Digital Delicious

🍽จะไฟน์ไดนิ่งกันทั้งที เดี๋ยวนี้ต้องไม่ธรรมดา

มีความป่าหิมพานต์ ความจักรวาล ความใต้ทะเลลึก

มื้ออาหารของเราคืนนี้ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป‼️

______________________________

เห็น Instagramer หลายคนลงรูปทานอาหาร เป็นดาวเสาร์บ้าง ป่าหิมพานต์บ้าง สีสันสดใสดี ดูแล้วมี story มี theme นานา ผมก็เลยไปหาข้อมูลเพิ่มดู พบว่า เป็น fine dining สุดหรู Digital Delicious ที่โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit, A Luxury Collection Hotel, Bangkok

บรรยากาศคือว๊าวมาก แสงสีช่วยบิ้วได้ดีจนต้องคอยลุ้นทุกจานที่พนักงานนำมาเสิร์ฟว่ามันจะเป็นอย่างไร เชฟครีเอทความเป็น Digital Art เข้าไปในอาหารแบบ Fine-dining ได้เก๋ดี ผสานกับการพรีเซนต์ในแบบ 4D มีครบเลยครับ แสง สี เสียง กลิ่น รส สัมผัส บนโต๊ะก็จะมีการยิงเลเซอร์ กราฟฟิคต่างๆ ลูกเล่นจัดเต็มมาก ทำออกมาได้ดูดีมีความน่าสนใจ ช่วยให้อาหารมื้อนี้สนุกยิ่งขึ้น

มีด้วยกัน 4 คอร์ส แต่ละคอร์ส เชฟจะเป็นไกด์นำเราเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็น

• Castle in the Sky : Flower Of Life เป็น Appetizers มี 3 คำ 3 รสชาติ ยิงเลเซอร์ตัวเลขบนโต๊ะกำกับมาว่าจะต้องทานอะไรก่อนหลัง ประกอบด้วย คำแรกเป็น บีทรูทชุบแป้งทอดสอดไส้กั้ง ชีสและตัดเลี่ยนด้วยส้มยูซุ หอมหวานกำลังดี

คำต่อมาเป็น ฟัวกราส์ ที่รสหวานนุ่มผสมความขมมันจาก ช็อคโกแล็ต รสเข้มข้นเข้ากันดี เชฟเก่งมากทำตับห่านไม่คาวเลย

คำสุดท้ายเป็น มอสซาเรลล่าชีสทอดสอดไส้แบล็กทรัฟเฟิล ในฐานะทรัฟเฟิลเลิฟเวอร์ ผมก็ต้องชอบคำนี้ที่สุด หอมทรัฟเฟิลสุดๆ

• Into the Wood : Hidden Treasure เป็นเนื้อกวางย่าง ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิดหรอก เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ทานเนื้อกวาง (ใครไม่ชอบขอเปลี่ยนเป็นเป็ดได้ครับ) เนื้อกวางนุ่มหอมหวานสุกกำลังดี มีดอกกะหล่ำพิวเร่ ราดด้วยมัสตาร์ด ทานเสร็จแล้วให้ดื่ม consomme เห็ด ตามลงไปได้รสรสเค็มปะแล่มๆ เข้ากันดี มีบรรยากาศแบบป่าหิมพานต์เป็นฉากหลัง

• Deep Blue Sea : The Octlantis เป็นจานหลักที่อร่อยมาก ชอบปลาหมึกอยู่แล้ว ซูวีได้นุ่มดี มีความนวลเนียนของครีมจากข้าวริซอตโต้ โรยหน้าด้วย ซาลิคอร์เนีย ข้าวดำเวเนเร่แบบกรอบๆ และผักโขมแดง

• Space Odyssey จานนี้ผมรอคอยมาก เพราะมันสวยงามที่สุดในจักรวาล เป็นจานของหวานปิดท้าย ด้วยมูสดาร์กช็อกโกแลตสุดเข้มข้น ด้านนอกแต่งสีแตกต่างกันไป ได้ความเปรี้ยวนิดๆ ของแอปริคอทมาช่วยตัดความหวาน ทำให้จานนี้เพอร์เฟคมาก บรรยากาศเหมือนทานข้าวอยู่นอกโลก!!

Digital Delicious ทำให้คุณกานต์ทานข้าวแบบธรรมดา … ไม่ได้ซะแล้ว

#KANT#luxurytravel#leisuretravel#hotellifestyle

#digitaldelicious#digitalartdining#sheratongrandesukhumvit

Digital Delicious มื้ออาหารสุดครีเอทีฟ ที่เสิร์ฟทั้งอาหารจานอร่อย บวกกับไอเดียที่สร้างสรรค์ผ่านงานดิจิทัลอาร์ตแบบ 4D เข้าไปในอาหารทุกจาน ทำให้เราได้ทั้งภาพ แสง สี เสียง กลิ่น รส สัมผัส เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ที่เชฟเกตาโน่ พาลุมโบ้ เอ็กซ์เซ็กคิวทีฟเชฟของโรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit, A Luxury Collection Hotel, Bangkok ร่วมกับ Doozy Digilab ที่มาควบคุมงานดิจิทัลอาร์ต

กานต์เลือกทานดินเนอร์ครับ เพราะที่นี่จะมีทั้งแบบอาหารกลางวันและอาฟเตอร์นูนทีด้วย ซึ่งแต่ละมื้อจะพรีเซนต์แตกต่างกันไป

ที่เลือกดินเนอร์เพราะอยากมาเจอจานนี้ เกร๋วมากกกกก

นี่ดาวอะไรครับ … นักเรียนนนนนนนนน

บรรยากาศระหว่างทานก็จะมีกราฟฟิคแตกต่างกันออกไปตามตีมของแต่ละคอร์ส แสง สี เสียงแบบ 360 รอบห้องและบนโต๊ะอาหารด้วย

สำหรับดินเนอร์จะเปิดเป็น 2 รอบคือ 19.00-20.30 น. และ 21.30-23.30 น. เมื่อแขกมาครบจะเชิญไปยังโต๊ะที่นั่ง ซึ่งจะมีการยิงเลเซอร์เป็นชื่อเราเอาไว้ให้เห็นชัดเจน

จากห้องมืดๆ สีดำ สักพักจะค่อยๆ ทำให้ห้องมีบรรยากาศของตีมต่างๆ ตามคอนเซปต์ ซึ่งจะค่อยๆ ปรับอารมณ์และกระตุ้นให้เราสนุกกับการรับประทานอาหารมากขึ้น

จานแรกมาเสิร์ฟแล้วเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยชื่อว่า Castle in the Sky : Flower Of Life มีด้วยกัน 3 คำ บนเชิงเทียนหรูหรา จะสังเกตว่ามีตัวเลขแบบโรมัน กำกับเอาไว้ให้เราทานเรียงกันไป จะได้ไล่รสชาติได้ถูกเป็นการเปิดปากเพื่อรับสัมผัสของมื้ออาหาร

Appetizers 3 คำ 3 รสชาติประกอบด้วย

I บีทรูทชุบแป้งทอดสอดไส้กั้ง ชีสและตัดเลี่ยนด้วยส้มยูซุ หอมหวานดี

II ฟัวกราส์ รสหวานนุ่มผสมความขมมันจาก ช็อคโกแล็ต รสเข้มข้นเข้ากันดี เชฟเก่งมากทำตับห่านไม่คาวเลย

III มอสซาเรลล่าชีสทอดสอดไส้แบล็กทรัฟเฟิล ในฐานะทรัฟเฟิลเลิฟเวอร์ ผมก็ต้องชอบคำนี้ที่สุด หอมทรัฟเฟิลสุดๆ

จานต่อมา บนโต๊ะจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใสของดอกไม้ในป่าใหญ่ ให้คอนเซปต์ของ Into the Wood : Hidden Treasure ป่าในจินตนาการ ที่มีสัตว์ต่างๆ มากมาย พร้อมกับดอกไม้ที่เบ่งบาน

เป็นการทานเนื้อกวางครั้งแรกในชีวิต ไม่แย่อย่างที่คิด เชฟทำได้ดีไม่มีกลิ่นสาบ นุ่มกำลังดี แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกอร่อยว๊าวมาก อาจจะเพราะระยะหลังผมค่อยๆ ลดการทานเนื้อสัตว์ลงไปเยอะ เน้นผักเสียมากกว่า

แต่ถามว่า ผมทานได้ไหม เนื้อกวาง … ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี แต่ถ้าใครไม่ทานก็เปลี่ยนเป็นเป็ดได้ครับ

บรรยากาศตอนทานคอร์สที่ 2 ในตีม Into the Wood : Hidden Treasure

จานนี้สวยจนต้องถ่ายรูปกันเก็บไว้ มาทาน fine dining ที่ได้รูปกลับบ้านไปเยอะมาก วันที่ผมไปมีช่างภาพของทางห้องอาหารมาเก็บภาพให้ด้วย อาจจะเช็คก่อนก็ได้ว่ามีทุกครั้งรึเปล่า

คอร์สที่ 3 Deep Blue Sea : The Octlantis มาพร้อมกับบรรยากาศสีน้ำเงินของโลกใต้ท้องทะเลลึก โปรตีนหลักเป็นหนวดปลาหมึกยักษ์ นุ่มมากครับ

เชฟซูวีปลาหมึกได้นุ่มดี หุ่นง่ายไม่เหนียวเลย มีความนวลเนียนของครีมจากข้าวริซอตโต้ โรยหน้าด้วย ซาลิคอร์เนีย ข้าวดำเวเนเร่อบกรอบ และผักโขมแดง

คอร์สสุดท้าย Space Odyssey พรีเซนเทชั่นเร้าใจมาก เริ่มจากจานเปล่าสีขาวบนโต๊ะ ที่จะค่อยๆ เปลี่ยนสีสันลวดลายไป จนกลายเป็นจักรวาล

จานนี้เป็นของหวานมูสช็อคโกแลตสุดเข้มข้นที่ดูไม่เหมือนเลย เพราะเชฟได้พาเราไปตะลุยอวกาศบนจักรวาลอันแสนไกล มีดาวเสาร์เป็นไฮไลท์

ยอมใจจานนี้ที่สุด

ระหว่างทาน สามารถเอามือทาบบนโต๊ะ จะมีพลังออกมาสามารถสาดให้พุ่งไปยังฝั่งข้ามได้ นึกถึงสงครามอวกาศกันเลยทีเดียว

#โดยสรุปDigital Delicious เป็นอีกหนึ่งมื้ออาหารที่อร่อยและสนุกสนาน เป็นการเปิดประสบการณ์รับประทาน Fine Dining ที่แปลกใหม่ น่ามาลองกัน มีทั้งอาหารกลางวัน อาฟเตอร์นูนที และดินเนอร์ มีทุกวันศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์

จองได้ที่โทร. 02-649-8888, 088-055-6699 หรือ https://www.digitaldelicious.net ครับ

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน