Malton Gates Krungthep Kreetha

“𝐄𝐧𝐠𝐥𝐚𝐧𝐝’𝐬 𝐫𝐨𝐮𝐭𝐢𝐧𝐞 𝐢𝐬 𝐚 𝐟𝐚𝐬𝐜𝐢𝐧𝐚𝐭𝐢𝐧𝐠 𝐛𝐥𝐞𝐧𝐝 𝐨𝐟 𝐭𝐢𝐦𝐞𝐥𝐞𝐬𝐬 𝐜𝐮𝐬𝐭𝐨𝐦𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐦𝐨𝐝𝐞𝐫𝐧 𝐫𝐡𝐲𝐭𝐡𝐦𝐬 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐦𝐚𝐤𝐞 𝐢𝐭 𝐭𝐫𝐮𝐥𝐲 𝐜𝐚𝐩𝐭𝐢𝐯𝐚𝐭𝐢𝐧𝐠.”

.

David Beckham นักฟุตบอลระดับซุปเปอร์สตาร์ชาวอังกฤษ อธิบายถึง England’s Routine หรือวิถีปฏิบัติแบบดั้งเดิมของชาวอังกฤษถือเป็นความเหนือระดับในสายของคนทั้งโลก

.

ไทยเราก็มีวลีติดปากเช่นกัน เมื่อเอ่ยถึงความหรูหรามีระดับเราจะใช้ว่า “ผู้ดีอังกฤษ” ตั้งแต่สมัยอยุธยาที่เราเจริญสัมพันธไมตรี ค้าขายกับพ่อค้าและพิธีการ ทางการฑูต

.

ในความเป็นความหรูหราที่มิได้หมายถึงแต่เพียงเสื้อผ้าหน้าผม หรือคฤหาสน์หลังงาม แต่ยังนิยามไปถึงสุนทรียศาสตร์ในการดำเนินชีวิต ทั้งในด้านวรรณกรรม สถาปัตยกรรม แฟชั่น ดนตรี มีมาตั้งแต่ยุครีเจนซี่ (Regency Era) ซึ่งเป็นยุคที่ความเจริญทางวัฒนธรรมเบ่งบาน จนหลอมรวมกันกลายเป็น “ความสมบูรณ์แบบ” ติดตัวคนอังกฤษมาจนถึงปัจจุบัน

.

กานต์ก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมของเมืองผู้ดีมากครับ ไปเที่ยวอังกฤษทีไรก็ได้แต่ความประทับใจกลับมาทุกครั้ง ผู้คนที่สุภาพ บรรยากาศของเมืองที่ดูเรียบหรู มีความรุ่มรวยทางศิลปะ และชอบไปดูงานสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือนที่สวยงาม คลาสสิค ไร้กาลเวลา

.

Malton Gates Krungthep Kreetha เป็นโครงการที่กานต์ไปเยี่ยมชมมาและพบว่า ได้บรรจงถ่ายทอดความหรูหราคลาสสิคของอัตลักษณ์อังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยนำความเสน่ห์ของเมือง Malton ใน North Yorkshire ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโรมัน มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เต็มไปด้วยสวนสีเขียว พื้นที่สาธารณะ มีความอุดมสมบูรณ์ เมืองมีสีสัน ผู้คนมีชีวิตชีวา คุณภาพชีวิตถือว่าอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม”

.

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จึงได้นำต่อยอดมาสู่โครงการ Malton Gates ที่มีคอนเซปต์ “A Luxury Gated Community” หรือประตูสู่สังคมเหนือระดับ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของผู้อยู่อาศัย พัฒนามาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตครบทุกมิติ ได้แก่ Design, Community, Rest, Health, Essence และ Service

.

Malton Gates Krungthep Kreetha เป็นโครงการ Luxury Wellness Residence บ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์นที่แฝงกลิ่นอายความเป็นอังกฤษ ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Classical Redefine สะท้อนความประณีต สง่างามเหนือกาลเวลา ผ่านอาคารทรงสี่เหลี่ยมแบบย่อมุมและหน้าต่างสูงยาวกรอบสีดำ บรรยากาศร่มรื่นจากสวนสีเขียวขนาดใหญ่ 1,100 ตร.ม. บนทำเลแห่งอนาคต

.

โครงการตั้งอยู่บน Prime Location คือย่านกรุงเทพกรีฑา ที่ได้ชื่อว่า Beverly Hills เมืองไทย รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสถานศึกษา โรงพยาบาล และแหล่งไลฟ์สไตล์ ​Pride ดีไซน์ที่นำเสนอความหรูหราโดยสะท้อนตัวตนของโครงการผ่านงานดีไซนนำไปสู่ความภาคภูมิใจในชีวิต บรรยากาศของโครงการเน้นเรื่อง Privacy เพราะมีจำนวนยูนิตไม่มาก จัดวางผังแบบส่วนตัว พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เพื่อให้เกิดมุมสงบในการใช้ชีวิต Prefection ด้วยการนำ Smart Technology และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพสูงสุดของการพักอาศัย เป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับทุกคน และยังกลายเป็นมรดกที่ส่งต่อจากวันนี้ไปสู่อนาคต

.

กานต์พามาชมแบบบ้าน MIDDLETON ตัวบ้านดีไซน์สวย ภายนอกออกแบบสไตล์ Modern Classic Luxury ที่คงความเรียบหรู ส่วนภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งได้สวยงามมากครับ มาพร้อมกับโทนสีเบจตัดกับเส้นสายสีน้ำตาลเข้มออกดำ ทำให้บ้านดูมีมิติ น่าอยู่อาศัย

.

ไปชมภาพบรรยากาศในคอลเลคชั่น Malton Gates Krungthep Kreetha และอ่านเรื่องราวในแคปชั่นกันต่อด้านในได้เลยครับ

_________________________

📍 𝐌𝐀𝐋𝐓𝐎𝐍 𝐆𝐀𝐓𝐄𝐒 𝐊𝐑𝐔𝐍𝐆𝐓𝐇𝐄𝐏 𝐊𝐑𝐄𝐄𝐓𝐇𝐀

𝕋ℍ𝔼 𝔾𝔸𝕋𝔼𝕊 𝕋𝕆 𝕎𝔼𝕃𝕃-𝕃𝕀𝕍𝕀ℕ𝔾

เริ่ม 38-80 ลบ.*

🚩 เปิดชมโครงการแล้ววันนี้ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก ➤ https://bit.ly/3NdhiJn

⏺ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พร้อมลิฟท์ส่วนตัว*

⏺ 4-5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 403-544 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่ม 71-385 ตร.วา

⏺ เป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด เพียง 49 ครอบครัว บนเนื้อที่กว่า 21ไร่

⏺ Clubhouse A ฟังก์ชั่นที่เหนือกว่าด้วยสระว่ายน้ำ Fitness, Private gym, Private spa room, Meeting room, Study room รวมทั้งพื้นที่สวนร่มรื่นขนาดใหญ่ และ สนามเด็กเล่น

⏺ Clubhouse B พร้อมรองรับทุกไลฟสไตล์ทั้ง Co-working space และ Co-kitchen

⏺ ทำเลศักยภาพ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ใกล้ทางด่วนฯ เชื่อมต่อพระราม9-เอกมัย

⏺ ใกล้โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ เช่น Wellington College, Brighton College

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

📞 โทร. 02-116-1111

💬 LINE : https://bit.ly/majorline-fb

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

—————————————————————

#MajorDevelopment#MaltonGates#KrungthepKreetha#LuxuryGatedCommunity#TheGatesToWellLiving#บ้านเดี่ยว#กรุงเทพกรีฑา

Malton Gates Krungthep Kreetha โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นที่มีแรงบันดาลใจมาจาก “มอลตัน” เมืองเก่าแก่ในประเทศอังกฤษ

ได้รับการพัฒนาและออกแบบให้สอดรับกับ Mega Trend ในอนาคตอันใกล้ ด้วยแนวคิด “The Gates to Well-Living” เปิดประตูสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

.

“The Gates to Well-Living” ประตูสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีทั้ง 6 ด้าน ได้แก่

1. The Gates to Well Design การออกแบบที่สง่างามเหนือกาลเวลา รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกวัย

2. The Gates to Well Community มอบความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางสังคมคุณภาพ

3. The Gates to Well Rest คัดสรรโซลูชันเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี เช่น การติดตั้ง Solar Attic ระบบบ้านเย็นระบายความร้อนความชื้นใต้หลังคา ระบบบ้านปลอดฝุ่นและฟอกอากาศป้องกัน PM2.5

4. The Gates to Well Service บริการเหนือระดับจาก Major Concierge ที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้ทุกความต้องการ​

5. The Gates to Well Essence ร่วมมือกับแบรนด์ ปัญญ์ปุริ (PANPURI) รังสรรค์ “Malton Gates Signature Scent” กลิ่นหอมเฉพาะตัวสร้างความผ่อนคลาย แฝงกลิ่นอายความเป็นผู้ดีอังกฤษ เพิ่มความผ่อนคลายด้วย Private Spa ใน Clubhouse รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

6. The Gates to Well Health บริการสุด Exclusive จากโรงพยาบาลสมิติเวช ทุกครอบครัวจะได้รับชุดตรวจสุขภาพทางไกล TytoCare และแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ EngageCare โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพื้นที่ส่วนกลางที่มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Private Studio ที่รองรับการออกกำลังกายทุกรูปแบบ

โครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) บนเนื้อที่ประมาณ 21 ไร่ จำนวน 49 ยูนิต มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,100 ตร.ม.

การเดินทางถือว่าสะดวกมากครับ เพราะเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ง่ายและวิ่งเข้าออกได้หลายเส้นทาง

กานต์ลงทางด่วนพระราม 9 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์-รามคำแหง 24 มุ่งหน้ากรุงเทพกรีฑา หรือใครจะตรงมาทางมอเตอร์เวย์แล้วเบี่ยงซ้ายออกมาก็ได้เช่นกันครับ

ทำเลนี้ถือว่าร้อนแรงที่สุดเพราะเต็มไปด้วยโครงการที่พักอาศัยระดับ Luxury มากมาย สะท้อนภาพความเป็น Beverly Hills เมืองไทย ทำเลแห่งการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบในโซนกรุงเทพตะวันออก

ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเหลือง วิ่งผ่านบนถนนรามคำแหงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน รวมถึงการขยายเฟสของสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เป็นชนวนจุดความร้อนแรงของทำเลนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น

เห็นได้จากการเร่งพัฒนา Facilities ต่างๆ รอบโครงการมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ คอมมูนิตี้ Shopping Mall ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ Brighton โรงเรียนนานาชาติ Wellington โรงเรียนนานาชาติ Ascot มหาวิทยาลัยนานาชาติ Stamford สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ฯลฯ

ใกล้สถานพยาบาลชั้นนำ ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลวิภาราม เป็นต้น จึงนับเป็นทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยจริงๆ ครับ

ขับรถเข้ามาในซอยบางกอกแลนด์ประมาณ 350 เมตรก็จะพบกับโครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha

ด้านหน้ามีรั้วป้ายโครงการเป็นกำแพงหินอ่อนสีขาวดูเรียบหรู ประดับป้ายไฟชื่อโครงการสีเหลืองทอง

ด้วยความที่โครงการขยับตัวออกมาจากถนนใหญ่มาอยู่ด้านในเล็กน้อย ใช้เวลาขับรถออกไปไม่ถึงเสี้ยวนาที แต่กลับได้ประโยชน์มากในเรื่องความเงียบสงบ สดชื่น สบายใจ ได้รับความเป็นส่วนตัวและลดกรองมลพิษลงไปได้มาก ราวกับหลุดไปอีกโลกหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยความวิจิตร หรูหรา และงดงามไร้กาลเวลา

ด้านหน้าโครงการจะเป็นการรักษาความปลอดภัยแบบ Double Gate Security พร้อมกล้อง CCTV รอบโครงการ ทางเข้ามีประตูกั้น 2 ชั้น เพื่อแยกโซนสำหรับแขกและบุคคลทั่วไป กับโซน Residence Area ซึ่งเป็นที่พักอาศัย

โครงการใช้ระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียน License Plate Recognition เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในการผ่านเข้าออก

ด้านในเป็นวงเวียนต้นไม้เป็นจุด Drop Off ตลอดสอง ข้างทางระหว่างขับรถเข้ามาชมบ้านตัวอย่างบรรยากาศดีมาก ถนนในโครงการที่กว้างขวาง โครงการปลูกต้นไม้ไว้เยอะมากให้ความรู้สึกร่มรื่นสบายตา และยังอาศัยต้นไม้เป็นรั้วธรรมชาติ เพื่อความเป็นส่วนตัวได้อีกทาง หากให้เวลาอีกสักนิด เราคิดว่าต้นไม้คงจะเติบใหญ่ให้ความร่มรื่น ร่มเงาได้ดี

ขณะที่บุคคลจากภายนอกจะต้องแลกบัตรเพื่อผ่านประตูชั้นแรก จากนั้นเราสามารถนัดหมายแขกหรือบุคคลทั่วไปที่ไม่สนิทใจในการเชิญเข้าบ้าน มานั่งพบปะพูดคุยกันที่อาคารสโมสรส่วนกลางแทนได้ เพื่อความความอุ่นใจและคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านท่านอื่นด้วยครับ

Malton Gates Krungthep Kreetha เน้นความเป็น Private Residence ของลูกบ้านทั้ง 49 ยูนิต ถือว่ามีจำนวนไม่มาก ให้ได้รับความเป็นส่วนตัวสูง ขนาดของโครงการมีเนื้อที่ประมาณ 21 ไร่

ที่ดินเป็นแบบเส้นก๋วยเตี๋ยวคือ เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวลึกเข้าไป ทำให้ตรงกับแนวคิด “Luxury Gated Community” ที่โครงการวางไว้ตั้งแต่แรก คือลูกบ้านจะต้องได้รับความเป็นส่วนตัว ยิ่งเข้าไปลึกจากด้านหน้าโครงการเท่าไร ภายในยิ่งเงียบสงบมาก ราวกับการฝังรากของวัฒนธรรมความเป็นผู้ดีอังกฤษให้ลงลึกเข้าถึงก้นบึ้งของจิตใจ

การวางผังของบ้านจะแบ่งออกเป็น Cluster ซึ่งจะมีบ้านเพียง 2-4 ยูนิต เท่านั้น จึงเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวมาก ภาพรวมภายในโครงการจัดการเอาเสาไฟฟ้าลงใต้ดินไว้แล้ว เช่นเดียวกับงานระบบสายเคเบิ้ล Fiber Optic ต่างๆ ก็อยู่ใต้ดินเช่นกัน จึงทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามในการพักอาศัย

Clubhouse ขนาดใหญ่โดดเด่นอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ สถาปนิกได้รังสรรค์งานสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปแบบ Modern Classic Luxury ที่คลาสสิคไร้กาลเวลา (Timeless) ที่ส่งกลิ่นอายความหรูหราแบบอังกฤษ

ภาพรวมโครงการลงดีเทลของงานดีไซน์ได้ละเอียดละออ ไม่ว่าจะเป็นคิ้วบัว ผนัง การแบ่งลูกฟักกระจก บันไดไม้ธรรมชาติ ระแนงและกรอบเหล็กสีดำทำให้ดูลึกลับน่าค้นหา ตัดกับสีขาวของอาคารได้อย่างลงตัว

เรียกได้ว่าผ่านกระบวนการคิดมาแล้วในทุกมิติ โดยเฉพาะการรังสรรค์วัสดุ Top Notch Quality นำมาใช้ ผสานเข้ากับอัตลักษณ์ของศิลปะ และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวก

อาคาร Clubhouse A ตั้งอยู่ด้านหน้าและจะเชื่อมต่อกับ Clubhouse B ซึ่งอยู่ด้านในและให้ความเป็นส่วนตัวกว่า เนื่องจากมองว่า ลูกบ้านที่เป็นกลุ่มลูกค้าน่าจะชอบการเข้าสังคมพบปะพูดคุยสังสรรค์ ขณะเดียวกันก็ยังต้องการรักษาความเป็นส่วนตัวเอาไว้

ภายในเป็น Main Lobby Lounge สำหรับรับรองแขกของลูกบ้าน ให้มานั่งพักคอยหรือพบปะพูดคุยธุระกันโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปภายในบ้าน ด้านในยังมี Study Room 2 ห้อง และ Meeting Room อีก 2 ห้อง เพื่อรองรับการนั่งทำงานหรือประชุม

ตกแต่งภายในดูเรียบหรูด้วยสีผนังลายไม้สีน้ำตาล รับกับพื้นหินอ่อนลายขาวดำ เติมสีสันด้วยน้ำเงินเข้มซึ่งเป็นสีคู่ตรงข้ามของสีส้มซึ่งได้จากแสงไฟสาดส่องไปทั่วบริเวณ โดดเด่นด้วยแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ที่แขวนไว่้บริเวณโถงบันไดทางขึ้นชั้นบน ช่วยให้บริเวณนี้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันเป็นพื้นที่สำนักงาน ดังนั้น หากลูกบ้านมีความประสงค์จะนั่งพักผ่อน สามารถไปใช้บริการ Clubhouse B ซึ่งอยู่ติดกันแทน เราว่าจะได้รับความเป็นส่วนตัวมากกว่าครับ

เราเดินขึ้นบันไดวนซึ่งโดดเด่นอยู่บริเวณตรงกลาง พื้นบันไดเป็นหินอ่อนลาย Panda White ต่อลาย Bookmatch อย่างละเอียดเพื่อให้เส้นสายลายสีมีความเชื่อมต่อกันอย่างสวยงามปราณีต ขับพื้นผิวด้วยแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ เพื่อให้เป็นมุมที่สวยที่สุดอีกจุดของ Clubhouse

ชั้นบนเป็นพื้นที่สันทนาการ มีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ในบรรยากาศแบบโปร่งสบาย ออกกำลังกายได้ไม่อึดอัด

ทางโครงการได้ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายจาก Life Fitness แบรนด์เครื่องออกกำลังกายระดับโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับกับการออกกำลังกายในแบบ Luxury ให้กับลูกบ้าน

โดยจัดวางอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ครบครันทั้งแบบฟรีเวทและแมทชีน รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง Gym Ball, Kettlebell และ Yoga Mat ติดตั้งลู่วิ่งสำหรับคาดิโอ จักรยานไฟฟ้าและเครื่อง Elliptical ในบรรยากาศของวิวสวนสีเขียวและอีกด้านเป็นวิวสระว่ายน้ำที่อยู่เบื้องหน้า เราว่าน่าจะพอช่วยให้คลายเหนื่อยได้

ใกล้กันออกแบบให้เป็น Yoga Studio มีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า รอบห้องติดกระจกเงา เพื่อให้เราสามารถเช็คท่วงท่าและกำหนดลมหายใจระหว่างเล่นโยคะได้อย่างถูกต้อง หรือจะปรับเป็นห้องซ้อมเต้นบัลเลต์ ซ้อมร้องเพลงหรือป๊อบแดนซ์ก็ได้เช่นกัน

หากใครจัดคอร์สส่วนตัวสามารถเชิญครูจากภายนอกมาสอนที่นี่ได้เลยครับ แต่ที่เราชอบคือการลงรายละเอียดของงานดีไซน์ด้วยฝ้าเพดานทรงโค้งที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะสอดรับกับท่วงท่าความอ่อนช้อยของสรีสระได้

ที่นี่ยังมีห้อง Private Spa ไว้คอยบริการด้วยครับ จะเป็นแบบส่วนตัวมี 2 ห้องนวดแบบเตียงเดี่ยว สามารถแยกหรือเปิดประตูเชื่อมกันได้ เราสามารถนัดหมายเทอราพิสจากภายนอกมาให้บริการได้

ภายในยังออกแบบมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำเตรียมเอาไว้ให้พร้อมสรรพ

ไปชมพื้นที่ส่วนกลางบริเวณภายนอกซึ่งจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้ง โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำที่ตกแต่งพื้นสระด้วยสัญลักษณ์ของโครงการ

เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic 25 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังได้สบายเลย เรียกเหงื่อได้กำลังดี มีพื้นที่ของ Jacuzzi ด้านข้างสำหรับใครที่อยากนั่งแช่น้ำนวดตัวเพลินๆ สบายใจแยกออกไป

อีกฝั่งเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ด้านข้างสระมีโซน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ ด้านบนเป็นลานสำหรับจัดวาง Sun Deck ให้เราได้นอนอาบแดด หรือรับลมในช่วงบ่ายแก่ๆ

แต่หากใครอยากมานั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว โครงการก็จัดให้มี Pool Garden Lounge เป็นที่นั่งกลางแจ้งขนาดใหญ่ในสวนสีเขียวจัดวางเอาไว้ใกล้ๆ

หรือจะเดินออกกำลังกาย วิ่งจ๊อกกิ้งรอบสระว่ายน้ำก็ได้เช่นกัน

หรือจะไปนั่งที่ Pocket Garden Court เพื่อรอเด็กๆ ที่กำลังเล่นน้ำเพลินอยู่ในสระหรือว่ากำลังสนุกกับการเล่นเครื่องเล่นที่สนามเด็กเล่นซึ่งเป็น Educational Playground มีทั้งชิงช้า ม้านั่ง สไลเดอร์ ตั้งอยู่บนพื้นยางเพื่อรองรับแรงกระแทกได้เพราะได้รับการออกแบบให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ จัดวางให้อยู่ใกล้ๆ ในระยะสายตา ขณะเดียวกันก็เว้นพื้นที่ให้เด็กๆ ได้โลดแล่นตามจินตนาการของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศของต้นไม้และสนามหญ้าสีเขียวดูร่มรื่นดีมาก

การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง จัดวางสวนและ Clubhouse ให้เชื่อมต่อกันตามความสนใจของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว เพื่อให้สมารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ในบรรยากาศที่ร่มรื่น

ไม่ไกลกันนักยังมี Gates Pavilion เป็นศาลาบนสนามหญ้าสำหรับนั่งพักผ่อนในร่ม เหมาะสำหรับชมสวน จิบชายามบ่าย พูดคุยกันในบรรยากาศสบายๆ

ยอมรับเลยว่า Clubhouse ของโครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha มีขนาดใหญ่มากและออกแบบมาได้อย่างสวยงาม รองรับทุกความต้องการของผู้พักอาศัย

ด้านในยังออกแบบให้มี Clubhouse B ที่เชื่อมต่อกับ Clubhouse A สามารถเดินทะลุหากันได้ แต่จะให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ภายในมีด้วยกัน 2 ชั้น ด้านหน้าเป็นทิวต้นสนเพิ่มความร่มรื่นและเนรมิตบรรยากาศที่หรูหรา

อาคาร 2 ชั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก โดยออกแบบมาให้บรรยากาศดู Relax กันเอง ฟีลจึงออกมาเป็นแบบสบายๆ ภายในจัดวางโต๊ะที่นั่งเอาไว้ในหลายมุมเพื่อรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย

โครงการตั้งใจออกแบบให้ Clubhouse B เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่ต้องการพบปะแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจกับเพื่อนบ้านและคนในครอบครัวที่มาใช้พื้นที่ร่วมกัน ก่อให้เกิดเป็นวงสังคมใหม่ๆ สำหรับคนที่มีรสนิยม ความชื่นชอบและไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน

Co-Kitchen ให้เราจองห้องเพื่อจัดปาร์ตี้ส่วนตัวกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว

เราสามารถใช้บริการ Major Concierge Service ให้จองห้องจัดงานเลี้ยงหรือเชิญเชฟมาทำอาหารให้แบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่เราชอบมากๆ เลยครับและเหมาะว่าเป็นบริการที่ดีมาก

ชั้นบนเป็น Co-Working Space พร้อมโต๊ะประชุม

“Luxury is not about the things you have; it’s about the experiences you have.”

~ Coco Chanel

“People usually are the happiest at home.”

~ William Shakespeare

วิลเลี่ยม เชคสเปียร์เคยบอกว่า “คนมักจะมีความสุขที่สุดเมื่ออยู่บ้าน” กานต์ก็คิดเช่นนั้นครับ

เชื่อมั่นเหลือเกินว่า หากเราได้พักอาศัยในบ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ โอบกอดเราด้วยท้องฟ้า ให้ธรรมชาติสีเขียวเยียวยาจิตใจ ฟังเสียงน้ำไหลเป็นเครื่องดนตรีคอยขับกล่อม เราว่าความสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นได้ง่าย ใกล้ๆ ตัวภายในบ้านของเราเองครับ

ลองสำรวจจิตใจให้ดี เมื่อใจเราเป็นสุข ไม่ว่าก่อนหน้านี้เราจะเครียดมาจากเรื่องใด ทั้งการทำงาน การเรียน สภาพแวดล้อมภายนอกบ้านจะยุ่งยากเท่าไรก็ตาม แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะรู้สึกหายเหนื่อยได้ในทันที มีความสุขที่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้

กานต์มองว่านี่เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของแนวคิด The Gates to Well-Living ที่ทางโครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha ตั้งใจให้เราได้มีความสุขทั้งกายและใจในการพักอาศัย ณ ที่แห่งนี้

บ้านตัวอย่างที่กานต์พามาชมกันในครั้งนี้ เป็นแบบบ้าน MIDDLETON บ้านหน้ากว้าง 3 ชั้นขนาดที่ดิน 87.8-108 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Living Area 2 จุดและห้องนอนแม่บ้าน

ส่วนหน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้านป้องกันการทรุดตัว ด้านข้าง Built-in ตู้เก็บของขนาดใหญ่ เช่น ถุงกอล์ฟ อุปกรณ์ทำสวน เอาไว้ให้

นอกจากนี้ทางโครงการได้วางระบบในการติดตั้ง EV Charger เป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟส ที่แยกจากระบบไฟของตัวบ้านเอาไว้ให้แล้วครับ

ภายนอกออกแบบให้มีทางลาดขึ้นสู่พื้นต่างระดับเพื่อรองรับการใช้งานรถเข็น หน้าบ้านมาตรฐานจะมีรั้วบ้านเป็นรางเลื่อนเหล็กสีดำ ตัวบ้านภายนอกออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic Luxury ใช้สีขาวเป็นหลัก ชอบชั้นเป็นคิ้วลายเส้นตัดขวางสีเทาเข้ม รับกันดีกับสีดำของระแนงเหล็ก กรอบประตู-หน้าต่างเป็นเฟรมอลูมิเนียมชุบสีอะโนไดซ์ (Anodized) ของ TOSTEM ซึ่งจะมีความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ และช่วยให้บ้านสวยงามมากยิ่งขึ้น

โถงทางเข้ายกสูงแบบ Double Volume ซึ่งจะรับกับพื้นที่ด้านในบริเวณ Living Area ที่โดดเด่นด้วยเพดานสูงจรดชั้น 2 เช่นกัน ประตูทางเข้าบ้านเป็นอะลูมิเนียมลายไม้ของ TOSTEM จากญี่ปุ่น ดูเรียบหรูและมีความทนทาน มือจับติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในจะเจอกับโถงต้อนรับหรือ Foyer ก่อน

ภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งในสไตล์ Modern Classic Luxury ที่เน้นความหรูหราและโอ่อ่ากว้างขวางของการอยู่อาศัย แต่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการ

Living Area โดดเด่นด้วยผนังกระจกใสบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานประมาณ 6 เมตร สามารถเปิดประตูออกไปเดินเล่นที่สวนได้หรือจะนั่งชมวิวสบายๆ อยู่ภายในบ้านก็ได้เช่นกัน

Common Area เป็นหัวใจหลักของบ้านเลยครับ มีขนาดใหญ่เชื่อมต่อการใช้งานบริเวณชั้นล่างเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นมุมรับแขก นั่งเล่นพักผ่อน จัดวางชุดโซฟาขนาด 6-8 ที่นั่ง

เราค่อนข้างชอบการตกแต่งมุมนี้เป็นพิเศษ เน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบฟรีฟอร์ม ดูสบายตา เลือกสีโทนสดใสเข้ามาแซมเพื่อเพิ่มสีสันให้บ้านที่เป็นโทนขาว-ดำเสียส่วนใหญ่ ทำให้มุมนี้ของบ้านดู Cozy มากครับ เป็นมุมนั่งเล่นที่มีพื้นที่ใหญ่มาก สำหรับรองรับสมาชิกทุกคนภายในบ้านที่มีด้วยกันหลายเจนเนอเรชั่น จึงเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60 x 120 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบ ทาด้วยสีทาบ้านแบบ Low Voc ที่มีสารอินทรีย์ระเหยต่ำ

นอกจากนี้ ทางโครงการยังได้เพิ่ม Well-being ทุกหลังด้วยการนำระบบเทคโนโลยี nanoe™ X มาใช้ในการยับยั้งเชื้อไวรัสในอากาศ มลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตลอดจนการใช้วัสดุปิดผิวลดการสะสมเชื้อโรค การฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV ออกแบบให้เป็นบ้านปลอดฝุ่น

เนื่องจากเป็นพื้นที่สูงเปิดโล่งจรดชั้น 2 ทำให้ห้องดูโปร่งสบาย เป็นพื้นที่ใช้สอยสำหรับครอบครัวที่ดูแล้วไม่แออัดเลยครับ

พื้นที่ชั้นล่างออกแบบในลักษณะ Open Plan เชื่อมต่อ 3 ฟังก์ชันการใช้งาน Living-Dining-Kitchen ได้อย่างลงตัว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เพราะออกแบบมาให้ความสำคัญกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ของคนทุกรุ่นในครอบครัว

อีกทั้งพื้นที่ภายในบ้านชูจุดเด่นด้านการออกแบบมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงวัย ด้วย Multi-Functions Space, Multi-Functions Private Courtyard, Double Volume Living & Dining Area

บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ไว้สำหรับ 8 ที่นั่ง เราสามารถปรับให้มากกว่านั้นได้ครับ เพราะดูแล้วมีพื้นที่เพียงพอเหลือเฝือ ติดกันยังมีแพนทรีขนาดใหญ่ สำหรับจัดเตรียมอาหารไปด้วยในตัว

ผนังด้านหลังติดตั้งเคาท์เตอร์ อ่างล้างจานและตู้ Built-In เว้นช่องด้านข้างสำหรับจัดวางตู้เย็นขนาดใหญ่ 2 ประตูแบบเดียวกับบ้านตัวอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนด้านในเป็นครัวขนาดใหญ่ จัดวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) ด้านซ้ายมือจัดวางเตาขนาด 4 หัวของ TEKA ติดตั้ง Hob & Hood มาให้พร้อมช่องเปิดระบายอากาศด้านข้าง ถัดมาเป็นอ่างล้างจานขนาดใหญ่ 2 หลุมติดตั้งมาให้ ส่วน Top เคาน์เตอร์เป็นหินควอทซ์ ทนต่อแรงขีดข่วนได้ดี

ทั้งออกแบบให้มีประตูเปิดออกไปสู่ลานจอดรถหน้าบ้าน Serviced Area ด้านข้าง และ Maid Plaza บริเวณด้านหลังบ้าน แม่บ้านสามารถเข้าออกได้ผ่านช่องทางนี้ได้ตลอด เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย จะได้ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน

ส่วนตัวเราชอบการเชื่อมต่อกันของฟังก์ชั่นในโซนด้าน Dining ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้กับเจ้าบ้านและแขก หรือแม้แต่กับคนในครอบครัวด้วยกันเอง

นับว่าเป็นการออกแบบที่เป็นไปตามคอนเซปต์โครงการที่อยากจะเชื่อมต่อทุกคนภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้บ้านเสมือนเป็นสถานที่ของทุกคน

เพราะเป็นทั้งมุมรับประทานอาหารและสังสรรค์ไปในตัว ออกแบบให้มีทั้งมุมนั่งเล่นแบบโซฟาเล้าจน์และมินิบาร์ สามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ เปิดเพลงฟังเคล้าคลอ ก่อนที่เราจะไปนั่งโต๊ะรับประทานอาหารมื้อหลัก

ชั้นล่างวางผังให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับครอบครัวที่อยู่ด้วยกันหลาย Generations ออกแบบให้รองรับการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้พื้นห้องใช้เป็น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกเวลาที่เกิดการณ์ไม่คาดคิด

ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ได้ติดตั้งราวจับเพื่ออำนวยความสะดวกเอาไว้ให้แล้ว พื้นห้องน้ำและพื้นห้องเป็นแบบ Stepless คือเสมอกันจะไม่มีการลดหรือเพิ่มระดับเพื่อจะได้ไม่สะดุด ประตูห้องมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้งานวีลแชร​์

ห้องนอนผู้สูงอายุบริเวณชั้นล่างยังเชื่อมต่อกับสวนและลานเฉียงภายนอก ผนังเป็นกระจกใสบานใหญ่สามารถชมวิวสีเขียวได้จากภายในห้อง

หรือหากผู้สูงอายุอยากจะเปิดประตูออกมาเดินเล่นหรือขยับร่างกายเบาๆ หน้าบ้านตอนเช้าก็สะดวกมาก เพราะไม่ต้องรบกวนสมาชิกคนอื่นๆ ภายในบ้าน

ด้านข้างบ้านมีพื้นที่เป็นลานกว้าง Inner Courtyard สามารถจัดทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น จิบกาแฟยามเช้า ติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือ หรือจัดเป็นบาร์บีคิว ปาร์ตี้ ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้

ด้านข้างบ้านมีพื้นที่เป็นลานกว้าง Inner Courtyard สามารถจัดทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น จิบกาแฟยามเช้า ติดตามข่าวสาร อ่านหนังสือ หรือจัดเป็นบาร์บีคิว ปาร์ตี้ ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้

มีพื้นที่สนามหญ้าให้น้องหมาน้องแมวได้วิ่งเล่น เพราะทางเมเจอร์ยังคงเป็นผู้นำที่พักอาศัยแบบ PET-Friendly แต่หากใครสนใจอยากติดตั้งสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านก็สามารถทำได้เช่นกันเพราะบริเวณสวนด้านข้างบ้านมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางพอสมควรครับ

บริเวณชั้นล่างมีห้องน้ำสำหรับลูกบ้านและแขกใช้งานร่วมกันอยู่บริเวณโถงข้างบันได ออกแบบมาให้เป็น Powder Room คือเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ แต่ยังคงตกแต่งได้อย่างหรูหรามีระดับ

พื้นและผนังประดับด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน ภายในติดตั้งอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา ตลอดจนสุขภัณฑ์ให้เป็นของ Kohler

แบบบ้าน MIDDLETON และ แบบบ้าน LIVINGSTON ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ ทางโครงการจึงได้ติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านมาให้พร้อมกันนี้แล้ว ส่วนแบบบ้าน SMITHSON จะได้รับการจัดเตรียมพื้นที่ช่อง Shaft เอาไว้สำหรับให้ลูกบ้านติดตั้งเองได้ในอนาคต

ส่วนลิฟต์ที่โครงการติดตั้งมาให้แล้วนั้นจะเป็นของ HITASHI สามารถรองรับลูกบ้านได้ประมาณ 3 คน โดยสารขึ้น-ลง 1 ถึง 3 ชั้น ส่วนด้านข้างเป็นบันไดให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินขึ้น-ลง

เราเดินขึ้นบันไดมาชมชั้น 2 กันบ้างครับ บนชั้นนี้จะประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ห้อง โดยบ้านที่นี่ออกแบบห้องนอนให้เป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง

เช่นห้องนอนรอง 3 ที่อยู่โซนบริเวณด้านหลังบ้าน ข้อดีก็คือได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบและความเป็นส่วน ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทลดูเรียบง่ายน่ารักสดใส จัดวางฟังก์ชันภายในได้อย่างเป็นสัดส่วน

