LONDON DAY1

“𝐊𝐞𝐞𝐩 𝐜𝐚𝐥𝐦 𝐚𝐧𝐝 𝐠𝐨 𝐭𝐨 𝐋𝐨𝐧𝐝𝐨𝐧.”🇬🇧

เราแอบล้อมาจากคำขวัญที่ใช้พูดเรียกสติพลเมืองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งตอนหลังเป็นมีมฮิตที่หลายคนชอบใช้คำขึ้นต้น Keep Calm and … ส่วนจะต่อท้ายด้วยอะไรก็ว่ากันไป

.

กานต์กำลังจะนำทุกคนไปเที่ยวลอนดอนกัน

.

LONDON The Series EP1 through LEICA Q2

.

ไฟล์ทสายการบินแห่งชาติของเราถึงสนามบิน LHR : London Heathrow Airport หรือ ลอนดอนฮีทโธรว์ช่วงหัวค่ำตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าไทยราว 7 ชั่วโมง กว่าจะผ่านตม. เสร็จพิธีการต่างๆ ก็ดึกพอดี

.

วันแรกจึงกลายเป็น DAY 0 เพราะเราตรงเข้าบ้านกันก่อนเลย ก่อนที่ชีวิตในลันดั้นจะเริ่มต้นขึ้นเช้าวันต่อมา

.

โปรแกรมจะเป็นประมาณนี้

.

DAY 0

BKK-LHR

FULHAM BOARDWAY

.

DAY 1

VICTORIA HOUSE

BRITISH MUSEUM

OXFORD STREET

SOHO

.

เริ่มต้นมื้อเช้าที่ลอนดอนด้วยอาหารเช้าสไตล์อังกฤษที่ร้าน Victoria House Coffee & Food ทริปนี้เราใช้วิธีนั่ง Taxi สลับ Tube จะได้เป็นการ Sightseeing ไปในตัว สลับวิวกับการมองดูบ้านเรือนผู้คน วิถีชีวิต และที่ชอบมากคืองานสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษที่เป็นแรงบันดาลใจในเรามาจนถึงทุกวันนี้

.

ในร้านคนเยอะมาก ดีนะที่จองเอาไว้ ไปถึงเวลาได้คิวเลย มื้อเช้าเราสั่งเป็น Traditional English Breakfast ขนมปังกรอบดีมาก เครื่องเคียงรสชาติจัดจ้านที่ไม่ทานมีแค่ถั่ว ตามมาด้วยกาแฟ 1 แก้ว เรียบง่ายแต่อิ่มนาน ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปในร้านมาเท่าไร เพราะเกรงใจแขกคนอื่นๆ

.

ร้านอยู่แถว Coptic Street ซึ่งใกล้กับ British Museum ซึ่งเราจะไปชมกันในช่วงเช้า แถวยาวอ้อมไปสุดด้านหลังของตึก พิพิธภัณฑ์ที่ลอนดอนส่วนมากเข้าฟรี มีให้ donate หรือบางนิทรรศการที่เก็บค่าเข้า ทริปนี้เราจึงเน้นไปที่พิพิธภัณฑ์เสียเป็นส่วนใหญ่

.

รายละเอียดของ British Museum เดี๋ยวแยกเล่าอีกรีวิวเพราะมีเรื่องราวน่าสนใจเยอะมาก ใช้เวลาเกือบทั้งวันข้าวปลาแทบไม่ได้แตะ เพราะอิ่มอกอิ่มใจกับการอ่านประวัติศาสตร์โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษ ที่ไปเก็บเอาข้าวของโบราณ หลักฐานทางประวัติศาสตร์มาจัดแสดงไว้

.

จากนั้นช่วงเย็น เราไปช้อปปิ้งกันต่อที่ Oxford Street ถนนสายช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในลอนดอน ขาช้อปแบบเราชอบมาก ร้านเยอะดี แต่ละร้านทำดิสเพลย์สวยจัด ท่ามกลางบรรยากาศของตึกเก่าๆ แต่ตอนนี้ที่อังกฤษไม่มี Tax Refund แล้วนะครับ แจ้งไว้เผื่อใครแพลนจะมากระเป๋าฉีกที่นี่

.

ปิดท้ายมื้อค่ำเดินต่อจาก Oxford Street ผ่านผับบาร์ ร้านอาหาร คนอังกฤษดื่มกันเก่งนะ มากันตั้งแต่เย็น หนุ่มสาวออฟฟิศมาผ่อนคลายหลังเลิกงาน สลับภาพกับบรรดาโรงละครที่แทรกตัวอยู่เป็นระยะ เป็นบรรยากาศของเมืองที่ Vibes ดีมาก

.

สักพักก็มาถึง SOHO รอคิวเล็กน้อยเพื่อกินเป็ดสี่ฤดูร้านดัง 555 ร้านอาหารราคาค่อนข้างสูง สมกับที่เป็นเมืองค่าครองชีพสูง เป็ดอร่อย เนื้อผัดพริกอร่อย แต่เมนูอื่นๆ ไม่ค่อยติดใจเท่าไร

.

จากนั้นก็ได้เวลากลับบ้านพัก ปิดไดอารี่วันแรกในทริปลอนดอนแต่เพียงเท่านี้

LONDONE

#ลอนดอน#london#England#britishmuseum#oxfordstreet#leica#leicaq2

ขอบบ้านเรือนสไตล์อังกฤษมาก อาคารอายุมากแล้วแต่ยังคงความคลาสสิค

ทริปนี้ตั้งใจไปเข้าพิพิธภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด เพราะฟรี!! เอ๊ยย เพราะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่ดี และน่าสนใจ

การเดินทางเราเรียกแท๊กซี่จากสนามบิน เข้าเมือง ค่ารถมหาโหดอยู่นะ ใครสัมภาระไม่เยอะสามารถใช้ Express ได้

เช้าๆ นั่งรถเล่นดูผู้คน ก่อนจะไปกิน English Breakfast

บรรยากาศของเมืองเป็นสิ่งที่ชอบที่สุด ดูคลาสสิค เรียบๆ หรูๆ ดูผู้คนใช้ชีวิตกันสบายๆ ช่วงนี้อากาศยังค่อนข้างหนาวอยู่ คนท้องถิ่นอาจจะชิน เห็นออกมานอกบ้านกันเต็มไปหมด

ผ่าน High Street Kensington อีกหนึ่งย่านที่มาเดินเล่นถ่ายรูปได้ มีร้านให้ช้อปปิ้งพอประมาณ

การเดินทางใช้ Taxi สลับกับรถไฟ ได้บรรยากาศแตกต่างกันไป เก็บภาพจากในขบวนถ่ายออกมา

อาหารเช้าแบบ Traditional English Breakfast จานใหญ่มาก แต่ทานหมดนะ

ขนมปังอบมาได้กรอบนอก แฮชบราวน์ดี ไข่อร่อย เสียดายไม่ทานถั่ว

จากนั้นไปต่อแถวเข้า British Museum กัน เช้าๆ ก็คือคนเยอะมากแล้ว

British Museum เข้าฟรี เป็นความดีงามมาก

British Museum หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์และธรรมชาติของมนุษย์ที่สำคัญที่สุดในโลก ก่อตั้งในปี 1753 เริ่มแรกเป็นการจัดแสดงของสะสมของเซอร์ ฮานส์ สโลน นายแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ

ภายในตกแต่งสวย ดูเรียบง่ายแต่ใหญ่โต อาจจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเดินชม

เราเริ่มจากทางด้านซ้ายเป็นห้องศิลปวัตถุอียิปต์ขนาดใหญ่ เดี๋ยวรายละเอียดค่อยมาลงในรีวิวแยกอีกที

มัมมี่ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น

สมัยเรียนวิชาประวัติศาสตร์ อาจารย์มักจะพูดว่า อังกฤษ เป็นประเทศที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เป็นความหมายแฝงที่จะบอกว่าอังกฤษมีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก เห็นได้จากของที่นำมาจัดแสดงใน British Museum แห่งนี้

ออกมาก็หิวเลย แวะกินขนมกันสักหน่อย

ไม่อ้วน!!!!

ทริปนี้เดินเยอะอยู่เหมือนกันนะ เป็นการออกกำลังไปในตัว ส่วนมากเป็นการเดินถ่ายรูป ดูผู้คนบ้านเรือน

ความมหัศจรรย์ของอังกฤษคือถ่ายยังไงก็สวย เมืองดูคุมโทนสีน้ำตาลตุ่นๆ ตลอดเวลา เป็นโทนเมืองที่เข้ากับโทนของ LEICA ที่สุดละ

ด้วยความที่เมืองสวย ทำให้รูปถ่ายออกมาสวยตามไปด้วย นั่งรถผ่านก็หยิบกล้องมา Snap ได้ทันที

บรรยากาศที่รถไฟใต้ดิน คนอังกฤษติดเรียกว่า Tube ซึ่งแปลว่าท่อ เพราะมีลักษณะเหมือนท่ออุโมงค์ รูปนี้ถ่ายจากด้านในรถไฟผ่านกระจกออกไป

ลองถ่ายตอนรถไฟกำลังวิ่ง

ไปช้อปปิ้งที่ Oxford Street

เป็นช่วงชีวิตที่ดูวุ่นวายแต่ก็สนุกสนานดี รูปก็จะต้องถ่าย ไหนจะอยากเดินดูของอีก 555

“The vibe of London as a city is captivating. It’s both fast-paced and extremely rushed but still has the calmness that would attract any big-city person.”

-Ali Fazal.

ส่วนตัวชอบ Oxford Strret มาก เพราะตึกสวย เดินทางสะดวกเชื่อมต่อกับถนนช้อปปิ้งอื่นๆ อีกหลายสาย จะเดินข้ามไป Regent Street ช้อปต่อที่ห้าง Liberty ด้วยก็ได้

Molton Brown แบรนด์โปรด ครีมอาบน้ำหอมมาก เคยใช้ที่โรงแรมติดใจจนต้องมาหาซื้อต่อที่ร้าน

ร้านนี้เรารู้กัน

ร้านสวยมากพ่อเอ๊ยยย

บรรยากาศตอนกลางคืน ร้านรวงเปิดไฟก็สวยดี เดินผ่านตรงนี้จะแวะไปซื้อ New Balance Made in UK

ลอนดอนเป็นเมืองที่ผสานความเป็นธุรกิจเข้ากับวิถีชีวิตได้ดี มี Art Space โรงละคร โรงหนัง แทรกตัวอยู่แทบทุกที่ วัฒนธรรมการเสพงานศิลป์คืออินสุด เป็นเมืองที่ชอบมาก

ปิดท้ายที่ SOHO ด้วยเป็ด Four Seasons หิวจนตาลายยยยย

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน