“𝐒𝐢𝐦𝐩𝐥𝐢𝐜𝐢𝐭𝐲 𝐢𝐬 𝐭𝐡𝐞 𝐤𝐞𝐲𝐧𝐨𝐭𝐞 𝐨𝐟 𝐚𝐥𝐥 𝐭𝐫𝐮𝐞 𝐞𝐥𝐞𝐠𝐚𝐧𝐜𝐞.” ความเรียบง่ายคือหัวใจสำคัญของความสง่างามที่แท้จริง -COCO Chanel
.
วลีนี้ของชาแนลดูจะไม่เกินจริงและยังคงสะท้อนภาพความ Haute Couture มาจนถึงปัจจุบัน จะว่าไปความสง่างามไม่ได้หมายถึงความหรูหราหรือเกินจริง แต่กลับกลายเป็นการเลือกใช้เส้นสายที่สะอาดตา รายละเอียดน้อยชิ้น สัดส่วนที่สมดุลช่วยสร้างความงามที่เหนือกาลเวลาโดยไม่ต้องพยายาม ไม่ว่าจะเป็นในด้านแฟชั่นหรือการออกแบบภายใน ความเรียบง่ายจะเน้นที่คุณภาพและงานฝีมือ ก่อให้เกิดความงดงามที่ไร้กาลเวลา (Timeless)
.
น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ …
.
บ้านที่ได้รับการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สะอาดตา แสงธรรมชาติ และวัสดุคุณภาพสูงให้ความรู้สึกสง่างาม สะท้อนภาพในชีวิตจริง การเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากเกินไป นำไปสู่วิถีชีวิตที่หรูหราและสง่างามตามแบบฉบับยุโรป
.
𝐆𝐑𝐀𝐌𝐎𝐔𝐑 𝐒𝐀𝐓𝐇𝐎𝐑𝐍 (แกรมเมอร์ สาทร) คือหนึ่งในโครงการที่สะท้อนภาพลักษณ์ของ European Elegance ได้เป็นอย่างดี มีรายละเอียดของการออกแบบที่อ่อนช้อย งดงามตามสไตล์ปาริเซียง ตัดทอนเรื่องราวของงานดีไซน์ในอดีตที่ดูเยอะเกินความจำเป็นออกไป กลายเป็นเส้นสายที่เรียบง่าย สบายตา สบายใจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้เข้าไปพักอาศัย
.
บ้านซีรี่ส์ใหม่ 3 ชั้นสุดหรูสไตล์ยุโรป ได้รับแรงบันดาลใจจากการนำเอกลักษณ์ของคฤหาสน์ยุโรปเข้ามาใช้ในการออกแบบ ลดทอนงานตกแต่งให้ดูเรียบขึ้นแต่ดูทันสมัย ทำให้โครงการนี้มีกลิ่นอายสถาปัตยกรรมยุโรปผสมผสานอยู่อย่างลงตัว เป็นดีไซน์ในแบบที่กานต์ชอบมาก คือมีประตูโค้งทรง Arch รับกับเส้นสายเหลี่ยมมุมที่คมจัด เน้นการใช้สีบ้านเป็นสีสว่าง ตัดกับเฟรมประตูและหน้าต่างที่มีสีเข้ม เพื่อสื่อให้เห็นถึงความเรียบหรูดูคลาสสิคของตัวบ้านที่ดูทันสมัยและอบอุ่น ราวกับพักอยู่ในย่านเลอมาเร่ส์ (Le Marais) ของปารีส
.
นอกจากการพิจารณาเรื่องทำเลที่น่าสนใจเพราะตรงไปเพียง 6 กิโลเมตรก็จะถึงย่าน CBD อย่างสีลม สาทร ตลอดจนการดีไซน์ฟังก์ชันการใช้สอยที่ตอบโจทย์ความต้องการแล้ว กานต์ว่าบรรยากาศสภาพแวดล้อมภายในโครงการก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะมันหมายถึงการรวมเอากลุ่มของคนที่มีความชอบ ไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน มาอยู่ร่วมกันในสังคมคุณภาพแห่งหนึ่ง
.
อย่างเช่นในส่วนของส่วนกลางก็ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรม “พระราชวังลักเซมเบิร์ก””ซึ่งตั้งอยู่ในสวนขนาดใหญ่ใจกลางกรุงปารีส รวมไปถึงน้ำพุของโครงการที่รับอิทธิพลมาจากน้ำพุเมดิชี เพื่อตอกย้ำความสวยงามและหรูหราของสวนลักเซมเบิร์กภายในส่วนกลางของโครงการซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
.
