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน ทั้งสนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินอู่ตะเภา (EEC) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเพิ่มมูลค่าของทำเล จึงถือเป็นโครงการที่น่าสนใจในการซื้ออยู่เองหรือซื้อเพื่อลงทุนครับ
ทำเลนี้ยังถือว่าเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้ง ได้แก่ ศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ, เมกาบางนา, แอท ยู พาร์ค, เซ็นทรัล บางนา, Jas Urban, Bangkok Mall, Central Village Outlet ศูนย์การประชุม Bitec บางนา, ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ฯลฯ
ตลอดจนโรงเรียนนานาชาติ สถานศึกษาชั้นนำ อาทิ โรงเรียนนานาชาติ ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก, โรงเรียนนานาชาติไทย-จีน, โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน, โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ, โรงเรียนนานาชาติไทย-สิงคโปร์, โรงเรียนประชาคมนานาชาติ (ICS), โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา, โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูวส์ ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพในทุกด้าน ฯลฯ
ส่วนสถานพยาบาลใกล้เคียงได้แก่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์, โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ, โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลไทยนครินทร์, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
ด้านหน้าโครงการมีระยะ Set-Back จากถนนหลักเข้ามาพอสมควร ทำให้มีข้อดีก็คือเป็นทำเลที่เงียบสงบแบบ Residential Area แทบไม่มีเสียงรถราวิ่งดังกวนใจ เป็น Private Community ที่จำกัดเพียง 118 ยูนิตเท่านั้น Main Gate ขนาดใหญ่ด้านหน้า เป็นมุมมอง Perspective นำสายตาเข้ามายังตัวโครงการที่มองเห็นได้เด่นชัด
โครงการมาพร้อมกับระบบการรักษาความปลอดภัยด้านหน้า คือมีประตูกั้นแบบรางเลื่อน 2 ชั้น (Double Gate Security) พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เข้าสู่โครงการด้วยระบบตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์ (ANPR Camera Access) รั้วโครงการสูง 3 เมตรเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยรอบโครงการติดตั้งกล้อง CCTV 32 จุด เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการดูแลความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน
อีกหนึ่งจุดที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยี่ยมชมโครงการ ตลอดจนลูกบ้านผู้พักอาศัย คือปราการของโครงการขนาดใหญ่ด้านหน้า Main Gate ที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังจะได้สัมผัสกับอัครสถานที่อลังการมากๆ มาพร้อมกับวลีของโครงการคือ “THE SYMBOL OF EXCLUSIVITY” สื่อความหมายถึงทุกการใช้ชีวิตคือ “ที่สุด” บ่งบอกรสนิยมแห่งผู้ครอบครองความสำเร็จ ท่ามกลางบรรยากาศอันวิจิตรบนที่สุดของทำเล ”บางนา” ความสมบูรณ์พร้อมที่เหนือระดับเฉพาะคุณที่ NANTAWAN BANGNA KM15 ส่วนด้านในบริเวณลานน้ำพุจะมีประดับสัญลักษณ์ เอาไว้ได้อย่างวิจิตรงดงามในทุกจุด
บรรยากาศของโครงการเน้นเรื่องพื้นที่สีเขียว ด้วยวงเวียนต้นไม้บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ เมื่อขับรถเข้ามาภายใน จะพบกับ Lake ขนาดใหญ่ มาพร้อมกับสระว่ายน้ำ Clubhouse มี Relaxing Solarium ศาลาพักผ่อนใจกลางธรรมชาติสำหรับนั่งพักผ่อน พื้นที่นั่งใต้ต้นไม้และสนามเด็กเล่น
จาก Main Gate มายัง Clubhouse ด้านหน้า ใช้เวลาไม่นานนัก ข้อดีก็คือเราสามารถนัดหมายแขกเพื่อพบปะพูดคุยธุระได้ที่นี่โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าไปในบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
Clubhouse ของโครงการ NANTAWAN BANGNA KM15 ดีไซน์สวยมาก ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการออกแบบและความใส่ใจในรายละเอียดของโครงการนี้ ด้วยแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์ French Eclectic Series อีกทั้งยังติดตั้ง Solar Cell (Solar Roof) บริเวณหลังคา Clubhouse เพื่อช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกทางหนึ่งด้วย
บันไดทรงโค้งด้านในที่ประดับด้วยพุ่มไม้นานาพันธุ์ ทำให้เราได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ด้วยการออกแบบให้มีแนวต้นไม้น้อยใหญ่คอยทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์กั้นเสียงรบกวนจากภายนอก ราวกับได้พักผ่อนอย่างเงียบสงบอยู่ในรีสอร์ตหรูท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ร่มรื่นมาก Clubhouse จึงไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนประตูสู่โลกแห่งความหรูหราและความคลาสสิกที่ยังคงร่วมสมัยเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทางเข้าอาคาร Clubhouse โดดเด่นด้วยเสาโรมันและซุ้มโค้งทรง Arch ที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตร สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ หน้าต่างกระจกใสที่ฉลุกรอบ ไม่เพียงแต่เพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับตัวอาคารแต่ยังช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติได้อย่างดี
เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณ Clubhouse รู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสสไตล์ French Eclectic ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหลากหลายของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในช่วงหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในช่วงปี 1920s-1930s เป็นยุคที่นักออกแบบในอเมริกาได้นำรูปแบบฝรั่งเศสมาใช้กับบ้านพักอาศัยขนาดกลางถึงใหญ่ โดยออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองและชนชั้นสูงจนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราที่แฝงความอบอุ่น
การออกแบบ Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ NANTAWAN BANGNA KM15 สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์พื้นที่ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังตอบสนองรสนิยมการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ผสมผสานความหรูหราของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส เข้ากับความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย ส่งผลให้ Clubhouse กลายเป็นจุดศูนย์รวมของคอมมูนิตี้ของผู้คนในระดับเดียวกันที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยมอันเลอค่า มีเสน่ห์และน่าหลงใหล เป็นการมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับให้กับทุกครอบครัว
ภายใน Clubhouse เราได้พบกับพื้นที่โถง Living ที่ดูโปร่งสบายด้วยฝ้าเพดานสูง สร้างความรู้สึกโอ่อ่าและหรูหรา แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมือนนั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง สามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแก้วโปรดระหว่างพักผ่อนที่ Clubhouse ได้
ด้านในมีพื้นที่พักผ่อนที่เน้นการตกแต่งภายในผสมผสานความคลาสสิก เรียบหรูเข้ากับความร่วมสมัย ด้วยการเลือกใช้สีโทนอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกสบายตา โถงกลางประดับโคมไฟดีไซน์ฟรีฟอร์มดูโดดเด่น ผนังประดับด้วยคิ้วบัว เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ฟรีฟอร์มที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน และให้ความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางรายละเอียดการตกแต่งที่ประณีต คลาสสิก เมื่อเข้ามาพักผ่อนแล้วเรารู้สึกสบายใจดีมากครับ
ตอนที่แดดส่องแสงในช่วงเวลาเช้าและยามเย็นทำให้เกิดเป็นลวดลาย หรือสาดแสงเงาเข้าไปภายใน Clubhouse ทำให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
ชั้นบนเป็นพื้นที่ของสายเวิร์คเอ้าท์ สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย มีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ทำให้บรรยากาศดูโปร่งสบาย ออกกำลังกายได้ไม่อึดอัด ภายในห้องจัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ครบครันทั้งแบบ Cardio, Free Weight และ Machine ติดตั้งลู่วิ่งสำหรับคาดิโอและเครื่อง Elliptical กระจายกันไปรอบห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ผนังห้องรายล้อมด้วยกระจกเขียวตัดแสงแบบ Full Height ดีไซน์ทรงโค้งฉลุลาย เปิดรับวิวจากภายนอกสัมผัสได้ถึงความโล่งสบาย ภายในตกแต่งสวย ในบรรยากาศของวิวสวนสีเขียวเบื้องหน้า เราว่าเป็นมุมออกกำลังกายที่เติม Energy ได้ดีมาก
แต่หากใครอยากออกกำลังกายแบบกลางแจ้ง โครงการก็ออกแบบให้มี Jogging Track ที่มีต้นไม้และสวนสีเขียวตลอดแนวเพื่อเป็น Buffer ทั้ง 2 ด้านระหว่างถนน ให้เราได้ใช้เวลาในช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือจะเป็นช่วงเย็นหลังเลิกงานในการออกกำลังหรือใครที่อยากสัมผัสพลังจากแสงแดด สายลม ต้นไม้ก็สามารถไปนั่งกำหนดลมหายใจ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติน้อยใหญ่ได้ในสวนส่วนกลางได้เช่นกันครับ
นอกจากนี้ยังมี The French Chateau Garden พื้นที่สวนหลักบริเวณกลางโครงการที่เปิดโล่งและ Avenue Garden Galleries พื้นที่สวนแนวยาว ให้เราได้เพลิดเพลินกับสมาชิกในครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นนั่งพักผ่อน ปิคนิกนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมร่วมกับน้องหมา พามาเดินเล่นออกกำลังกายรอบๆ Clubhouse ก็เข้าท่าดีเช่นกัน เป็นการออกแบบเพื่อเน้นตอบโจทย์คนทุกเจนเนอเรชันจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เน้นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ 


เมื่อมองจากด้านหน้าโครงการเข้ามา เราจะเห็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลาง Lake เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half-Oympic 10×25 เมตร แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็กพร้อมโซน Jacuzzi จัดให้มี Sun Bed วางไว้ให้ลูกบ้านได้นั่งผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติและลมเย็นๆ ที่พัดไอน้ำมากระทบผิวกายในวันหยุดสบายๆ
ใครอยากจะมานอนอ่านหนังสือหรืออาบแดด นอนฟังเสียงน้ำให้สบายใจก็ทำได้สบายเลย ส่วนคุณแม่ที่มารอลูกว่ายน้ำก็สามารถมานั่งบริเวณพื้นที่รับรองนี้ได้ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบ Open Air พร้อมชุดโซฟาที่นั่งจัดวางเอาไว้อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่หากต้องการอยู่ในห้องปรับอากาศก็สามารถไปนั่งรอที่ Lobby Lounge ได้เช่นกัน
จากพื้นที่ส่วนกลาง เราพาไปชมบ้านตัวอย่างกันบ้าง ซึ่งโครงการ NANTAWAN BANGNA KM15 มีบ้านขนาดที่ดินตั้งแต่ 140 ตร.ว. ขึ้นไป และเน้นพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 377 ตร.ม. ขึ้นไป โดยมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบคือ
LE DAUPHIN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 140 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
LE ROI บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 170 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 452 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ�
ส่วนแบบบ้านที่เราพามาชมกันในพาร์ทนี้คือ LE TRONE บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ที่สุด ที่ดินเริ่มต้น 200 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 619 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ มี Junction รองรับ Ev Charger รถยนต์ไฟฟ้าให้กับทุกแบบบ้าน พร้อมติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Motion Sensor, Digital Door Lock และ ระบบ AirPlus2 และ CCTV สำหรับบ้านทุกหลัง
ภาพรวมของงานดีไซน์ภายนอกของแบบบ้าน French Eclectic Series คือการที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Châteauesque ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบปราสาทราชสำนักที่เน้นความหรูหรา หลังคาทรงสูงแบบ Mansard หรือ Hip Roof พร้อมหน้าจั่วเล็ก ผนังอิฐหรือหิน ผสมปูนฉาบเรียบสีขาวดูสบายตา หน้าบ้านประดับด้วยหน้าต่างบานเปิดคู่ พร้อมบานประตูเหล็กดัดหรือลายโค้งคงความสง่างามและสมดุล
ด้านข้างมีพื้นที่ว่างสามารถออกแบบให้มี Pavillion สำหรับนั่งจิบชาหรือว่าพักผ่อนได้
เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านมาจะพบกับ Foyer โดดเด่นด้วยเพดานสูงแบบ Double Volume ที่ให้ความโอ่อ่าและความเป็นส่วนตัว โถงทางเดินเชื่อมต่อกับฟังก์ชันการใช้งานและมุมมองของชั้นล่างและชั้นบนเข้าไว้ด้วยกัน Arrival Hall ประดับประดาฝ้าเพดานด้วยโคมไฟ ดีไซน์โมเดิร์น บรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างเป็นโทนขาว ดูสะอาดตา มีความอบอุ่น ล้วนเป็นการเลือกสรรสีจากธรรมชาติเข้ามาช่วยขับเน้นความสง่างามและรสนิยมของผู้อยู่อาศัย
ด้านซ้ายเป็นห้องรับแขกที่แยกตัวออกไป จัดวางโซฟาที่นั่งดีไซน์ฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ ให้เกิดความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง สามารถใช้เป็นเป็นพื้นที่พักผ่อนและรับแขกไปในตัว อีกทั้งมุมนี้ยังมีบรรยากาศค่อนข้างโล่ง โปร่งสบายด้วยประตูหน้าต่างทรงสูงโดยรอบ เปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาและสามารถเชื่อมต่อบรรยากาศของการพักผ่อนด้วยการมองดูวิวสีเขียวโดยรอบบ้านได้
มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวที่ดีไซน์เชื่อมต่อกับธรรมชาติด้วยการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้ภายใน
ด้านในสุดชั้นล่างออกแบบให้เป็นห้องทำงานสำหรับคุณพ่อนักธึุรกิจหรือจะใช้เป็น Escape Room สำหรับนั่งทำงาน ฟังเพลง จิบเครื่องดื่มแก้วโปรด พูดคุยธุระกับแขกคนสำคัญก็ทำได้เช่นกัน บรรยากาศดีมากเพราะเปิดรับวิวสวนสีเขียวจากด้านนอก
Common Area ภายในบ้าน ประกอบด้วย Living Area จัดชุดที่นั่งโซฟาฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ เราชอบเวลาที่มีแสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาภายใน กระทบกับเฟอร์นิเจอร์และโคมไฟที่แวววาว ดูงดงามราวกับเป็นภาพจิตรกรรมที่มีชีวิต ติดตั้งผ้าม่าน 2 ชั้นสูงจากพื้นจรดเพดาน ส่งผลทำให้มุมนี้ดูกว้างขวางและโปร่งสบาย
ถัดเข้าไปด้านในเป็นโต๊ะรับประทานอาหารหลายที่นั่ง เชื่อมต่อกับมุมมองสวนสีเขียวด้านข้างบ้านที่เปิดโล่งด้วยผนังกระจกใส ทำให้เป็นบ้านที่ออกแบบบรรยากาศภายในได้ดี ส่วนตัวเราชอบมุมนี้มาก ดูสวยงามคลาสสิค ได้นั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง เปิดรับแสงจากธรรมชาติลอดเข้ามา มองออกไปเห็นวิวสวน ต้นไม้สีเขียวด้านนอก ดูสดชื่นสบายตา
ถ้าใครสังเกตให้ดีโครงการนี้เน้นผนังกระจกใสเยอะมาก ทำให้เราได้สัมผัสกับบริบทของธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน เนื่องจากออกแบบให้มีระยะถอยร่นเพื่อเปิดพื้นที่สวนสีเขียวรอบบ้าน ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นสบายตา สบายใจ ช่วยเติมอรรถรสให้กับมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี
ทางโครงการยังได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัว Pantry และ Island มาให้แล้ว ท๊อปของของเคาน์เตอร์เลือกใช้หินอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหรา เป็นมุมสำหรับจัดเตรียมอาหารสไตล์ครัวยุโรป
ส่วนครัวไทยและห้องนอนแม่บ้านจะอยู่ด้านใน โครงการได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวไทยเป็นรูปตัวยู (U-Shape) มาให้เป็นเฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน ครัวไทยมีขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง ออกแบบให้มีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
บรรยากาศโดยรวมดีมากเนื่องจากมีหน้าต่างกระจกใสที่เชื่อมต่อกับวิวสวนด้านนอก ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าได้ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว
บรรยากาศโดยรวมดีมากเนื่องจากมีหน้าต่างกระจกใสที่เชื่อมต่อกับวิวสวนด้านนอก ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าได้ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว
โถงบันได้ขึ้นชั้นบนเป็นมุมที่เราชอบมาก เนื่องจากงานดีไซน์ที่ผสมผสานความโมเดิร์นเข้าไว้กับความคลาสสิคได้อย่างลงตัว บันไดเป็นหินอ่อนสีขาวดูหรูหรา ประดับด้วยราวกันตกสีดำทำจาก Wrought Iron Steel Handrail สไตล์ยุโรป ผนังบันไดด้านในประดับด้วยคิ้วบัวสีขาว พื้นบริเวณโถงทางเข้าปูด้วยกระเบื้องลายตารางทำให้บ้านดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นบน เรารู้สึกได้ทันทีถึงความโปร่งสบายด้วยโถงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่าง โดดเด่นด้วยโคมไฟที่ส่องแสงให้บ้านดูสว่างไสวและหรูหรา พื้นปูด้วยพื้นไม้สำเร็จรูป VSPC ให้สัมผัสของไม้ดูเข้ากับบ้าน ทำให้ดูอบอุ่นสบายตา ติดกันเป็น Family Area ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว จัดวางชุดโซฟาเอาไว้สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลย นับเป็นบ้านที่ออกแบบมาให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีมาก
ถัดเข้าไปเป็นห้องเอนกประสงค์ บ้านตัวอย่างออกแบบให้เป็นห้องจิบน้ำชาสุดหรูหราด้วยการจัดวางโซฟาและเก้าอี้ที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์ ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมให้บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความสงบเงียบและความสบาย ทำให้เราสามารถผ่อนคลายและดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสงบสุขได้แม้ในวันที่ฝนพรำ เสียงสายฝนที่กระทบหน้าต่างกระจกช่วยสร้างสุนทรีย์ในการพักอาศัย ได้นั่งจิบชาอุ่นๆ ในบ้านที่เงียบสงบ ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนบนโซฟานุ่มสบายๆ อ่านหนังสือเล่มโปรดอย่างไม่เร่งรีบ ให้ทั้งวันมีแต่ความสุขและความอบอุ่น
Master Bedroom มีขนาดกว้างมากกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตัวบ้านปีกขวา แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยภายในห้องได้หลากหลายและลงตัวดีครับ การออกแบบจะเน้นความโปร่งสบาย เนื่องด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่อย่างที่บอกไป
ภายในห้องเปิดช่องแสงจากธรรมชาติภายนอกโดยรอบทำให้บ้านดูสว่างได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวัน มาพร้อมกับประตูที่เปิดออกไปสู่ระเบียงขนาดใหญ่เทควิวฝั่งสวนหน้าบ้าน ตอนนอนอาจจะต้องติดตั้งม่านทึบแสงหลายจุดหน่อยแต่ก็ถือว่าดี สถาปนิกดีไซน์ให้ประตูเข้าห้องจะไม่ตรงกับเตียงนอนเสียทีเดียว เนื่องจากคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ดังนั้น เตียงนอนจะอยู่ด้านในสุดเชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้าน
นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนภายในห้องนอน จัดวางชุดโซฟาแบบ L-Shape เข้ามุมไว้ได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่นั่งเล่นก่อนนอนหรือจิบกาแฟตอนเช้า
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานเอาไว้รอบห้องราวกับ Dressing Hall ดูหรูหราด้วยแสงไฟส่องสว่างสี Warm โต๊ะเครื่องแป้งอยู่ติดผนัง ตรงกลางเป็น Island สำหรับจัดวางเครื่องประดับ นาฬิกา แต่ที่เราชอบคือออกแบบให้ห้องน้ำเชื่อมต่อกับพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk in Closet ชนิดที่ว่า ออกจากห้องน้ำมาก็เดินเข้าห้องแต่งตัวได้ทันที ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและสะดวกมากครับ
ภายใน Master Bathroom ตกแต่งได้อย่างหรูหรา มีขนาดค่อนข้างกว้าง ตกแต่งในโทนสีน้ำตาลธรรมชาติ ประดับด้วยหินอ่อน ความรู้สึกแรกก็คือสบายใจ ให้เราสามารถใช้เวลาอยู่ภายในพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ตีฟองนอนแช่อ่างอาบน้ำแล้วอ่านหนังสือ หรือจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด เปิดเพลงคลอไปด้วยเบาๆ เท่านี้ก็ทำให้การพักผ่อนอยู่บ้านของเรา สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นครับ ภายในห้องน้ำแบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วนดี มีพื้นที่แยกส่วนเปียกแห้งมาพร้อมกับสุขภัณฑ์แบบ Washlet โดดเด่นด้วยกระจกเงาบานใหญ่แบบเต็มผนัง อ่างล้างหน้าแบบ His & Her แยกกันระหว่างคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงใช้งานกันคนละมุม
ออกจากห้องนอนมาจะพบกับพื้นที่เอนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามใจ บ้านตัวอย่างออกแบบให้เป็นห้องพระหรือพื้นที่สำหรับนั่งสมาธิในช่วงเวลาก่อนนอนสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวก็ได้เช่นกัน
มาดูในส่วนของห้องนอนรองห้องแรกกันบ้างครับ อยู่โซนด้านหลังบ้านใกล้กับห้องนอนหลัก เมื่อเราเดินเข้าไปด้านในสุดจะเป็นโซนพักผ่อนมีเตียงนอนอยู่ตรงกลางเป็นเตียงสีเทาควันบุหรี่ ตัดกับหมอนอิงสีเขียวตองอ่อนที่เข้ากันดีกับอาร์มแชร์สีเขียวเข้ม
หัวเตียงจัดวางโคมไฟและประดับผนังด้วยงานอาร์ตแบบ Abstract ด้านข้างทำให้ห้องนี้ดูสดใสดี ส่วนปลายเตียงเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมส่วนตัว โครงการออกแบบให้ทุกห้องเป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง
ส่วนห้องนอนรองต่อมา จะอยู่ค่อนไปทางทางด้านหลังบ้านเช่นกันทำให้ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ตกแต่งภายในห้อง โดยจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายเลยครับ
ด้านในริมหน้าต่างจัดเป็นโซนพักผ่อนมีโซฟาขนาดใหญ่จัดวางไว้ชิดผนัง เราค่อนข้างชอบห้องนี้เพราะมีผนังกระจกที่เปิดช่องแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ห้องนี้จึงดูโปร่งโล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ ส่วนปลายเตียงติดตั้งเคาน์เตอร์ยาวขนาดกันไป ใช้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานได้
ห้องนอนรองต่อมาจะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันไว้ลงตัว โดยมีเตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางเอาไว้ด้านในสุด ซึ่งจะไม่ตรงกับตำแหน่งประตู ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก
ตกแต่งดูคลาสสิคด้วยเทคนิคเซาะร่อง ส่วนด้านข้างเตียงออกแบบให้เป็นมุมทำงาน นั่งอ่านหนังสือหรือวาดรูปสบายๆ ในห้องนอนตัวเอง ส่วนปลายเตียงติดตั้งคาร์บิเน็ตเตี้ยสำหรับจัดวางทีวีเราสามารถติดตั้งสมาร์ททีวีจอใหญ่ได้เลยเพราะมีระยะในการรับชมค่อนข้างกว้างนอนชมได้จากบนเตียง
#สรุป โครงการ NANTAWAN BANGNA KM15 ตอบโจทย์ครอบครัวที่มองหาบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ย่านบางนาที่มีวิสัยทัศน์ภายใต้ทำเลที่เป็น Rare Item กับบ้านที่ดินแปลงใหญ่ 140 ตร.วา ขึ้นไป กับงานดีไซน์แบบ French Eclectic ที่ผสมความหรูหรา แฝงด้วยเสน่ห์อบอุ่นจากการจัดสวนและโครงสร้างแบบ Chateau พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ระบบโครงสร้างทันสมัย ในทำเลบางนาซึ่งหาบ้านที่มีที่ดินแปลงใหญ่ได้ยากแล้ว โครงการนี้จึงตอบโจทย์สำหรับใครมองหาวิถีชีวิตที่สะท้อนศิลปะการอยู่อาศัยที่เหนือระดับและต้องการบ้านขนาดใหญ่ที่พร้อมรองรับได้ในอนาคต
NANTAWAN BANGNA KM15
“THE SYMBOL OF EXCLUSIVITY” ทุกการใช้ชีวิตคือ..ที่สุด
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1198 www.lh.co.th