หัวเตียงฉลุลายเซาะร่องใส่ไฟ LED เพิ่มสีสันลงบนช่องโค้งทรง Arch ตกแต่งไปในโทนเดียวกัน

ภายในห้องนอนจัดวางเตียงนอนขนาดควีนส์ไซส์ไว้ที่บริเวณด้านในสุดของห้อง มีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สบายเลยครับ สามรถเปิด-ปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศเพิ่มการหมุนเวียนภายในห้องได้

ส่วนด้านหน้าเป็นมุมแต่งตัว มาพร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จัดเรียงต่อเนื่องกันไป ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีครับ

บริเวณโถงกลางบนชั้น 2 จัดวางที่นั่งสำหรับสมาชิกในครอบครัว เพราะถือว่าชั้นนี้เป็น Living Area อีกจุดครับ เด็กๆ สามารถมานั่งทำการบ้าน นั่งเล่น iPad พักผ่อน ดูทีวี เล่นเกม ทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับสมาชิกในครอบครัวด้วยกันที่บริเวณนี้ได้ จึงถือเป็นพื้นที่สำหรับความเป็นส่วนตัวที่ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรวมและสมาชิกคนอื่นในบ้าน

บ้านตัวอย่างจัดวางเก้าอี้หวายบุนวมผ้าบนโต๊ะแบบชั้นลอยและมีที่นั่งบีนแบ็กวางไว้ที่พื้น เพื่อให้เกิดความรู้สึกสบายๆ

Living Area ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการปรับใช้งานมุมนี้ให้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว

สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีก็ได้ แนะนำให้เลือกสมาร์ททีวีจอใหญ่ๆ ทำเป็นโฮมเธียเตอร์เอาไว้ดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ บางบ้านอาจจะอยากเอาไว้ทำเป็นออฟฟิศ ห้องทำงาน อ่านหนังสือหรือ Work From Home ก็ได้เช่นกัน

บริเวณโถงทางเดินชั้น 2 หากมองลงไปจะเห็นความเคลื่อนไหวของ Living Area ชั้นล่าง และยังได้รับอานิสงค์จากช่องแสงขนาดใหญ่ที่ส่องผ่านผนังกระจกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านนั่นคือการเปิดรับแสงธรรมชาติช่วยในการประหยัดพลังงาน

ส่วนห้องนอนรองอีกห้องเรียกว่า Junior Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนหลักที่ชั้น 3 อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านเช่นเดียวกัน

ห้องนอนจัดวางเตียงนอนไว้ตรงกลาง หัวเตียงตกแต่งลายไม้ให้ความรู้สึกเรียบเท่แบบวัยรุ่นผู้ชาย แต่ไฮไลท์น่าจะเป็นการตกแต่งบริเวณปลายเตียงด้วย BE@RBRICK เต็มผนังซึ่งกำลังอินเทรนด์อยู่ในขณะนี้

“𝐌𝐲 𝐰𝐢𝐬𝐡 𝐢𝐬 𝐭𝐨 𝐬𝐭𝐚𝐲 𝐚𝐥𝐰𝐚𝐲𝐬 𝐥𝐢𝐤𝐞 𝐭𝐡𝐢𝐬, 𝐥𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐪𝐮𝐢𝐞𝐭𝐥𝐲 𝐢𝐧 𝐚 𝐜𝐨𝐫𝐧𝐞𝐫 𝐨𝐟 𝐧𝐚𝐭𝐮𝐫𝐞.”

ผมค่อนข้างชอบห้องนี้เพราะผนังด้านหน้าบ้านเป็นกระจก Full Height เข้ามุมประตูทั้งสามด้าน เปิดมุมมองสู่ภายนอกได้กว่างกว่า ทั้งยังเปิดช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ช่วยในการประหยัดพลังงาน ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ ห้องนี้จึงดูโปร่ง โล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ตามหลัก Natural Ventilation

ด้านหน้าประตูเป็นชั้นวางของ สำหรับตกแต่ง ส่วนปีกซ้ายของห้องนอนดีไซน์เป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet มุมสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมห้องน้ำในตัว

เดินขึ้นบันไดไปชมชั้น 3 กันต่อครับ

โถงบันไดเน้นการออกแบบที่เรียบง่าย ด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนปิดผิวด้วย Engineering Wood สถาปนิกได้ลงรายละเอียดในการออกแบบขั้นบันไดให้กว้างเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้พักอาศัยเดินขึ้นลงได้สะดวกไม่มีสะดุด โดยขั้นบันไดแต่ละขั้นจะมีความกว้าง 27.5 ซม. มาพร้อมกับราวจับกันตกเป็นไม้ เสาเป็นเหล็กสีดำ ขอบราวเป็นกระจก Tempered

ชั้น 3 จะมีลักษณะเป็น Penthouse สำหรับ Master Bedroom เมื่อเราเดินขึ้นบันไดมาจะพบกับเคาน์เตอร์มินิบาร์จัดวางไว้

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องเอนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด สามารถดีไซน์ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกแต่ละบ้าน

เราว่าเหมาะที่จะทำเป็นห้องพระแบบบ้านตัวอย่าง หรือทำเป็น Entertainment Room สำหรับดูหนังเพลินๆ หลังเสร็จจากงาน หรือว่า Hall of Fame Room แสดงรางวัลแห่งความภาคภูมิใจก็ได้

Master Bedroom กินพื้นที่ทั้งชั้น สำหรับพักผ่อนสบายๆ ในบรรยากาศแบบส่วนตัว เปิดช่องแสงไว้สามด้านคือหน้าต่างด้านหลังบ้านบริเวณหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง หน้าต่างด้านข้างและด้านด้านหลังที่มองเห็นสวนชั้นล่าง และลานระเบียงกลางแจ้งของชั้นบน

บ้านตัวอย่างจัดวางเตียงไว้ตรงกลางโดยเว้นพื้นที่ว่างเดินได้รอบเตียงแบบเหลือๆ เราชอบการเลือกใช้สีเทาควันบุหรี่ที่เป็นเมนหลักในการตกแต่งห้องนี้ ดูรับกันดีกับสีน้ำตาลของไม้ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่เรียบง่าย

ส่วนปลายเตียงจัดม้านั่งสำหรับพักผ่อนจิบเครื่องดื่มเบาๆ ก่อนเข้านอน เรียกได้ว่าออกแบบได้ครบครันรองรับทุกความต้องการของผู้พักอาศัยจริงๆ ครับ

สถาปนิกออกแบบให้ห้องนอนหลักเป็นมากกว่าห้องนอนทั่วไป ดังนั้นเราจะเห็นว่าภายในห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้สอยได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ราวกับเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง

ที่สำคัญนอกจากฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านแล้ว เรื่องงานดีไซน์ก็ยังต้องให้น้ำหนัก คือบ้านมีความสวยดูดี ดูหรูหรา สมฐานะ โดยต้องไม่ลืมคำนึงถึงหลักการออกแบบที่จะช่วยเติมเต็มสุนทรียะในการพักผ่อนเข้ามาประกอบราวกับได้ใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หรูหราแถบมอลตัน

ดังนั้น สถาปนิกจึงออกแบบให้มีระเบียงขนาดใหญ่ภายนอกเพื่อการพักผ่อนรับลมชมสวนสีเขียวฝั่งด้านข้างบ้าน มองออกไปเห็นสโมสรส่วนกลาง ทั้งยังช่วยในการเปิดรับแสงจากภายนอกทำให้บ้านดูสว่าง ไม่ต้องเปิดไฟ สามารถประหยัดพลังงานในช่วงเวลากลางวันได้

ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นพื้นที่ของห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet และ Master Bathroom

ห้องแต่งตัวของห้องนอนหลักมีขนาดใหญ่มากครับ เหมาะสำหรับใครที่รักในการแต่งตัว สนุกกับการเลือกชุดเสื้อผ้า เพราะว่ามีพื้นที่จัดเก็บค่อนข้างมาก สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้โดยรอบห้อง ตรงกลางติดผนังกระจกเบื้องหน้าเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งเปิดรับแสงธรรมชาติ

ถัดมาตรงกลางเป็นสตูลเตี้ยสำหรับนั่งสวมรองเท้า แต่หากไม่ชอบเราแนะนำให้เปลี่ยนเป็น Island ตรงกลาง เพื่อวางเครื่องประดับเพิ่มเติมได้ครับ

ด้านหลังเป็นห้องน้ำซึ่งมีขนาดค่อนข้างกว้าง ภายในห้องพร้อมออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่แบ่งสัดส่วนได้ดี มีพื้นที่แยกส่วนเปียกแห้ง มาพร้อมกับสุขภัณฑ์แบบ Washless

โดดเด่นด้วยกระจกเงาบานใหญ่แบบเต็มผนัง มาพร้อมกับอ่างล้างหน้าแบบ His & Her แยกกันระหว่างคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงใช้งานกันคนละมุม

แต่ที่เราชอบคือออกแบบให้เชื่อมต่อกับพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk in Closet ชนิดที่ว่า ออกจากห้องน้ำมาก็เดินเข้าห้องแต่งตัวได้ทันที ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและสะดวกมากครับ

ห้องน้ำกแต่งในโทนสีน้ำตาลธรรมชาติ ข้อดีก็คือทำให้เรารู้สึกสบายใจและใช้เวลาอยู่ภายในพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่

เราสามารถตีฟอง นอนแช่อ่างอาบน้ำแล้วอ่านหนังสือ หรือจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด เปิดเพลงคลอไปด้วยเบาๆ เท่านี้ก็ทำให้การพักผ่อนอยู่บ้านของเรา สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นครับ

“𝑻𝒉𝒆 𝒏𝒆𝒘 𝒍𝒖𝒙𝒖𝒓𝒚 𝒉𝒂𝒔 𝒆𝒗𝒐𝒍𝒗𝒆𝒅 𝒃𝒆𝒚𝒐𝒏𝒅 𝒑𝒆𝒐𝒑𝒍𝒆, 𝒑𝒍𝒂𝒄𝒆𝒔 𝒂𝒏𝒅 𝒕𝒉𝒊𝒏𝒈𝒔 𝒊𝒏 𝒘𝒂𝒚𝒔 𝒕𝒉𝒂𝒕 𝒇𝒊𝒍𝒍 𝒐𝒖𝒓 𝒍𝒊𝒗𝒆𝒔 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒇𝒂𝒔𝒄𝒊𝒏𝒂𝒕𝒊𝒐𝒏, 𝒑𝒍𝒆𝒂𝒔𝒖𝒓𝒆 𝒂𝒏𝒅 𝒎𝒆𝒂𝒏𝒊𝒏𝒈…”

ปัจจุบันนี้ นิยามของคำว่า Luxury เปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมากครับ มีความหมายไปมากกว่าเรื่องของราคา ทว่าเป็นการเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าให้แก่ตัวเอง ดังนั้น การออกแบบที่พักอาศัยจึงไม่ใช่แค่บ้านสี่เหลี่ยมมุงหลังคาอีกต่อไป หากแต่ต้องบอกเล่าเรื่องราว คุณค่า สร้างความประทับใจอันนำไปสู่ความภาคภูมิใจในการได้เป็นเจ้าของ ภายใต้สภาวะแวดล้อมของการพักอาศัยที่สมบูรณ์แบบ สังคมที่มีระดับ

Malton Gates Krungthep Kreetha จึงเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นที่รุ่มรวยด้วยศิลปะแห่งการออกแบบที่พักอาศัย ทุกฟังก์ชั่นล้วนตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้านที่มีด้วยกันหลาย Generations

บรรจงรังสรรค์ผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern Classic Luxury ที่ไร้กาลเวลา หรูหราเหนือระดับ บนทำเลแห่งศักยภาพย่านกรุงเทพกรีฑา สามารถเชื่อมต่อถนนสายหลักได้มากมาย ควรค่าแก่การมาสัมผัสและเป็นเจ้าของ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
📞 โทร. 02-116-1111
💬 LINE : https://bit.ly/majorline-fb

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน