“𝐃𝐚𝐧𝐬 𝐥’𝐚𝐫𝐭 𝐝’𝐡𝐚𝐛𝐢𝐭𝐞𝐫, 𝐭𝐨𝐮𝐭 𝐜𝐨𝐦𝐦𝐞𝐧𝐜𝐞 𝐩𝐚𝐫 𝐮𝐧𝐞 𝐥𝐮𝐦𝐢è𝐫𝐞.”
.
ในศิลปะแห่งการอยู่อาศัย—ทุกอย่างเริ่มต้นจากแสง แสงคอยปลุกผนังให้ตื่น เปิดเงาใบไม้ให้เคลื่อนไหวและทำให้บ้านเป็นสถานที่ทำให้ใจสงบอีกครั้ง แสงคือภาษาที่ทำให้เรารู้สึกถึงองค์ประกอบที่หลอมรวมกันอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง วัสดุ พื้นที่ จังหวะชีวิต หรือความรู้สึกที่บ้านส่งกลับมาหาเรา
.
เมื่อก้าวเข้าสู่โครงการแซงเคียม กรุงเทพกรีฑา (Cinquième Krungthep Kreetha) สิ่งที่กานต์รู้สึกได้คือความตั้งใจที่สื่อสารผ่านรายละเอียดที่ไม่ต้องมีคำอธิบาย เส้นสายของอาคารที่เรียบคมแต่ไม่แข็งกระด้าง การเว้นระยะบ้านต่อบ้านให้มีช่องว่างระหว่างใจ และความโปร่งสบายที่ทำให้พื้นที่ภายนอกและภายในไหลต่อกันได้อย่างนุ่มนวล
.
โครงการตั้งอยู่ที่ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ซึ่งเป็นทำเลที่กำลังเติบโตอย่างเงียบงาม สะดวกสบายขึ้นทุกเวลา แต่ว่ายังไม่รีบร้อน มีความสมดุลแบบ paradoxe français— คือความหรูหราโดยไม่ต้องโอ้อวด เพราะที่นี่เข้าใจดีว่า “ความเงียบสงบคือความหรูหรารูปแบบหนึ่ง”
.
Cinquième เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยครับ ให้ความรู้สึกราวกับงาน Haute Couture ทุกรายละเอียดในการออกแบบ นำเสนอโดยใช้วิธีคิดสไตล์ฝรั่งเศส ถ้าจะให้พูดแบบชัดก็คือโครงการนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทุกคน แต่สำหรับผู้ที่เห็นคุณค่าของความตั้งใจในทุกเส้นร่าง สัดส่วนและวัสดุ
.
เมื่อเข้ามาในบ้านสิ่งที่เด่นชัดไม่ใช่ขนาดแต่เป็น “จังหวะในการดำเนินชีวิต” เมื่อสเปซในบ้านดีเราจะรู้สึกสุขใจ เห็นได้จากพื้นที่ชั้นล่างเชื่อมต่อจากห้องรับแขกสู่พื้นที่รับประทานอาหาร และบรรยากาศของสระว่ายน้ำท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว
.
Double Volume ที่สูงโปร่ง เปิดทางให้แสงธรรมชาติเข้ามาทำหน้าที่เป็นศิลปินประจำบ้าน พื้นที่ชั้นบนคือพื้นที่แห่งความผูกพันธ์ของครอบครัว ห้องนอนถูกวางตำแหน่งที่สงบเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อน และ Family Area กลายเป็นศูนย์กลางของทุกวัย เป็นการออกแบบวิถีชีวิตในทุกห้อง
.
ภายในความสงบนี้เอง แนวคิด “The Fifth Dimension of Privacy Living” ได้ก่อรูปขึ้นอย่างเงียบๆ Cinquième มีพื้นที่ให้เราหายใจอย่างเต็มที่ มีอิสระในการใช้ชีวิตตามธรรมชาติของตัวเอง เกิดเป็นความงดงามที่ค่อยๆ เติบโตตามเวลาและพร้อมส่งต่อเป็นมรดกแห่งคุณค่าด้านการอยู่อาศัย
.
หัวใจของ Cinquième คือแนวคิด “5 มิติแห่งความเป็นส่วนตัว” เมื่อเดินสำรวจจนทั่ว กานต์ก็เข้าใจว่าทำไมโครงการถึงใช้ชื่อนี้ เอาจริงๆ เราวา่า Cinquième อาจไม่ได้หมายถึงลำดับที่ 5 แต่หมายถึง “ชั้นความรู้สึกที่ลึกที่สุดแห่งการอยู่อาศัย” เป็นความรู้สึกสุขใจที่บ้านมอบให้เรา ส่งผลให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างงดงาม
.
กานต์มองว่าบ้านที่ดี ก็เหมือนบทกวี�
… ไม่ต้องยิ่งใหญ่�
… ไม่ต้องเสียงดัง
… แค่ “ให้เราได้เป็นตัวของตัวเองอย่างสวยงาม” ก็เพียงพอ
.
Cinquième Krungthep Kreetha จึงไม่ใช่บ้านที่สร้างขึ้นเพื่อให้ถูกมองว่าร่ำรวยหรูหราแต่สร้างขึ้นมาเพื่อ “ให้เราได้ใช้ชีวิตภายในอย่างงดงามที่สุด”
.
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 098-818-9941 หรือ www.cinq-uieme.com
แซงเคียม กรุงเทพกรีฑา (Cinquième Krungthep Kreetha) โครงการบ้านเดี่ยวหรู Pool Villa ระดับ Super Luxury ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง มีเพียง 16 ยูนิต เป็นบ้านที่ดินใหญ่ 135-155 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 655-805 ตร.ม. รองรับ 4-5 ห้องนอน จอดรถได้สูงสุด 5 คัน อีกทั้งติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านมาให้แล้วในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท* รูปแบบ Private Estate ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ออกแบบโครงการด้วยแนวคิด แนวคิดความหรูหราแบบ QUIET LUXURY ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ผ่านการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่เลือกสรรอย่างงดงาม ให้โทนสีอบอุ่นและแสงเงาที่สมดุล เพื่อให้บ้านสะท้อนเรื่องราวและตัวตนของผู้อยู่อาศัยผ่านรายละเอียดต่างๆ ในการออกแบบได้ดีที่สุด โครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ดินขนาดเกือบ 10 ไร่ ด้วยจำนวนเพียง 16 ยูนิตออกแบบบ้านโดยเน้นให้เกิดความเป็นส่วนตัว สถาปนิกออกแบบให้หน้าบ้าน 2 ฝั่งหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทิศทางลมของไทย อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงการปะทะแดดโดยตรงจากทิศตะวันตก ทำให้บ้านอยู่แล้วเย็นสบายไม่รู้สึกร้อน โครงการแซงเคียม กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่ในซอยประชาร่วมใจ ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ความโดดเด่นของซอยนี้ก็คือเป็นซอยที่มีโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ขึ้นไปหลายโครงการ สะท้อนถึงศักยภาพของทำเลที่มีมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งยังเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งไลฟ์สไตล์และสาธารณูปโภคครบครัน โดยเฉพาะการมีโรงเรียนนานาชาติ Brighton College Bangkok ที่อยู่ใกล้โครงการประมาณ 800 เมตรเท่านั้น ถัดไปไม่ไกลนักเป็น Wellington College International School และ British Mandarin International School ฯลฯ สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อสร้างความอุ่นใจ ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลเวชธานี ฯลฯ นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยห้างร้านต่างๆ อาทิ The Park Avenue กรุงเทพกรีฑา, Market Today กรุงเทพกรีฑา, Kurve 7 Community Mall และ Market Place กรุงเทพกรีฑา เป็นต้น ทำเลนี้ถือว่าเดินทางสะดวก เนื่องจากเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ง่ายและวิ่งเข้าออกได้หลายเส้นทาง เป็นพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สามารถเชื่อมต้่อถนนพระราม 9 ถนนศรีนครินทร์ ทางด่วนศรีรัช, มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี และถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง MRT ศรีกรีฑา สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ ARL หัวหมาก ทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน รวมถึงการขยายเฟสของสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เป็นชนวนจุดความร้อนแรงของทำเลนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น ทำเลนี้ถือว่าเดินทางสะดวก เนื่องจากเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ง่ายและวิ่งเข้าออกได้หลายเส้นทาง เป็นพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สามารถเชื่อมต้่อถนนพระราม 9 ถนนศรีนครินทร์ ทางด่วนศรีรัช, มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี และถนนกาญจนาภิเษก “แซงเคียม กรุงเทพกรีฑา” (Cinquième Krungthep Kreetha) จาก “แอสเซท ไฟว์” (A5) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ระดับ Ultra & Super Luxury มาแล้วหลายโครงการบนแนวคิด GREATNESS INSPIRE by LOVE ที่ใช้ “ใจ” สร้างบ้านด้วยความรักความใส่ใจ เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่มองหาคุณค่าแห่งชีวิตและตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่แท้จริง บรรยากาศของโครงการรายล้อมด้วยองค์ประกอบแห่งความหรูหรา มีความรื่นรมย์ ตอบสนองกลุ่มผู้อาศัยที่เป็น Young Successor ที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว และ A5 ก็มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มตลาดบนอยู่แล้ว ทำให้สามารถรังสรรค์วิลล่าหลังใหญ่ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวออกมาได้อย่างน่าสนใจ Main Gate ได้รับการออกแบบมาอย่างเรียบหรูสไตล์ Quiet Luxury ด้านหน้าประดับด้วยหินอ่อนสีเอิร์ธโทน สลักชื่อโครงการ Cinquième เอาไว้อย่างเรียบโก้ด้านหน้า ทางเข้า–ออกจะแยกเป็น 2 ฝั่ง ประตูรั้วโครงการจะเป็นบานรางเลื่อนไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน คั่นกลางด้วยป้อมรปภ. พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รอบโครงการติดตั้งกล้อง CCTV ให้ความปลอดภัยระดับสูงสุด รั้วทึบและต่อระแนงสูงขึ้นไปโดยรอบโครงการ ด้านหน้าประดับด้วยต้นไม้ ไม้พุ่มและไม้ดอกเพิ่มความสดชื่นครับ เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะสังเกตเห็นถนนที่ถูกดีไซน์ให้มีแพทเทิร์นของพื้นผิวที่ช่วยดึงดูดความสนใจมากขึ้น ด้วยความที่โครงการเน้นบ้านหลังใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ แต่ก็ยังมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางทั้ง Clubhouse ด้านหน้าเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวน Residenses Area และด้านในยังมีสวนเพื่อให้มานั่งพักผ่อนกันได้ด้วย อีกทั้งยังเดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ ทำให้ได้ทัศนียภาพภายในที่สวยงาม ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย คำว่า “Cinquième” ไม่ได้หมายความถึงแค่ตัวเลขลำดับที่ห้า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ “พื้นที่ที่มีชีวิต” เราอยากเล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการให้ฟังก่อนว่าได้มาจาก Cinquième Arrondissement ซึ่งเป็นเขตเก่าแก่ใจกลางปารีสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ เราจะเห็นถนนหินกรวดที่เรียงตัวอย่างมีจังหวะ อาคารสไตล์คลาสสิกที่ตั้งอยู่อย่างสง่างาม บรรยากาศที่นิ่งแต่ลุ่มลึกเหมือนเวลาหมุนช้ากว่าที่อื่นเล็กน้อย ความหรูหราจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องประกาศให้ใครรู้ แต่กลับซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ ที่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างพิถีพิถันและเปี่ยมไปด้วยรสนิยม เป็น Quiet Luxury ในแบบฝรั่งเศสที่หลายคนหลงรัก แนวคิดนี้จึงถูกนำมาตีความใหม่สำหรับโครงการ Cinquième Krungthep Kreetha ให้เป็นบ้านที่สะท้อนรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสงบ แต่ยังต้องการความลึกซึ้งในงานออกแบบ เป็นบ้านที่มีความเรียบง่ายอย่างตั้งใจ และความหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเข้าสู่โครงการ เราจะได้พบกับบรรยากาศของสวน ต้นไม้ ธรรมชาติและงานศิลปะสถาปัตยกรรมชิ้นเอก ตรงจุดศูนย์กลาง พร้อมน้ำพุที่ตกแต่งด้วยประติมากรรม Archangel Michael สัญลักษณ์แห่งการปกป้องคุ้มครองที่มอบความอุ่นใจให้ทุกครอบครัว แบบบ้านแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ Majesté พื้นที่ใช้สอย 805 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถและ Maison Privée พื้นที่ใช้สอย 655 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ออกแบบให้มี Double Volume ในหลายจุดภายในบ้าน ได้ความโปร่งโล่งมาก และทุกยูนิตมาพร้อมสระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัว มีห้องนอนชั้นล่างและยังมีห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ให้เราปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเพิ่มเองได้ เราพามาชมบ้านตัวอย่างหลังแรกกันก่อนนะครับ เป็นแบบบ้าน Maison Privée ขนาดที่ดินเริ่มต้น 135 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 655 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คัน พื้นที่จอดรถติดตั้ง Ev Charger มาให้ 1 จุด รองรับกำลังไฟ 22 KW ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) ภายในมีห้องแม่บ้าน สระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัว ชั้น 1 Space Planning เปิดประตูเข้าสู่ภายในบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับสมาชิกของครอบครัวและแขกคนสำคัญ บานประตูขนาด Over-size บานประตูไม้ฉลุกลางแทรกด้วยกระจกให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติด้านนอกบ้านและยังช่วยลดความร้อนและกันเสียงสะท้อนเข้าสู่ภายในบ้าน มือจับติดตั้ง Digital Door Lock จาก HAFELE มีกล้อง CCTV จาก Netatmo พร้อม Magnetic & Shock Sensor ที่ประตู–หน้าต่างทุกจุด ติดตั้งแผงควบคุมจาก inim มาให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดินเข้าสู่ตัวบ้าน พื้นผิวหินอ่อนบริเวณโถงทางเข้าคือสิ่งที่รับรู้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก เส้นสายของลวดลายหินยิ่งโดดเด่นเมื่อถูกขับเน้นด้วยแสงธรรมชาติที่ไหลผ่านช่องเปิดสูงแบบ Double Volume ที่พุ่งขึ้นไปแตะระดับเพดานกว่า 7 เมตร ทำให้ Foyer ให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวาง และมีความเป็นส่วนตัวตั้งแต่แรกเห็น เส้นทางเดินหลักทอดยาวจากโถงเข้าสู่พื้นที่ชั้นล่างอย่างนุ่มนวลราวกับเป็นแกนกลางของบ้านที่ค่อยๆ นำสายตาไปสู่ฟังก์ชันอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งส่วนนั่งเล่น พื้นที่ครอบครัวและห้องรับประทานอาหารที่เชื่อมกันด้วยจังหวะของแสงและสัดส่วนที่สมดุล สิ่งที่กานต์ชอบในโซนนี้คือ Guest Lounge ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่รับรองแขกและสนทนาธุรกิจอย่างมีชั้นเชิง มุมนี้เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ bespoke ที่เลือกสรรอย่างพิถีพิถัน ถูกจัดวางอย่างพอดี ลงตัวระหว่างความสมบูรณ์แบบเชิงสถาปัตยกรรมและความสบายที่ใช้งานได้จริง เน้นโทนสีอบอุ่นและวัสดุสัมผัสนุ่มตาถูกจัดวางอย่างพอดีในสเปซสูงโปร่ง รายล้อมด้วยกระจกเต็มบานที่เชื่อมสายตาออกสู่แนวต้นไม้ด้านนอก ทำให้บรรยากาศสงบสบายและมีความเป็นส่วนตัวโดยแท้จริง จากโถงด้านหน้า ถัดเข้ามาจะกั้นด้วยประตูอีกหนึ่งจุดเพื่อให้เกิดพื้นที่ส่วนตัวกับสมาชิกคนอื่นภายในครอบครัว จุดเด่นของบ้านหลังนี้ก็คือมีพื้นที่โถงสูงแบบ Double Volume ถึง 3 จุดด้วยกัน อย่างเช่นพื้นที่ด้านในของบ้านก็เป็นโถงสูง 7 เมตร เชื่อมต่อชั้น 2 ทำให้มองเห็นกันได้ตลอดเวลาเป็นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ภายในบ้าน การตกแต่งภายในได้ฟีลของ Mid Century ที่ออกแบบบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย แต่สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้สังสรรค์และ Business Function เจรจาธุรกิจแบบ Casual หรือแบบ Informal ได้ ส่วนตัวเราชอบชุดโซฟาทรงโค้งสีส้มชาไทยที่เข้าชุดกันดีกับโต๊ะกลางหินอ่อน ให้ความรู้สึกสดใสและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน มองออกไปจากบริเวณนี้จะเห็นสระว่ายน้ำส่วนตัวด้านนอกบ้าน พร้อมบรรยากาศของไม้พุ่มสีเขียวตัดกับสีฟ้าของน้ำ ช่วยเติมความสดชื่นภายในบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับ Living & Dinning Area โดยเราสามารถเพิ่มฟังก์ชันของเคานต์เตอร์บาร์เหมือนบ้านตัวอย่างได้ บ้านมาตรฐานจะได้เคาน์เตอร์และตู้ Built–in จาก RCD โครงการยังได้ติดตั้งเตาไฟฟ้าอินดัคชันแบบ 4 หัว, เตาอบ, เครื่องดูดควัน, ตู้เย็นจาก GORENJE อ่างล้างจาน BLANCO มาให้แล้วครับ เราสามารถเชิญ Celebrity Chef มาจัด Private Dinner แบบส่วนตัวได้ภายในบ้าน เนื่องจากโครงการจัดเตรียมพื้นที่เอาไว้ให้แล้ว ด้านขวาของบ้านเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกัน เมื่อเปิดประตูบานกว้างจากห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหาร เราจะได้ก้าวสู่พื้นที่ส่วนตัวสุดพิเศษที่ถือเป็นไฮไลต์ของโครงการ ด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3.10×8.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร เหมาะสำหรับว่ายน้ำออกกำลังกายได้เต็มที่ มีสระว่ายน้ำในทุกยูนิต ส่วนมุมพักผ่อนมี Jacuzzi พร้อมระบบนวดบำบัด ให้เราได้ผ่อนคลายกับสายน้ำ มีพื้นที่ Outdoor จัดวางโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศสวนส่วนตัวที่แวดล้อมด้วยแนวรั้วต้นไม้เขียวชอุ่ม ราวกับมีสวนพฤกษศาสตร์เล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ตามแปลนจะมีห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งบ้านตัวอย่างออกแบบไว้ดีมาก เพราะขยับเข้าไปด้านในถัดจากโซนนั่งเล่นพักผ่อนทำให้เกิดความเป็นส่วนตัว ภายในห้องมีขนาดกว้างขวาง สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้สบายและยังมีพื้นที่เดินได้รอบเตียง ห้องนี้จึงเหมาะสำหรับปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุเพราะออกแบบมารองรับการใช้งานอย่างครบถ้วน บรรยากาศโดยรวมดีมากเนื่องจากมีหน้าต่างกระจกใสที่เชื่อมต่อกับวิวสวนด้านข้าง ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าได้ ห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างมีขนาดใหญ่มาก ถัดเข้าไปมี Walk – in Closet เป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว มีห้องน้ำในตัว ประตูห้องน้ำออกแบบให้มีขนาดใหญ่ พื้นเป็นแบบ Stepless คือพื้นเสมอกันจะไม่มีการลดหรือเพิ่มระดับเพื่อจะเดินได้ไม่สะดุด ห้องน้ำแยกส่วนเปียกแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ บริเวณสุขาและพื้นที่อาบน้ำได้ติดตั้งที่นั่งอาบน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกเอาไว้ให้แล้ว มีอ่างล้างมือจาก Kasch พร้อมติดตั้งกระจกเงาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดออกไปเพื่อระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำให้ด้วยครับ ด้านหลังสุดของบ้านจะเป็นครัวไทย ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าห้องครัวของบ้านทั่วไป จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) มีหน้าต่างบานเลื่อนติดตั้งมาให้ เปิดระบายกลิ่นและควันได้ จะสังเกตว่ามีพื้นที่ตรงกลางเว้นว่างไว้ เราสามารถติดตั้งเป็น Island สำหรับจัดเตรียมอาหารเพิ่มเติมได้ ถัดไปด้านในจะเป็นห้องนอนของแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว แม่่บ้านสามารถเปิดประตูเข้าออกจากฝั่งลานจอดรถได้ เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวกับผู้พักอาศัยจะได้ไม่รบกวนกัน ท่ามกลางบรรยากาศของสวนและต้นไม้สีเขียว และด้วยความที่บ้านมีที่ดินขนาดใหญ่จึงออกแบบให้หน้าบ้านมีสวนและ Pavilion ด้านนอก สามารถจัดชุดโซฟาที่นั่งกลางแจ้งมาวางได้ เอาไว้ทำกิจกรรมที่ชอบได้สบายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป ทำเป็น Glass House ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟยามเช้าหรือจะพาน้องหมามาเดินเล่นเป็นพื้นที่พักเหนื่อยก็ได้เช่นกัน กานต์ว่ามุมนี้ Vibes ดีมากครับ ด้วยความที่ Cinquième Krungthep Kreetha ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานดีไซน์คลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งจะมีความงดงามในรายละเอียด มีความพิถีพิถันจากการจัดวางองค์ประกอบงานดีไซน์ ความสมมาตรและสัดส่วนที่ลงตัว มีดีเทลในงานออกแบบ เช่น ลักษณะของเสา คิ้วบัว ประติมากรรมท่ามกลางน้ำพุที่ตกแต่งอย่างประณีตและปรับให้มีความร่วมสมัยในแบบ Timeless คือลดทอนรายละเอียดที่มากเกินไป เพื่อให้ได้เส้นสายที่สะอาดตาและเรียบง่าย ปรับ Elements ให้มีความ Simplify ใช้เส้นสายที่เรียบง่ายดูโมเดิร์นขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความสง่างาม สะท้อนภาพลักษณ์ผู้นำด้านที่พักอาศัยที่หรูหรามีระดับ ตอบสนองต่อวิถีชีวิตและความต้องการของเจ้าของได้อย่างโดดเด่นและแตกต่าง ด้วยความที่บ้านทุกหลังเป็นบ้านขนาดใหญ่ ทางโครงการจึงได้ติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านจาก MITSUBISHI มาให้พร้อมกันนี้แล้ว ทำให้สะดวกมากสำหรับการขึ้นลง ลิฟต์มีขนาดใหญ่รองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์ได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุก็ไม่จำเป็นต้องจัดให้อยู่ในห้องนอนชั้นล่างเสมอไป เพราะสามารถโดยสารลิฟต์ขึ้นลงได้สะดวก หรือจะใช้บันไดในการขึ้นลงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ไฮไลต์ของบ้านคือการเชื่อมต่อพื้นที่ของทุกคนในครอบครัวระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 ผ่านโถงขนาดใหญ่ที่สามารถมองลงไปเห็นความเคลื่อนไหวบริเวณชั้นล่างได้ ชั้นนี้ถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของบ้าน โครงการจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบ Connecting Space ฟังก์ชันสำคัญที่เชื่อมต่อการใช้งานของห้องหับต่างๆ ภายในบ้าน พื้นที่ใช้งานของชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ทุกห้องนอนภายในบ้านจะเรียกว่า En Suite คือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว และมี Walk – in Closet ให้ด้วย อย่างที่บอกไปว่า ทุกห้องล้วนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถออกแบบได้ตามใจ ซึ่งโดยหลักของการออกแบบคือ Open Plan จึงเปิดให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในบ้านนั่นเอง ส่วนบริเวณด้านหน้าของบ้านถูกออกแบบให้เป็นห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ซึ่งมอบความยืดหยุ่นแก่เจ้าของบ้านอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยเพดาน Double Volume สูงกว่า 7 เมตร ที่เปิดมุมมองในแนวตั้งให้โปร่งโล่งราวกับสตูดิโอสมัยใหม่ แสงธรรมชาติจากบานหน้าต่างทรงสูงช่วยให้ห้องนี้มีชีวิต เคลื่อนไหวตามแสงและเงาในแต่ละช่วงเวลา ในบ้านตัวอย่าง ห้องนี้ได้รับการตีความใหม่ให้กลายเป็น Music Room & Recreation Space ที่ผสมผสานความเป็น Lounge สำหรับพักผ่อนไว้อย่างกลมกลืน บรรยากาศอบอุ่นจากโทนสีเข้ม ตัดกับวัสดุที่มีเท็กซ์เจอร์ชัดเจน ทำให้มีทั้งความเข้มขรึมและความเป็นกันเองในเวลาเดียวกัน ชั้นวางโชว์ที่สูงจรดเพดานทำหน้าที่เป็นจุดนำสายตา พร้อมสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคอลเล็กชันเครื่องดนตรี แผ่นเสียง หรือของสะสมชิ้นโปรด เฟอร์นิเจอร์ที่นุ่มสบายถูกจัดวางให้รองรับกิจกรรมได้หลายรูปแบบ อาทิ นั่งเล่นดนตรี อ่านหนังสือ ดูหนังฟังเพลงหรือใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์นั่งดื่มกันในบรรยากาศส่วนตัวสำหรับแขกคนสนิท ในอีกมุมหนึ่ง ห้องนี้ก็เผยความสนุกแบบครอบครัวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ๆ ที่เข้ามาวิ่งเล่น เสียงหัวเราะของเพื่อน หรือสัตว์เลี้ยงที่เดินป้วนเปี้ยนไปมา พื้นที่นี้จึงเป็นมากกว่าห้องเอนกประสงค์ เป็นพื้นที่ที่ทุกคนในบ้านสามารถโชว์ความเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ อีกฝั่งของบ้านในชั้น 2 จะเป็นห้องนอน 2 ห้อง อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจของโครงการ Cinquième Krungthep Kreetha คือการนำเสนอไอเดียในการปรับฟังก์ชันของห้องต่างๆ ภายบ้านของโครงการจริงๆ แล้วหากบ้านไหนสมาชิกในครอบครัวไม่ได้เยอะมาก เราอยากแนะนำให้จัดการแบ่งเป็นห้องอเนกประสงค์แบบบ้านตัวอย่าง เช่นห้องนี้ที่ปรับฟังก์ชันจากห้องนอนออกมาทำเป็น Art Studio ในบรรยากาศสบายๆ ให้ความเป็นส่วนตัว มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว จุดเด่นของห้องนี้ที่เราชอบคือเปิดรับช่องแสงได้จากหลายทาง ทำให้ห้องดูสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ในช่วงเวลากลางวันเป็นการประหยัดพลังงานไปในตัว บ้านตัวอย่างตกแต่งได้สวยดีครับ ส่วนห้องนอนอีกห้องจะอยู่มุมด้านหลังบ้านเช่นกัน ข้อดีก็คือเป็นพื้นที่ที่ให้ความสงบเงียบ บ้านตัวอย่างปรับฟังก์ชันของห้องนี้ให้เป็นห้องออกกำลังกายแบบส่วนตัว ทางโครงการจัดวาง PENT เป็นแบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายลักซ์ชัวรี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากโปแลนด์ นำเสนอไลฟ์สไตล์สุดหรูที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ออกกำลังกาย แต่ยังสามารถเป็น Home Accessories ได้ในเวลาเดียวกัน ด้วยดีไซน์เหนือระดับมาพร้อมกับความสวยงามเหนือกาลเวลา สมกับความหรูหราของบ้านจริงๆ ครับ กานต์ชอบอุปกรณ์การออกกำลังกายของแบรนด์นี้มาก สื่อสารความเป็นบ้านหรูสไตล์ A5 ได้เป็นอย่างดี ก่อนเข้าสู่ห้องนอนหลัก เมื่อขึ้นบันได้หรือออกจากลิฟต์มาทางด้านซ้ายจะมีพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวที่ออกแบบมาอย่างประณีตเพื่อให้เป็นมุมพักผ่อนด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟยามเช้า อ่านหนังสือยามบ่าย ด้านในโดดเด่นด้วยผนังที่ตกแต่งด้วยโค้งไฟ LED ทรงอาร์ชขนาดใหญ่ เป็นกรอบให้กับงานศิลปะร่วมสมัยโทนขาว-ดำที่แขวนไว้ตรงกลาง ข้างผนังมีชั้นวางแบบ Built-in พร้อมแบ็คไลท์ จัดวางหนังสือ ของสะสม และของตกแต่งได้อย่างเป็นระเบียบ กลางห้องจัดวางโซฟาสีฟ้าพาสเทลทรงกลมนุ่มฟู เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน คู่กับอาร์มแชร์โครงไม้สีธรรมชาติบุเบาะสีขาว-เทา สไตล์สแกนดิเนเวียน โต๊ะกลางเป็นหินอ่อนขาวทรงรี ดูทันสมัยและอบอุ่น สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย มุมนี้ตั้งอยู่ก่อนเข้าห้องนอนหลัก มองไปเห็นทางเข้าห้อง Walk-in Closet ที่ตกแต่งสีส้มอิฐหรูหราและผนังอาร์ตเวิร์กสีแดงในกรอบสีดำ สร้างมิติและความน่าสนใจให้กับพื้นที่ มีมุมชงกาแฟสบายๆ นี่คือพื้นที่ส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อความสุขและการพักผ่อนของเรา ในสไตล์ Penthouse Suite ที่ผสมผสานความหรูหราและความอบอุ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เรียกได้ว่าพื้นที่ชั้น 3 ออกแบบให้เป็นโลกส่วนตัวของเราอย่างแท้จริง เพราะพื้นที่ทั้งชั้นถูกจัดวางในลักษณะของ Penthouse Suite ที่กว้างขวาง Master Bedroom มีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยเพดานเล่นระดับพร้อมแสงเซาะร่องทำให้ห้องดูเหมือนลอยอยู่ในโทนแสงอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ที่คัดเลือกมาวางในห้องล้วนเป็นดีไซน์ที่สวยเก๋ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาสีส้มดินเผา ไปจนถึงเก้าอี้ฟรีฟอร์มรูปทรงนุ่ม การจัดผังห้องมีความเป็น Suite Planning คือมีเตียงนอน พื้นที่นั่งเล่น และมุมพักผ่อนถูกแบ่งเป็นโซนชัดเจนโดยไม่ต้องใช้ผนังแบ่ง ทุกอย่างดำเนินไปด้วยเส้นสายของเฟอร์นิเจอร์และแสงที่นำทาง เดินลึกเข้าไปอีกนิดคือ Walk-in Closet ที่มีขนาดเทียบเท่าห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง ความกว้างขวางของพื้นที่ทำให้การแต่งตัวในทุกวันดูสนุกขึ้น ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ล้อมรอบห้องเหมือนกล่องขนาดใหญ่ที่เก็บรสนิยมของเรา กลางห้องมีโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Island ที่ให้ฟังก์ชันทั้งเก็บของและใช้งานราวกับเป็นบูทีคส่วนตัว ด้านในสุดเป็นห้องน้ำ ประดับด้วยผนังหินสีเข้มที่มีลวดลายธรรมชาติถูกจัดวางเพื่อสร้างแรงดึงดูดสายตาอย่างสง่า อ่างล้างมือคู่แบบ His & Her มีก๊อกน้ำสีพิเศษจาก Gessi ที่ให้ความรู้สึกของงานประณีตพิถีพิถัน กระจก Smart Mirror เปิด–ปิดไฟได้ตามต้องการ ภายในห้องน้ำ จัดวางอ่างอาบน้ำจาก Kasch ด้านในเป็น Shower มีการแยกส่วนเปียก–ส่วนแห้งเพื่อการใช้งานที่สะดวกและเป็นระเบียบ ทางโครงการยังได้ติดตั้งระบบน้ำร้อน–น้ำเย็นของ Stiebel Eltron มาให้แล้ว กานต์พามาชมบ้านตัวอย่างอีกหนึ่งหลังซึ่งมีความแตกต่างจากก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะพื้นที่และขนาด นัั่นคือแบบบ้าน Majesté พื้นที่ใช้สอย 805 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์ส่วนตัวภายในบ้านและสระว่ายน้ำ มีห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัวด้วยครับ ด้านหน้าของแบบบ้าน Majesté คืองานสถาปัตยกรรมที่ตั้งใจ บอกเล่าเรื่องราวความสง่างามอันเงียบสงบ มากกว่าโชว์ความอลังการแบบเปิดเผย ตัวบ้านออกแบบให้มีหน้ากว้างพิเศษ ซึ่งเป็น DNA สำคัญของโครงการนี้ เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นสัดส่วนเรขาคณิตที่ถูกจัดวางอย่างแม่นยำ ทั้งเส้นตั้ง–เส้นนอนที่คมชัด ผิวอาคารโทนสีกลางที่เรียบเนียน และจังหวะของช่องแสงที่ช่วยให้บ้านดูเบาสบายมากขึ้น ทั้งหมดสื่อถึงความสงบแบบ Modern Classic ในสไตล์ Quiet Luxury ที่แท้จริง พื้นที่ด้านหน้าแบ่งโรงจอดรถออกเป็น 2 ปีก รองรับได้ 3 คันและ 2 คัน พื้นที่จอดรถติดตั้ง Ev Charger มาให้ 1 จุด ที่รองรับกำลังไฟ 22 KW ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) บานประตูไม้ฉลุกระจกแบบ Over-size พร้อมมือจับที่ติดตั้ง Digital Door Lock จาก HAFELE มาให้แล้ว มีกล้อง CCTV จาก Netatmo พร้อม Magnetic & Shock Sensor ที่ประตู–หน้าต่างทุกจุด ติดตั้งแผงควบคุมจาก inim มาให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันครับ โครงการ Cinquième Krungthep Kreetha วางผังบ้านโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของบ้านแต่ละหลัง เห็นได้จากพื้นที่ต้อนรับที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การอยู่อาศัย เพราะทันทีที่ก้าวผ่านประตูหลักเข้าสู่ภายในบ้าน ผู้มาเยือนจะพบกับโถงสูงกว่า 7 เมตร เปิดมุมมองแนวตั้งอย่างอลังการ ผนังสูงทอดยาวสู่เพดานเล่นระดับที่ซ่อนเส้นไฟไว้ ทำให้แสงค่อยๆ ส่องผ่านเข้ามาภายใน หน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบ Full Height ที่สูงเต็มผนังสองชั้นเปิดบ้านให้เชื่อมกับสวนภายนอกอย่างเป็นธรรมชาติ เฟรมสีเข้มช่วยสร้างกรอบทิวทัศน์ราวกับงานศิลปะ มองออกไปเห็นใบไม้ที่พริ้วผ่าน เติมเต็มความสดชื่นจากธรรมชาติและทำให้บริเวณนั่งเล่นนี้เป็นทั้งพื้นที่รับแขกและพื้นที่สงบสำหรับสมาชิกในบ้านได้ในเวลาเดียวกัน เส้นลายสถาปัตยกรรมราวกับเป็นชั้นบรรยากาศในงานออกแบบ ขนาดห้องที่กว้างและสูงสร้างความรู้สึกโอ่อ่าได้ในทันที ภายในจัดวางเฟอร์นิเจอร์สีโทนกลางอย่างเบจ เทา น้ำตาลโซฟาทรงโค้งและอาร์มแชร์ทรงประณีตวางอย่างพอดีสัดส่วน ให้ภาพรวมดูสงบ เรียบ และเป็นกันเองแบบ Quiet Luxury ที่โครงการตั้งใจนำเสนอ Space นี้จึงไม่ใช่แค่ห้องนั่งเล่นแต่เป็น ห้องรับรองที่มีบทบาทเป็นพื้นที่เจรจาธุรกิจ พื้นที่พบปะเพื่อนสนิท หรือแม้แต่พื้นที่พักผ่อนส่วนตัว—เหมาะกับเจ้าของบ้านที่ต้องการความเป็น Life Master อย่างแท้จริง “People usually are the happiest at home.” ~ William Shakespeare วิลเลี่ยม เชคสเปียร์เคยบอกว่า “คนมักจะมีความสุขที่สุดเมื่ออยู่บ้าน” กานต์เองก็คิดเช่นนั้น เชื่อมั่นเหลือเกินว่า หากใครได้พักอาศัยในบ้านหลังใหญ่ดีไซน์สวยที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ โอบกอดเราด้วยท้องฟ้า ให้ธรรมชาติสีเขียวเยียวยาจิตใจ ฟังเสียงน้ำไหลเป็นเครื่องดนตรีคอยขับกล่อม เราว่าความสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นได้ง่าย ใกล้ๆ ตัวภายในบ้านของเราเอง เราชอบการตกแต่งภายในของบ้านหลังนี้ที่ค่อนข้างเรียบหรูลงตัว ห้องรับแขกจัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความอบอุ่นอยู่สบาย จัดวางที่นั่งไว้แบบหลวมๆ วัสดุที่เลือกใช้มีความหลากหลาย ทั้งโซฟา เก้าอี้ไม้ บุด้วยผ้า เลือกโทนสีที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป โดดเด่นด้วยแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่จากเพดานที่สูงโปร่งแบบ Double Volume อีกหนึ่งจุด เห็นแล้วสะดุดตาขึ้นมาในทันที ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการดึงดูดความสนใจ การแบ่งฟังก์ชันของบ้านในโครงการนี้ถูกออกแบบอย่างละเอียดเพื่อให้แต่ละชั้นทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเฉพาะเจาะจง เห็นได้จากพื้นที่ชั้นล่างเน้นความเป็นสาธารณะสำหรับแขกและคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน บรรยากาศภายใน Common Area ของบ้านตัวอย่างจึงเป็นเอิร์ธโทนดูสบายตา มีความอบอุ่น ล้วนเป็นการเลือกสรรสีจากธรรมชาติเข้ามาช่วยขับเน้นความสง่างามและมีรสนิยมของผู้อยู่อาศัย ด้วยการดึงงานออกแบบอัน Timeless Classic งดงามไร้กาลเวลามาเป็นองค์ประกอบหลัก ด้านในเป็น Dinning Area ที่จัดวางฟังก์ชันไว้อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้เป็นช่วงเวลาพิเศษของทุกคนในครอบครัว บ้านตัวอย่างตั้งใจออกแบบให้มีความเป็น Open Space เชื่อมต่อกันระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ประมาณ 8-10 ที่นั่ง ติดกันเป็นส่วนเตรียมอาหารเชื่อมต่อกับห้องรับแขก โครงการติดตั้ง Island มาให้แล้วครับมาพร้อมกับอ่างล้างจานจาก BLANCO และยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอาทิ เตาไฟฟ้า 4 หัว, เครื่องดูดควัน, เตาอบ, ตู้เย็นจาก GORENJE มาพร้อมกันนี้ด้วยครับ Pantry ออกแบบให้มีเก้าอี้สตูลบาร์ทรงสูง เราสามารถนั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดกันเบาๆ ที่เคาน์เตอร์บาร์ก่อนที่จะย้ายมาทานอาหารร่วมกันในมื้อค่ำที่นี่ได้ ถัดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกและสมาชิกในบ้านใช้งานร่วมกัน ในส่วนของพื้นที่ครัวไทย ทางโครงการได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวยู (U-Shape) มาให้เป็นเฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน พร้อม Island ไว้เตรียมอาหารตรงกลาง ครัวไทยมีขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง ออกแบบให้มีตู้เก็บของบน-ล่างเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ครัวจะมีประตูเชื่อมต่อกับ Maid Plaza ห้องนอนแม่บ้านจะอยู่ด้านใน แบบนี้ถือว่าสะดวกมากครับในการเปิดพื้นที่ให้แม่บ้านได้ทำงานโดยไม่กระทบกับพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัวเนื่องจากให้เข้าออกทางประตูหลังบ้านแทน ห้องด้านในเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ แปลนบ้านออกแบบให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุครับ ที่มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว ทว่าบ้านตัวอย่างดีไซน์ให้ห้องนี้เป็นพื้นที่ Secret Room เรียกว่าเป็นห้องลับสำหรับสุภาพบุรุษผู้เป็นเจ้าของบ้าน กานต์ชอบห้องนี้มาก เพราะสามารถสะท้อนภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเราได้ดี เป็นมุมโปรดเฉพาะบุคคลที่เตรียมพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เป็นหลุมหลบภัยไว้แสดงออกถึงความชอบและรสนิยมส่วนตัว ตลอดจนนั่งสังสรรค์กับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จะเห็นได้ว่าภายในบ้าน 3 ชั้น ได้รับการออกแบบให้มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนภายในบ้าน เน้นการสร้างความเป็นส่วนตัวสูงสุด เห็นได้จากการวางฟังก์ชันของบ้านที่ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง การออกแบบพื้นที่ใช้สอยต่างๆ สามารถบอกเล่าตัวตนและยังใช้เป็นพื้นที่รับรองสำหรับเจรจาธุรกิจ สังสรรค์กับเพื่อนสนิท มิตรสหายภายในบ้านได้ โครงการจึงดีไซน์ที่ให้ห้องนี้เป็นมุมสำหรับดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดเบาๆ นั่งชมวิวสวยๆ สบายๆ จากสระว่ายน้ำ ด้วยความที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังบ้าน จึงค่อนข้างได้เปรียบเร่ื่องความเงียบสงบ เป็นการพักผ่อนหลังจาก ทำงานแล้วกลับเข้ามาภายในบ้านโดยไม่เป็นการรบกวนสมาชิกท่านอื่นที่่กำลังพักผ่อนอยู่ชั้นบน ด้วยความที่บ้านขนาดใหญ่ ที่ดินเริ่มต้นกว่า 155 ตร.วา พื้นที่รอบบ้านจึงกว้างพอสำหรับวาง Pavillion ที่ออกแบบด้วยลายเซ็นต์ทางสถาปัตยกรรมเดียวกับตัวบ้าน มีผนังระแนงแนวตั้งที่ช่วยกรองลมและแสงธรรมชาติ จัดวางชุดโซฟาที่นั่งเอาไว้หลวมๆ Pavillion แห่งนี้จึงกลายเป็นเหมือนห้องนั่งเล่นกลางสวน เหมาะกับการพักผ่อนยามบ่ายหรือรับรองแขกคนสนิทในวันที่อากาศดี พื้นที่สระว่ายน้ำด้านหลังของแบบบ้าน Majesté คือหัวใจของบ้านที่โครงการตั้งใจมอบให้ สระว่ายน้ำขนาด 4.70×10.15 เมตร ลึก 1.20 เมตร ได้รับการออกแบบให้เป็นเส้นสายแนวกว้างที่ทอดยาวรับกับผนังบ้าน สื่อสารร่วมกับพื้นที่ภายในได้อย่างประณีตในแบบ Inside Out & Outside In ทำให้บ้าน สวนและสระว่ายน้ำกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน สระว่ายน้ำติดตั้งระบบ Jacuzzi พร้อมมีที่นั่งริมขอบสระ ซึ่งออกแบบให้สูงระดับพอดีสำหรับแช่ตัว พิงผนังเบาๆ พร้อมถือแก้วเครื่องดื่มหรือหนังสือเล่มโปรดได้อย่างสบาย ผิวน้ำสะท้อนเงาไม้ใหญ่ที่ยืนเด่นราวกับตั้งใจให้เป็นมุมไฮไลท์ของบ้านที่ทุกมุมสามารถมองเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องกินข้าว ห้องพักผ่อนสำหรับครอบครัว หรือแม้แต่ชั้นบนก็สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและต้นไม้ใหญ่ได้เสมอ ทุกห้องนอนภายในบ้านจะเรียกว่า En Suite คือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว อย่างเช่นห้องนี้เมื่อเราเดินเข้าไปด้านในจะเป็นโซนพักผ่อน ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันไว้ลงตัว โดยมีเตียงนอนขนาดใหญ่จัดวางเอาไว้ด้านใน หัวเตียงบุนวมสีชมพูพาสเทลเฉดสีเดียวกับผ้าคาดเตียง ช่วยทำให้ห้องนี้ดูสดใสขึ้น ปลายเตียงเป็นมุมสำหรับทำการบ้านอ่านหนังสือหรือจะนั่งเล่นพักผ่อนหลังเลิกเรียน อีกด้านเป็นห้องแต่งตัวสีสดใส เชื่อมต่อห้องน้ำด้านในสุดติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุดจาก Kasch และ TOTO ห้องนอนต่อมา ทางโครงการได้ปรับฟังก์ชันให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวภายในบ้านตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอห้องโล่งๆ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ให้เราออกกำลังเพื่อสุขภาพหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามใจ ทั้งซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้น เล่นโยคะ พิลาทิสหรือจะเป็นเรียนบัลเลต์ก็ได้เช่นกัน บรรยากาศภายในแบบโปร่งสบาย ชั้น 2 ฝั่งด้านหน้าบ้าน ออกแบบให้เป็นห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งและอลังการ ใช้งานได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของทุกคนในบ้าน พื้นที่นั่งเล่นตกแต่งด้วยโซฟาตัวแอลสีเทาควันบุหรี่ มีโต๊ะกลางหินอ่อนสีเทา เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือพูดคุยสบาย ๆ กับครอบครัว หน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าบ้านที่ส่องผ่านเข้ามา อีกฝั่งเป็นชั้นวางแบบ Built-in ที่ออกแบบเต็มผนังสูงถึงเพดาน ตกแต่งด้วยไม้สีเข้มและแบ็คไลท์สีทอง ด้านในจัดวางบาร์พร้อมคอลเลกชันไวน์ วิสกี้ เหล้าหายาก แก้วไวน์ แก้วคริสตัล อุปกรณ์บาร์เทนเดอร์ เคาน์เตอร์และอาร์มแชร์ที่นั่งสบายๆ ที่สร้างบรรยากาศหรูหราเหมือนบาร์ส่วนตัวเพื่อเฉลิมฉลองเรื่องราวของความสำเร็จในชีวิต ชั้น 3 เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ของครอบครัว มีความส่วนตัวสูงสุด ในคอนเซ็ปต์ “Penthouse Suite” พร้อม Master Bedroom ขนาดใหญ่และ Junior Master Bedroom เมื่อขึ้นมาถึงจะพบกับโถงกลางบ้านเป็น Multi-purpose Area ที่มีขนาดใหญ่ ส่วนแรกจะเป็นระเบียงกลางแจ้งสำหรับนั่งพักผ่อนสบายๆ กั้นพื้นที่เอาไว้เพื่อให้ปล่อยจอยกับบรรยากาศนอกบ้าน ใช้เป็นมุมอ่านหนังสือหรือจิบกาแฟยามเช้า ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องที่ชั้นโชว์จัดแสดงหนังสือ ของสะสม ถ้วยรางวัล งานศิลปะ กล้องถ่ายรูปหายาก อาร์ททอยและของตกแต่งที่สะท้อนความเป็นตัวตน เป็น Personal Hall of Fame ตรงกลางห้องวาง Island Counter สีขาวทรงโค้งมนสำหรับเก็บเครื่องประดับหรือของสะสมชิ้นเล็ก ชั้น 3 มีด้วยกัน 2 ห้องนอน ห้องแรกที่พาไปชม เราอยากเรียกว่าเป็น Junior Master Bedroom เพราะเป็นหนึ่งในห้องที่เดินเข้ามาแล้วจะรู้สึกว่า “นี่มัน Master Bedroom อีกห้องชัดๆ” เพราะความที่สเปซค่อนข้างกว้าง บรรยากาศอบอุ่น และดีไซน์สวยจนรู้สึกว่าอยู่แล้วไม่อยากออกไปไหน ห้องนี้ให้ฟีลเหมือนสวรรค์ส่วนตัวของคนในบ้าน ผนังหัวเตียงบุนวม 3D ลายเรขาคณิตสีครีมสร้างมิติช่วยเพิ่มลูกเล่น ทำให้ห้องดูมีคาแรกเตอร์แบบไม่ต้องพยายาม ส่วนแสงไฟซ่อนรอบฝ้าก็ช่วยให้บรรยากาศละมุนขึ้นทันที เหมาะมากสำหรับคืนที่อยากพัก เขียนงานเบาๆ หรือดูซีรีส์ยาวๆ ปลายเตียงมีโซฟานั่งเล่นจัดเป็นมุมชิกๆ ไว้เอนตัวอ่านหนังสือหรือคุยเล่นก่อนนอน หน้าต่างบานใหญ่เปิดรับวิวต้นไม้ด้านนอก ทำให้ห้องรู้สึกโปร่ง สบาย จัดวางชุดโซฟาที่นั่งมุมด้านหลังบ้าน เพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์และมีความรีแลกซ์แบบบ้านรีสอร์ต มาชม Master Bedroom กันบ้าง จะเห็นว่าภายในห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้สอยได้หลากหลายและลงตัวดีครับ ราวกับเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่พักผ่อนจัดวางเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์ได้และยังมีพื้นที่ว่างรอบเตียงเดินได้สบายเลย แสงธรรมชาติจะสาดส่องเข้ามาด้านข้างของบ้านผ่านหน้าต่างบานใหญ่มีฉากหลังเป็นต้นไม้ที่กำลังพัดใบไหวพร้ิว ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของ Private Living Area ให้เราได้พักผ่อนในฟีลลิ่งส่วนตัว เป็นมุมพักผ่อนสำหรับนั่งดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรดแล้วเปิดเพลงคลาสสิคจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลอไปเบาๆ เสริมบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เราสามารถเพลิดเพลินไปกับหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้จากคืนก่อน เป็นพื้นที่สำหรับพักกายพักใจให้หายเหนื่อยจากการทำงาน เพื่อให้บ้านได้ทำหน้าที่โอบกอดเราอย่างละมุนใจ ภายในมี Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว.ช้งานสะดวก ห้องแต่งตัวได้รับออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว เป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงรสนิยม ความหรูหราและให้ความเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและมีความละเอียดอ่อนในการออกแบบ มีชั้นวางแบบเปิดทำให้การจัดวางเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวดูมีระเบียบและเรียบหรู การติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ ช่วยให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้นโดยไม่ต้องใช้พื้นที่เพิ่ม ตู้เสื้อผ้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคั่นกลางด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วน Master Bathroom จะอยู่ถัดเข้าไปด้านในสุด ได้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่ พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็นโซนอ่างล้างมือฝังเคาน์เตอร์ได้แบบ His & Her ติดตั้งมาพร้อมก็อกน้ำรุ่นพิเศษ จาก Gessi ตรงกลางเป็นอ่างอาบน้ำลอยตัว ด้านข้างเป็นผนังกระจกและหน้าต่างสูงถึงฝ้า ตรงข้ามเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์และติดกันเป็นส่วนอาบน้ำมีฉากกระจกกั้นแยกมาให้ ภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลางเป็นงานออกแบบในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่เน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ทำให้ได้ฟีลลิ่งของ Organic Architecture มากขึ้น ทัศนียภาพรอบโครงการมีความสวยงามเพราะดำเนินการเอาสายไฟฟ้าในโครงการลงใต้ดินทั้งหมด จากภาพเราจะเห็นว่า พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาดใหญ่เพราะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียวมีสนามหญ้าที่กว้าง ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที รองรับทุกการทำกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว เราสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นบริเวณสวนได้ หรือจะมาทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างคุณพ่อ คุณแม่กับเด็กๆ ก็สนุกสนานดีเหมือนกันครับ เข้าไปด้านในจะเป็นวงเวียนน้ำพุ ตรงกลางประดับด้วยงานประติมากรรมเป็นเสาหินอ่อนสีขาวขลิปทอง ด้านบนเป็นรูปปั้น Archangel Michael สัญลักษณ์แห่งการปกป้องคุ้มครองที่มอบความอุ่นใจให้ทุกครอบครัว ด้านหลังเป็นสวนขนาดใหญ่ ปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้โปร่ง ต้นสน พุ่มไม้ ไม้ดอก ไม้ยืนต้นฟอร์มเด่นสลับกันไปเพื่อให้เกิดร่มเงาและร่มรื่น ปลูกเอาไว้จนเต็มพื้นที่ดูแล้วได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอก เป็นการนำเอาศิลปะจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม ยิ่งช่วงนี้หน้าหนาวจะมีลมเย็นพัดมาสัมผัสเบาๆ ทำให้เรารู้สึกเย็นกายสบายใจ เป็นฟีลลิ่งดีๆ ที่ได้ใช้ชีวิตใจกลางกรุงท่ามกลางสีเขียวของต้นไม้ สีฟ้าจากสายน้ำและสีสันของธรรมชาตินานา อาคาร Clubhouse จะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ งานสถาปัตยกรรมเชื่อมต่อกับ Main Gate ด้านหน้า โดดเด่นด้วยโลหะสีน้ำตาลทอง ประดับผนังด้วยหินอ่อนสีเทาดำ ต้องออกตัวก่อนเลยว่าส่วนกลางมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่เป็นแบบ Fit For Function คือเหมาะสม เพียงพอต่อการรองรับการใช้งานของลูกบ้านซึ่งมีเพียงแค่ 16 ครอบครัวเท่านั้น ที่สำคัญบ้านทุกหลังต่างมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ตลอดจนพื้นที่ภายในบ้านก็เอื้อให้ใส่ฟังก์ชันฟิตเนสเข้าไปในบ้านอยู่แล้ว ดังนั้นการมาพักผ่อนที่ Clubhouse กานต์มองว่าน่าจะเป็นเพียงการเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในบ้านมากกว่า แต่ถึงกระนั้น ก็เป็น Clubhouse ที่เน้นสไตล์การออกแบบเฉพาะตัว นำเสนอความเรียบหรู การเลือกใช้วัสดุและสีสันที่สอดรับกันได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากพื้นที่ Club Lounge ชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง จัดวางชุดโซฟาที่นั่งเอาไว้กระจายไปในหลายจุด กอปรกับโถงที่สูงจรดชั้น 2 ทำให้ห้องค่อนข้างโปร่งสบาย เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำด้านนอกที่จัดวางเก้าอี้พักผ่อนไว้ริมสระ บรรยากาศจึงดูอบอุ่น และเน้นให้ความเป็นส่วนตัวสูง ถัดเข้าไปเป็นห้อง Fitness ขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายจาก Techno Gym แบรนด์เครื่องออกกำลังกายระดับโลก ซึ่งส่วนมากจะพบในโรงแรมหรูขนาดใหญ่ จัดวางเอาไว้กระจายกันไป ภายในจัดวางอุปกรณ์ครบทั้งแบบ Cardio และ Weight Training Machine พร้อมกับโซนฟรีเวทให้เราออกกำลังเพื่อสุขภาพได้ตามใจ “Wellness is the ultimate luxury — the kind you carry within yourself.” ชั้นบนยังมี Meeting Room สำหรับประชุมเป็นห้องส่วนตัวสำหรับจัดเจรจาธุรกิจ หรือจัดประชุมแขกคนสำคัญได้ จัดวางโต๊ะประชุมขนาด 10 ที่นั่ง ผนังติดตั้งจอทีวีขนาดใหญ่เอาไว้รองรับการประชุมท่ามกลางบรรยากาศของสวนสีเขียวที่ให้ความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นครับ #สรุป โครงการแซงเคียม กรุงเทพกรีฑา (Cinquième Krungthep Kreetha) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านในระดับที่มีความหมายเกินกว่าคำว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นผู้ที่ให้คุณค่ากับความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง ต้องการสเปซกว้างที่ใช้ชีวิตแบบ Private Pool Villa ได้ทุกวัน และชื่นชอบงานออกแบบสไตล์ Quiet Luxury ที่เรียบหรู ละเมียดละไม เต็มไปด้วยรายละเอียดที่คิดมาแล้วในทุกมุม ทั้งการวางช่องแสง โถง Double Volume หรือผังบ้านที่แยกพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวสำหรับทุกเจเนอเรชัน ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ซึ่งเป็นหนึ่งในโซนที่น่าจับตามากที่สุดในกรุงเทพฝั่งตะวันออก ใกล้ทางด่วน สนามบิน โรงเรียนนานาชาติ สนามกอล์ฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม แต่ยังคงความสงบแบบ Low-Density ที่หาได้ยากในเมือง �ทำให้เป็นทำเลที่ผสมผสานทั้งความสะดวกและคุณภาพชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 098-818-9941 หรือ www.cinq-uieme.com