กานต์พาไปสัมผัสกับบรรยากาศของความเรียบหรูสไตล์ยุโรปและการพักอาศัยระดับ Luxury ที่ GRAMOUR SATHORN ติดตามเรื่องราวต่อด้านในได้เลยครับ
.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่
m.frasersproperty.co.th/WvWK
Line : @gm-st คลิก https://lin.ee/mYIVYXb
โทร 1520
ทันทีที่เข้าไปภายในโครงการ GRAMOUR SATHORN เราสามารถสัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ในการพักอาศัย ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ มีไฮไลท์คืออาคาร Clubhouse หรูบนพื้นที่ส่วนกลางที่ได้รับแรงบันดาลใจในการดีไซน์มาจากพระราชวังลักเซมเบิร์ก (Jardin du Luxembourg) ท่ามกลางบรรยากาศของสวนสวยที่มีขนาดใหญ่ โครงการได้ออกแบบให้มีระยะถอยร่นจากถนนหลักมากพอสมควร เป็นย่านที่อยู่อาศัยไม่มีอาคารสูงหรือโรงงานขนาดใหญ่ ตลอดเส้นทางจัดทำเป็นแนวต้นไม้ใหญ่คอยเป็น Buffer ช่วยป้องกันเสียงได้ดีทีเดียวครับ เมื่อขับรถเข้ามาในโครงการเราจึงแทบจะไม่ได้ยินเสียงรถราที่วิ่งอยู่ข้างนอกเลยครับ โครงการ GRAMOUR SATHORN ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 44 ไร่เศษ เอกสิทธิ์เพียง 194 ยูนิต เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กานต์คิดว่ามีความน่าสนใจ ด้วยความที่กานต์พักอาศัยอยู่ย่านนี้มานานเกินสิบปี จึงได้เห็นพัฒนาการของทำเลกัลปพฤกษ์ในปัจจุบัน ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น พูดง่ายๆ คือเจริญขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก จากที่เคยเป็นพื้นที่ป่ารกร้าง เมื่อมีถนนสายหลักตัดผ่่าน จึึงตามมาด้วยโครงการที่อยู่อาศัย โรงเรียน สถานพยาบาล ร้านอาหารชื่อดัง ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อมากมาย โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนกัลปพฤกษ์ ทำเลนี้มีข้อได้เปรียบคือ ใกล้ CBD เพียง 6 กิโลเมตรเราสามารถตรงเข้าสู่ใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร สีลมได้ในทันทีประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น ทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนหลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก, ถนนเอกชัย, ถนนเพชรเกษม, ถนนพระรามที่ 2, ถนนราชพฤกษ์, ถนนพุทธมณฑล ทั้งยังเชื่อมต่อกับทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านดาวคะนอง และทางด่วนศรีรัชฯ ด่านสุรวงศ์ ทำให้เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทำเลนี้ยังใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ เข้าสู่ใจกลางเมืองย่านสีลม สาทรได้ทันที นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อรถด่วน BRT ราชพฤกษ์เพื่อออกไปยังพระราม 3 ได้อีกด้วย GRAMOUR SATHORN นำเสนอความสง่างามเหนือกาลเวลา ที่มาพร้อมการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่กับการใช้งานภายในบ้านให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมดุลกับแต่ละวันตามความต้องการอย่างมีคุณภาพ เต็มไปด้วยรายละเอียดของการออกแบบบ้านสไตล์ยุโรปที่ประณีตจนกลมกลืนกับธรรมชาติ พร้อมทั้งผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีและการสร้างสรรค์ที่ดีที่เหมาะสมกับความต้องการในปัจจุบัน ระหว่างที่ขับรถมากานต์ก็สังเกตดูรอบโครงการ พบว่า ย่านนี้ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบและครบทุกไลฟ์สไตล์ ถ้าต้องการช้อปปิ้งแบรนด์เนมก็สามารถไปใช้บริการได้ที่ IconSiam หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไปอย่างเดอะมอลล์ ไลฟ์สไตล์สโตร์ท่าพระ, เดอะมอลล์ ไลฟ์สไตล์สโตร์บางแค, ซีคอน บางแค, Makro กัลปพฤกษ์, Home Pro กัลปพฤกษ์ และ Big C กัลปพฤกษ์ ก็ได้เช่นกััน ใกล้โครงการรายล้อมด้วยสถานพยาบาลชั้นนำที่คอยสร้างความอุ่นใจในการดูแลสุขภาพ อาทิ โรงพยาบาลพญาไท 3, โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี และโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตลอดจนมีทั้งสถานศึกษาชื่อดัง เริ่มตั้งแต่ โรงเรียนนานาชาติบริติชโคลัมเบีย, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม, โรงเรียนอัสสัมชัญ ดังนั้น GRAMOUR SATHORN จึงเหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาทางเลือกที่สะดวกมากในการตอบโจทย์ความต้องการในทุกวัย ด้านหน้าเป็น Main Gate ขนาดใหญ่เลือกใช้สีขาวซึ่งเป็นสีโทนสว่างจะได้ตัดกับขอบสีเทาทำให้ดูคลาสสิคและสอดรับกับงานดีไซน์ Clubhouse ของโครงการที่อยู่ถัดเข้าไปด้านใน ประตูหน้าเป็นรั้วรางเลื่อนแยกฝั่งเข้า-ออกชัดเจน ส่วนการรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะเน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูง โดยการเข้าออกของรถยนต์จะเป็นระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติ (License Plate Recognition) เพื่อช่วยจัดการรถยนต์ของลูกบ้านและแขกที่มาพบได้อย่างสะดวกง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมีระบบกล้อง CCTV โดยรอบโครงการ รั้วสูงรอบโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อสร้างความอุ่นใจ ภาพรวมของงานดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังลักเซมเบิร์ก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยพระนางมารี เดอ เมดิชี เราจึงเห็นมีน้ำพุเมดิชีเป็นองค์ประกอบของสวนส่วนกลางของโครงการที่นี่ด้วย งานสถาปัตยกรรมเป็นแบบ French Baroque ของยุโรปผสมผสานกับ Florentine Renaissance โดยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในด้านความสง่างามและสมดุลของรูปทรง ทว่าสถาปนิกของโครงการได้นำเส้นสายและรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์มาปรับรูปแบบใหม่ให้ดูมีความโมเดิร์นและทำให้อาคารดูโอ่อ่ามากยิ่งขึ้น ตัดทอนความอ่อนช้อยบางอย่างออกไป เช่น ออกแบบให้ Cornices (คิ้วบัวปูนปั้น) ที่เป็นเส้นสายและทรงโค้งแบบเรียบง่ายในบางจุด แต่ยังบ่งบอกถึงงานดีไซน์แบบยุโรปได้เป็นอย่างดี ใช้วัสดุอย่างเหล็กดัดสีดำขลิบทองเข้ามาเพื่อเพิ่มความหรูหรา Pilasters (เสาติดผนัง) มีดีไซน์ที่เรียบเนียนเป็นส่วนเดียวกันกับตัวอาคาร ประตูเป็นทรงโค้งสูง (Arch) ที่ได้รับอิทธิพลจากเรอเนซองส์ที่ดูทันสมัยขึ้น ด้านบนโดดเด่นด้วยหลังคาทรงโดมต่ำดูเป็นไฮไลท์ที่สวยงามซึ่งได้รับอิทธิพลจาก Palazzo Pitti ที่ฟลอเรนซ์ มีการเลือกโทนสีสว่างตัดกับสีดำของขอบเส้นหลังคาและงานตกแต่งเพื่อให้คงความคลาสสิคเอาไว้ ทันทีที่เข้าไปภายใน โครงการ GRAMOUR SATHORN เราสามารถสัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ในการพักอาศัยด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่โดยมีไฮไลท์คืออาคาร Clubhouse ที่มีดีไซน์สวยหรูอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ด้วยความที่ Clubhouse ออกแบบให้อยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการ เรียกได้ว่าเมื่อขับรถเข้ามาก็จะเจออาคารหลังใหญ่สไตล์ยุโรป ตั้งเด่นเป็นสง่าช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับแขกที่มารอพบได้ทันที ข้อดีก็คือทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและสร้างความปลอดภัยของผู้พักอาศัย หากมีแขกมาพบก็สามารถนัดหมายที่ Clubhouse ได้โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าไปภายในตัวบ้าน ออกแบบให้มีลานกว้างและพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือน การออกแบบพื้นที่ใช้สอยจะคำนึงถึงการใช้งานของลูกบ้านในทุกช่วงวัยได้ดี ดังนั้น ฟังก์ชันของพื้นที่ส่วนกลางจึงมีทั้ง Lobby Lounge, สระว่ายน้ำ Sundeck, Co-Working Space, Fitness, สวนและ Pet Society พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ให้เราสามารถพาน้องๆ ออกมาเดินเล่นนอกบ้านได้ เราเริ่มจากด้านหลังของ Clubhouse กันก่อนจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือที่มีขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็กพร้อมน้ำพุที่พ่นออกมาเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ด้านในสุดของสระจัดให้มี Sun Bed โต๊ะ เก้าอี้และร่มสนามกางไว้ให้ลูกบ้านได้นั่งผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติและลมเย็นๆ ที่พัดไอน้ำมากระทบผิวกายในวันหยุดสบายๆ เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มารอเด็กๆ เรียนว่ายน้ำหรือทำกิจกรรม ออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังมีโซนล้างตัวเป็นชาวเวอร์ให้อาบน้ำทำความสะอาด อยู่ด้านหน้าก่อนลงสระ มีห้องน้ำแยกสำหรับชาย-หญิง พร้อมห้องอาบน้ำและ Locker เก็บของด้านใน ด้านในแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งพื้นที่ชั้นล่างด้านขวาออกแบบเป็น Lobby Lounge ภายในจัดวางชุดโซฟาดีไซน์หลากหลายเพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ระหว่างนั่งพัก และยังจัดให้มีมุมแบบส่วนตัวที่กระจายออกไปทั่วบริเวณ บรรยากาศค่อนข้างโปร่งด้วยผนังกระจกสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน กรุขอบด้วยสีดำทำให้ตัดกับผนังสีขาวได้อย่างลงตัว Lobby Lounge ออกแบบสำหรับเป็นพื้นที่นัดพบพูดคุยทางธุรกิจสำคัญกับแขก โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน สามารถนัดให้มารอพบได้ที่สโมสรส่วนกลางได้เลยครับ อีกทั้งใช้เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนของลูกบ้านใช้งานร่วมกัน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกของแต่ละครอบครัวภายในโครงการ ปัจจุบันเป็นพื้นที่รับรองของสำนักงานขายโดยพร้อมส่งมอบให้นิติบุคคลดูแลต่อเมื่อสิ้นสุดการขายของโครงการครับ หากลูกบ้านต้องการใช้พื้นที่ในการพบปะแขกคนสำคัญก็สามารถมาใช้บริการที่ Co-Working Space ฝั่งตรงข้ามก่อนได้ซึ่งจัดที่นั่งเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน บรรยากาศภายใน Co-Working Space ติดกันเป็น Gym สามารถมองเห็นวิวของธรรมชาติภายนอก เน้นเอาใจคนรักสุขภาพสายแอคทีฟ มีทั้งโซนแมทชีนและ ฟรีเวท โดยทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายวางกระจายกันไปทั่วห้อง พร้อมติดตั้งพื้นรองรับการกระแทก จากภาพกว้างเราจะเห็นว่า พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีขนาดใหญ่และกระจายไปในหลายจุดเพราะให้น้ำหนักกับพื้นที่สีเขียว มีสนามหญ้าที่กว้างขวาง ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที รองรับทุกการทำกิจกรรมนันทนาการภายในครอบครัว ตอนเย็นๆ หลังเลิกงานก็สามารถมาวิ่งจ็อกกิงให้อะดรีนาลีนสูบฉีดได้ พื้นที่สวนส่วนกลางและ Clubhouse รวมประมาณ 1 ไร่ ได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงระหว่างสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ ทำให้ทุกองค์ประกอบของพื้นที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืน ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดตามสไตล์ยุโรปที่เน้นเรื่องอาร์ตเป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิต การจัดวางพรรณไม้เหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบทางภูมิสถาปัตย์ แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทุกครั้งที่เดินเข้าสู่ Clubhouse เราจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่สดชื่นและบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลาย สร้างความรู้สึกเย็นสบายทั้งร่างกายและจิตใจ เปรียบเสมือนการพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตท่ามกลางเมืองใหญ่อย่างปารีส ทำให้เราสัมผัสได้ทันทีถึงความสุขใจที่ได้อยู่ใต้ร่มไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้บริเวณพื้นที่รอบ Clubhouse และ Main Park ด้านหน้าโครงการ ฟังเสียงน้ำพุที่ตกกระทบ สมทบด้วยไม้ดอก ไม้พุ่มที่ปลูกกระจายออกไป สนามหญ้าสีเขียวที่กว้างใหญ่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที ช่วงเย็นเราสามารถจูงน้องหมามาเดินเล่น มานั่งเล่นหรือเดินออกกำลังกายเบา ๆ ช่วงเช้า ก็เป็น Vibes ที่สื่อถึงความเรียบง่ายในการอยู่อาศัย ภายใต้ทำเลที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพจริงๆ โครงการจัดให้มีลานสนามหญ้าที่กว้างขวาง เพื่อกระตุ้นให้ลูกบ้านตัวเล็กได้ออกมาใช้ชีวิตสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้านบ้าง เน้นให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ชวนกันออกไปรับวิตามินดีในวันที่อากาศเป็นใจ มีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น เดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศของสวนและต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่อีกด้วย เราสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นบริเวณสวนได้ เพราะออกแบบให้มี Pet Society หรือจะมาทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างคุณพ่อ คุณแม่กับเด็กๆ ก็สนุกสนานดีเหมือนกัน สามารถมานั่งปิคนิก อ่านหนังสือหรือออกกำลังกายกลางแจ้งเช่น โยคะ เมดิเทชั่น บริเวณลานด้านหน้าน้ำพุเมดิชีได้ เสียงน้ำตกกระทบก็พลอยทำให้เราสดชื่นสบายใจ Clubhouse จึงกลายเป็นจุดศูนย์รวมของคอมมูนิตี้ของผู้คนในระดับเดียวกันที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยมอันเลอค่า มีเสน่ห์และน่าหลงใหล เป็นการมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับให้กับทุกครอบครัว จาก Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลาง เราพาเดินไปชมบ้านตัวอย่างกันต่อครับ งานดีไซน์ของบ้านภายในโครงการ GRAMOUR SATHORN ได้รับแรงบันดาลใจจากการนำเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมยุโรป เข้ามาใช้ในการออกแบบ ลดทอนงานตกแต่งให้ดูเรียบขึ้น ทันสมัยมากขึ้น เน้นการใช้สีบ้านเป็นสีสว่าง ตัดกับเฟรมประตูและหน้าต่างที่มีสีเข้ม เพื่อสื่อให้เห็นถึงความเรียบหรู คลาสสิคของตัวบ้านที่ดูทันสมัยและอบอุ่น… โครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ -แบบบ้าน Sailhant (เซลฮานท์) | บ้านแฝด 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35.7 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ มาพร้อมพื้นที่เพนท์เฮ้าส์ และห้องซัก-ตาก-รีด -แบบบ้าน Munich (มิวนิก) | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 253 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ มาพร้อมห้องซัก-ตาก-รีด และพื้นที่ Semi Outdoor Garden… แบบบ้าน Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก) | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 66 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 284 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ มาพร้อม Double Volume, ห้องซัก-ตาก-รีด, ห้องแม่บ้าน และพื้นที่ Multifunction ซึ่งเป็นแบบบ้านที่เราพามารีวิวกันในพาร์ทนี้… ลานจอดรถด้านหน้าบ้านปูพื้นด้วย Stamp Concrete โครงการยังได้ติดตั้งโซล่าเซลล์ให้ที่บ้านทุกหลังเพื่อช่วยให้ลูกบ้านประหยัดค่าไฟฟ้า และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกันขโมยทุกประตูและหน้าต่าง ระบบไซเรน 2 จุด ทั้งภายในและภายนอกบ้าน… ประตูทางเข้าบ้านหลักเป็นบานกระจกใสกรุขอบสีดำ สามารถเปิดกว้างได้ทั้ง 2 บาน กานต์ว่าสะดวกมากเลยครับหากเราต้องการขนของชิ้นใหญ่เข้าบ้าน หรือสำหรับบ้านที่มีผู้พักอาศัยจำเป็นต้องใช้รถเข็นวีลแชร์ก็จะอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น มือจับประตูเป็นแบบด้ามจับคันโยก ส่วนประตูอีกจุดสามารถเข้าได้จากโรงจอดรถ ซึ่งจะเชื่อมต่อเข้าครัวได้ทันที นับว่าสะดวกดีครับเวลาที่เราซื้อของมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก็สามารถตรงเข้าครัวได้ทันที… พื้นที่ภายในบ้านดีไซน์แบบ Multifunction ที่สามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ และการใช้งานที่หลากหลาย มาพร้อม Double Volume ระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 เพื่อเพิ่มความหรูหรา และความโอ่โถงให้กับตัวบ้าน ทำให้ความรู้สึกแรกหลังจากเปิดประตูเข้าสู่ภายในบ้านคือความโล่งโปร่งสบายทันทีที่กลับมาถึง Common Area มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยมุมรับแขกที่โดดเด่นด้วยผนังกระจกใสแบบเข้ามุม 3 ด้าน ทำให้เปิดมุมมองภายในบ้านสู่ภายนอกได้กว้างกว่า อีกทั้งมุมนี้ยังมีบรรยากาศค่อนข้างโล่ง เปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาแ… เมื่อเข้ามาด้านใน เราจะพบกับการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกคนภายในบ้านได้ดีโดยมีไฮไลท์คือ Common Area กลางบ้าน ซึ่งออกแบบให้ Living & Dining Area เชื่อมต่อกัน จัดงานเลี้ยงได้สบายเลยครับ สามารถใช้พื้นที่ทั้งหมดได้ในคราวเดียว พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ ทำให้บ้านดูหรูหรา บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่เน้นสีเทาควันบึุหรี่ตัดกับหมอนอิงสีน้ำทะเล ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นสบายตา หากใครชอบอาร์ตก็สามารถหางานศิลปะระ… ข้อดีอีกอย่างคือรองรับการใช้พื้นที่แบบ Semi-Outdoor จัดปาร์ตี้บาร์บีคิวกันได้สบายๆ หรือหากไม่ได้ใช้ก็แนะนำให้จัดเป็นสวนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน เป็นการสร้างความเพลิดเพลินระหว่างมื้ออาหารไปด้วยได้ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีพื้นที่รอบบ้านด้านหน้าและด้านข้างเหลือเยอะ สามารถจัดสวนขนาดใหญ่ ออกแบบให้มีน้ำตกและ Pavilion สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจก็ทำให้การอยู่บ้านของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้น… หน้าบ้านยามเช้าจึงออกแบบให้มี Terrace เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้เราได้ทำกิจกรรมเบาๆ นอกบ้าน เช่น จิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ตอนเช้า จะทำโยคะรับอรุณก็ได้ หรือออกกำลังกายเวิร์คเอ้าท์ตอนเย็นหลังเสร็จงานก็ดี เพราะเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยครับ… ด้วยความที่สถาปนิกใช้หลักการออกแบบ Open Plan โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ ความชอบและการใช้งานร่วมกันของสมาชิกในครอบครัวแต่ละหลังซึ่งอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกัน เราจึงสามารถใส่ไอเดียในการตกแต่งบ้านได้มากมาย เติมเต็มจินตนาการได้ไม่รู้จบ ดังนั้น จะเห็นว่าการออกแบบโถง Common Area จะไม่มีเสากลางบ้าน ทำให้บ้านดูกว้างและเราได้ใช้เต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้น… บ้านตัวอย่าง ออกแบบมุมบ้านด้านในให้เป็นพื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ 6-8 ที่นั่ง มีไฮไลท์คือผนังกระจกใสมองเห็นสวนรอบบ้าน ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร… ติดกันเป็น Pantry สำหรับเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร ใช้เป็นเคาน์เตอร์ทานอาหารเช้าสำหรับเด็กๆ ก่อนไปโรงเรียนตอนเช้า เป็นมุมบาร์จิบเครื่องดื่มสังสรรค์กันเบาๆ ก่อนกินข้าวหรือจัดปาร์ตี้เพราะมีพื้นที่อยู่ติดกับสวนด้านนอกบ้าน ทำให้เป็นบ้านที่ออกแบบบรรยากาศภายในได้ดี เหมาะต่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่เป็นรางวัลให้กับชีวิต… “𝑸𝒖𝒂𝒏𝒅 𝒍𝒆 𝒗𝒊𝒏 𝒆𝒔𝒕 𝒕𝒊𝒓é, 𝒊𝒍 𝒇𝒂𝒖𝒕 𝒍𝒆 𝒃𝒐𝒊𝒓𝒆.”… ถัดเข้าไปด้านในเป็นครัวไทยแบบปิด ป้องกันกลิ่นย้อนกลับเข้ามาภายในบ้านและทำให้สะดวกยิ่งขึ้นในการจัดเตรียมและเสิร์ฟอาหาร โครงการจัดวางเคาน์เตอร์โดยรอบห้องครัวโดยเว้นพื้นที่ช่วงประตูเอาไว้มีเคาน์เตอร์ครัวท็อปหินแกรนิตสีดำ พร้อม Sink และ Hood มาให้ตามบ้านมาตรฐาน อีกทั้งยังให้ความเป็นส่วนตัวเพราะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Back of House ทางเข้าออกของแม่บ้านด้านหลังบ้านจะเป็นลานซักล้าง ที่มีการเตรียมงานระบบน้ำ-ไฟให้เรียบร้อย พร้อมทั้งติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำบนดินมาให้แล้วครับ ติดกันจะเป… เราเดินขึ้นบันไดไปชมชั้นสองของบ้านกันต่อครับ บันไดออกแบบให้อยู่ช่วงกึ่งกลางของบ้าน โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งลูกตั้งลูกนอนเป็นลายไม้สีน้ำตาลเข้ม ราวกันตกเป็นเหล็กดัดทาสีดำ ส่วนมือจับเป็นลายไม้เข้ากันดี บริเวณชานพักเป็นพื้นที่รูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง ระหว่างชานพักมีหน้าต่างเปิดช่องแสงจากธรรมชาติเพื่อช่วยส่องสว่างบริเวณบันได ประดับด้วยแชนเดอร์เลียบนฝ้าที่สูงแบบ Double Volume ทำให้บ้านดูสูงโปร่ง เชื่อมฟังก์ชันการใช้งานด้วยระเบียงชั้น 2 ที่มอง… โถงกลางบ้านมาพร้อมกับมุม Bar ซึ่งอยากบอกว่าฟีลดีมาก ออกแบบให้มีกลิ่นอายของเฮ้าส์คลับในยุโรป สำหรับนั่งดื่มเบาๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ กับคนในครอบครัว หรือจัดเลี้ยงในวันพิเศษของครอบครัวและเพื่อนสนิท… ติดกันเป็นห้องนอนตามบ้านมาตรฐาน แต่บ้านตัวอย่างดีไซน์เป็นไอเดียที่เอาใจคุณผู้ชายด้วยการออกแบบให้เป็น Entartainment Room ห้องดูหนังสุดหรูแบบส่วนตัวภายในบ้าน ตกแต่งด้วยสีแดงบุกำมะหยี่เอาไว้เป็นห้องสำหรับนอนดูซีรีย์เรื่องโปรดพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเลยครับ อยากจะจิบเครื่องดื่มก็สามารถออกไปที่บาร์ด้านนอกได้เลยแล้วมาเอนจอยต่อกันด้านใน ถือเป็นจุดที่ดีมากเพราะว่่าสถาปนิกออกแบบมาเผื่อไว้สำหรับให้เราปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานแต่ละห้องให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ ความต้องการและความจำเป็… ปีกซ้ายของบ้านจะเป็น Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ห้องนอนจัดวางเตียงนอนไว้เกือบริมผนังด้านใน หัวเตียงบุนวมเน้นสีน้ำตาลอ่อนทำเป็นลายเส้นขลิบขอบด้วยกระจกเงาสีทองดูเรียบหรู พร้อมโคมไฟส่องสว่างตั้งไว้ที่บริเวณหัวเตียง… ปลายเตียงมีโซฟาที่นั่งสำหรับดูทีวี เป็นพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องนอน สำหรับนั่งพักผ่อน อ่านหนังสือหรือดูทีวี ให้เราได้พักผ่อนในเวลาที่ต้องการอย่างเต็มที่กับช่วงเวลาที่มีความเป็นส่วนตัว หรือในช่วงเวลาก่อนนอน… ผนังกระจกที่รายรอบทำให้ห้องนอนหลักค่อนข้างโปร่ง สบาย หน้าต่างบานสไลด์สามารถเปิดออกเพื่อรับลมและถ่ายเทอากาศได้ ทำให้ภายในห้องดูโปร่ง เป็นห้องนอนที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนสบายๆ ในบรรยากาศแบบส่วนตัว เป็นการจัดวางแปลนห้องให้เหมาะแก่การพักผ่อนในพื้นที่ของเราจริงๆ… ด้านในเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ ส่วนห้องแต่งตัวจะอยู่เชื่อมต่อกันเป็นแบบ Walk-in Closet ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ไว้สูงจากพื้นจรดเพดานเอาไว้ ภายในออกแบบให้มีตู้และชั้นวางที่สามารถจัดเก็บเสื้อผ้า แอคเซสเซอรี่ กระเป๋าได้จุใจ ทำให้เราสามารถจัดเก็บเสื้อผ้าได้เยอะมากและแยกการใช้งานของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงได้อย่างเป็นสัดส่วน… มุมแต่งตัวจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำที่กานต์มองว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านหลังนี้ ที่อยากจะเน้นคือการให้ Space ขนาดใหญ่กับห้องน้ำภายในห้องนอนเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว… ภายในห้องน้ำติดตั้งอ่างอาบน้ำพร้อมกับแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งให้เรียบร้อย มีหน้าต่างที่เปิดออกได้เพื่อระบายอากาศและไล่ความชื้น ติดกันเป็น Shower Box สำหรับอ่างน้ำ อีกฝั่งจะเป็นสุขภัณฑ์ ด้านหน้าห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ เราว่าฟังก์ชันแบบนี้สะดวกดีครับ สามารถอาบน้ำแล้วแต่งตัวให้จบภายในโซนได้เลย… โถงบันไดทางขึ้นชั้น 3 มองจากมุมนี้ขึ้นไปได้ฟีลเรสสิเดนท์ใจกลางปารีสมากๆ ครับ โดดเด่นด้วยบันไดที่วนขึ้นไปจนเจอกับโถงกลางบ้าน ประดับด้วยแชนเดอร์เลียร์ทรงกลมที่ให้อารมณ์วินเทจนิดๆ ทำให้บ้านดูคลาสสิคยิ่งขึ้น… โครงการ GRAMOUR SATHORN ออกแบบห้องนอนให้เป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง อย่างเช่นห้องนอน ที่อยู่ชั้น 3 ก็เช่นกัน ข้อดีก็คือเมื่อขึ้นไปชั้นสูงจะค่อนข้างเงียบทำให้ได้เปรียบเรื่องความสงบและความเป็นส่วนตัว ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล เทา ดำ ทำให้ดูเรียบง่ายให้อารมณ์พักผ่อน ภายในห้องนอนจัดวางฟังก์ชันได้อย่างเป็นสัดส่วน ค่อนข้างลงตัว… ด้านในสุดออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อน จัดวางเตียงนอนไว้เกือบชิดผนัง หัวเตียงมีคาบิเนทเล็กๆ ทั้งสองฝั่งสำหรับวางสิ่งของเช่่นหนังสือที่อ่านค้างไว้ในช่วงก่อนนอน หรือชาร์ตแบตมือถือทิ้งไว้ได้เพราะออกแบบให้มีปลั๊กซ่อนอยู่ข้างใต้ ส่วนปลายเตียงเป็นพื้นที่นั่งทำงานออกแบบสไตล์อาร์ตทิสรุ่นใหม่ ดีไซน์ให้เป็นเคาน์เตอร์ยาวพร้อมเก้าอี้ สามารถนั่งทำการบ้าน เล่นเกมหรือทำกิจกรรมส่วนตัวที่ชอบภายในห้องได้เลยครับ นับว่าสะดวกมาก อีกด้านจัดวางตู้เก็บของขนาดใหญ่ดีไซน์โมเดิร์น… ด้านหน้าทางเข้าห้องจะเป็นโซนแต่งตัว แต่งหน้าและมีห้องน้ำในตัว โดยมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำติดตั้งไว้ให้ดูเป็นไอเดีย… ชั้นนี้ถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของบ้าน โครงการจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบ Connecting Space ฟังก์ชันสำคัญที่เชื่อมต่อการใช้งานของห้องหับต่างๆ ภายใน ตลอดจนการเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกับภายนอกบ้านได้อย่างกลมกลืนผ่านกระจกใส มองเห็นต้นไม้ใบหญ้า ท้องฟ้าและนกบิน ดูงดงามราวกับภาพวาดประดับฝาผนังที่มีชีวิต ห้องนอนอีกห้องจะอยู่ฝั่งตรงข้ามต้องเดินผ่าน Family Area ซึ่งเป็น Privacy Function เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับสมาชิกในครอบครัว บ้านตัวอย่างออกแบบมาให้เป็นมุมพักผ่อน มีมุมนั่งทำงาน ทำก… ฝั่งตรงข้ามออกแบบให้มีเคาน์เตอร์เล็กๆ มีตู้ปิดสำหรับติดตั้งตู้เย็นเอาไว้จัดเก็บเครื่องดื่มซึ่งเราว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก จะได้ไม่ต้องลงบันไดลงไปยังชั้นล่างในตอนกลางคืน อีกทั้งยังมีมุม Laundry ที่ยกขึ้นมาไว้ด้านบนอีกจุด สะดวกดีเหมือนกัน เพราะให้ฟีลเหมือนอยู่เพนท์เฮ้าส์ใจกลางปารีส… อีกหนึ่งห้องนอนบนชั้น 3 ตกแต่งในสไตล์สาวปารีเซียงหวานๆ เต็มไปด้วยสีสันที่สดใส ความโรแมนติก เปี่ยมด้วยบทกวีที่ให้กลิ่นอายสีชมพูดูสดใส ห้องนี้จะอยู่ที่ฝั่งด้านหน้าบ้าน กานต์ค่อนข้างชอบเพราะเป็นห้องมุม ผนังเปิดช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าบ้านส่องผ่านเข้ามาสู่เตียงนอนได้ทันที ห้องนี้จึงดูโปร่ง โล่งอยู่สบายไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้ สว่างไสวจนแทบไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลยครับ แต่ถ้าอยากให้ได้ความมืดก็สามารถติดตั้งผ้าม่านมาปิดได้… บ้านตัวอย่างออกแบบจัดวางฟังก์ชันภายในได้ค่อนข้างลงตัว จัดวางเตียงนอนไว้ด้านในสุดริมหน้าต่างเปิดช่องแสงเข้ามาภายใน มีพื้นที่ว่างเดินได้รอบเตียง พร้อมโต๊ะหัวเตียงดีไซน์วินเทจ หัวเตียงบุนวมพร้อมปีกซ้ายขวาให้ความรู้สึกหรูหรา โคมไฟห้อยลงมาจากเพดานส่องสว่างตอนก่อนนอน ผนังหัวนอนกรุด้วยคิ้วบัวสไตล์ยุโรป ส่วนตัวชอบการเลือกใช้โทนสีที่ดูมีเสน่ห์และไม่ค่อยพบเห็นจากโครงการไหนมากนักคือเป็นโทนชมพู เทาเป็นหลักดูมีความยูนีคเป็นตัวของตัวเองสูงตามสไตล์ห้องนอนคนรุ่นใหม่… ติดกันเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรปแบบย้อนยุค มีตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานวางชิดติดกันอยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ถัดเข้าไปด้านใน เป็นห้องน้ำที่ให้มาครบทั้งอ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์และมุมฝักบัวอาบน้ำ สิ่งที่เราชอบคือการออกแบบตกแต่งภายในที่คำนึงถึงความโปร่งสบาย เวลาไปทำงานหรือเดินทางกลับจากต่างประเทศมาเหนื่อยๆ พอมาถึงบ้านแล้วรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายมากเลยครับ… #สรุป GRAMOUR SATHORN เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านสไตล์ยุโรปดีไซน์สวย ได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังลักเซมเบิร์ก ฟีลเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตหรูทุกวัน บรรยากาศดีด้วยพื้นที่สีเขียวรายรอบ ภายในบ้านฟังก์ชันจัดเต็มพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์และความต้องการ ที่สำคัญ ตั้งอยูบนทำเลศักยภาพ เข้าสู่ย่าน CBD อย่าง สีลม สาทรเพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้นและยังเชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสาย ทำให้การใช้ชีวิตของเราสะดวก สบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นครับ ดูรายละเอียดเ…