Dinner @PAPILLON U Pattaya

IMG_7847 1.
เวลาพักผ่อนที่โรงแรมเกร๋ๆ หลายคนคงใจตรงกันว่า “กินข้าวเย็นที่โรงแรมนี่แหละ” สะดวกดี
วันพักผ่อน อารมณ์นอนแช่ ก็คงไม่อยากจะออกไปไหน อย่างที่ยูพัทยา ทำให้ผมรู้สึกว่า
“ขี้เกี๊ยจจจ ขี้เกียจ (เสียงสูง)

พัทยาก็ไปมาทะลุปรุโปร่ง ก่อนเข้าโรงแรมก็แวะเจ๊จุกมาแล้ว (สาขา 4 ใกล้โรงแรมยูพัทยาเลยครับ)
กลางคืน ผมจึงเลือกมาทานดินเนอร์ที่ห้องอาหาร “PAPILLON” by U Pattaya

IMG_7850
กว่าผมจะเล่นน้ำเสร็จ กลับไปอาบน้ำอาบท่า เสด็จออกมาจากห้องพัก ก็ราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง
แขกเริ่มซาละ … ก็ดีเหมือนกันครับ จะได้ตั้งท่าถ่ายรูปได้ถนัดๆ หน่อย (จริงๆ ก็เขิลนะ)
หิวละ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ขอสั่งอาหารก่อนเลยครับ

IMG_7834
เมนูที่นี่มีทั้งอาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งเศส และครัวอาหารไทยครับ
เอาเข้าจริง ผมเป็นคนติดในรสชาตของความแซ่บนะ แต่ถึงกระนั้น ก็ลองสั่งมาทั้ง 2 แบบละกัน

2.

IMG_7841
จานแรกของเซตฝรั่ง ผมสั่ง Crispy Fried Calamari (ปลาหมึกชุบแป้งทอดสไตล์ฝรั่งเศส) มาเป็น Appetizers (290 บาท) มาพร้อมกับดิป 3 แบบ บีบเลม่อนใส่ไปหน่อย อร่อยดี แต่ไม่มีอะไรว๊าววววววว

IMG_7840
ซุปผมไม่สั่ง ไม่ชอบ (จริงๆ เล็งซุปแบบไทยๆ เอาไว้เดี๋ยวเฉลยให้ฟัง) จานต่อมาเป็น Main Course สั่ง Pan-Fried Sea Bass (ปลากระพงย่างเสิร์ฟกับหอยแมลงภู่ กุ้งและข้าวริซอสโต้ – 450 บาท)
ขอออกตัวเอี๊ยดด ว่าอาหารฝรั่งอาจจะไม่สันทัดในการรีวิวสักเท่าไร แต่เท่าที่ทานมาในหลายๆ ร้าน ก็พอทำให้ทราบความแตกต่างบ้าง อย่างริซอสโต้ของที่นี่ มาแบบเนื้อเนียนนุ่มดี ข้าวไม่เละจนเกินไป มันควรจะมีไตนิดๆ แบบ al dente ในสปาเกตตี้น่ะครับ
เทคนิคที่ผมพอทราบก็คือ ต้องค่อยๆ ใส่น้ำซุปลงไป ทีละนิดๆ ค่อยๆ ให้ข้าวดูดซึมเอาความหอมหวานมันของซุปเข้าไป เติมซุปและหมั่นคน สักพักข้าวจะพองตัวขึ้นมาสวยงาม

IMG_7839
และอีกจานสั่ง Duck Confit (น่องเป็ดตุ๋น) มาด้วย (450 บาท) ถ้าผมจำไม่ผิด เพราะไม่ค่อยแม่นฝรั่งเศสเท่าไร แต่ Confit จะอ่านว่า กงฟีต์ เป็นวิธีการปรุงของอาหารฝรั่งเศสครับ คือการตุ๋นด้วยน้ำมัน ความร้อนต่ำ ต้องคอยควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันไม่ให้ถึงจุดเดือด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
ข้อดีก็คือจะทำให้เนื้อสัมผัสของอาหารและ texture ไม่สูญเสียไป จากนั้นค่อยเอาไปทอดให้หนังกรอบ … ซึ่งกรอบมว๊ากกกกก กินกับมันฝรั่งทอด อร๊อยยยยย อร่อย (เสียงสูงอีกละ)

3.
แต่อย่างที่บอก (โผมช๊อบทันอาหันทายยยย-ทำเสียงเลียนแบบฝรั่ง) จึงสั่งอาหารไทยมาสบทบครับ
ข้ามอาหารเรียกน้ำย่อยไปเลยละกัน เพราะน้ำย่อยทำงานอย่างหนักหน่วงมากตอนนี้
ตัดภาพมาที่ฝั่งอาหารไทย ที่ลองสั่งนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ อยากจะเทสว่า เชฟทำอาหารไทยได้ตรงตามขนบไหม (ไม่ได้มาโปรโมทหนังเรื่อง “พริกแกง” นะ)
แต่อยากรู้ว่า ทำให้ฝรั่งกิน หรือใครกิน สั่งอาหารมาตามนี้

IMG_7830
Grilled Beef Salad (ยำเนื้อย่าง – 290 บาท) มาจานอย่างใหญ่ รสชาตดีเลยนะครับ ผมชอบยำแบบนี้ แบบที่มะนาว น้ำปลา น้ำตาลและรสเผ็ดของพริก แย่งกันทำหน้าที่ พลุ่งพล่านอยู่ในปากเมื่อตักเข้าไป เสียดายนิดเดียวตรงที่เนื้อชิ้นหนาไปนิด แต่ปรุงรสออกมาได้ดีมากครับ

IMG_7835
มาถึงซุปแบบไทยที่เกริ่นไปข้างต้น ผมสั่ง Tom Kha Maprow On (โท้มคาม้าพ้าวววออน – 290 บาท) ในเมนูเขียนแบบนี้จริงๆ ครับ ที่สั่งเพราะวันก่อนดูสารคดีญี่ปุ่น เค้าแข่งกันทำอาหารไทยโดยใช้มะพร้าว แล้วมีการทำต้มยำโดยใช้น้ำมะพร้าว เลยคิดว่าน่าสนใจ เห็นมีในเมนูจึงลองสั่ง
เครื่องเครางานดีมาก ซีฟู๊ดจัดเต็ม ข่าตะไคร้ดาหน้ามาเพียบ ซดน้ำไปคำแรก อร่อยมากครับ รสไม่จัดจ้าน มันมีความกลมกล่อมอยู่ข้างในแบบนุ่มๆ ด้วยรสมะพร้าว ติดใจมาก อยากขอซื้อกลับบ้านไปสักหม้อ

IMG_7836
ปิดท้าย ความเป็นไทย ด้วย “ผัดไทกุ้ง” (Phad Thai Goong – 250 บาท) เมนูเขียนทับศัพท์มาแบบนี้เลย นัยว่าเอาไว้ให้ฝรั่งสั่งได้เข้าใจง่าย จัดจานมาอย่างสวยครับ ไข่งี้มาเป็นแผ่นลายเส้นสวยงามตามท้องเรื่อง แต่ติดนิดเดียว เส้นแข็งไปหน่อย หรือผมมัวแต่แอ๊กท่าถ่ายรูปนานไปนิด เลยออกเซ็งๆ จานนี้ไม่ผ่านครับ

“รับของหวานด้วยมั้ยครับ” บริกรถาม “แนะนำเป็น ช็อตโกแลตลาวาครับ” (220 บาท)

รอภูเขาระเบิดไป 3 ลูกยังไม่มา ถามได้ความว่า “ลูกแรกมันแตกครับ” เชฟเลยทำให้ใหม่ รับรองไหลไส้ทะลักแน่ๆ

จริงๆ อิ่มมาก แต่ก็อยากทานของหวานปิดท้าย อ๊ะ รอได้ จัดมา

IMG_7845
แหวกมาครั้งแรก ลาวาสีดำพุ่งเลยครับ รสชาตดีพอใช้ ไม่ถึงกับติดใจ (หรืออิ่มเกินไปแล้วก็ไม่ทราบได้) จริงๆ ผมชอบน้ำผลไม้มากกว่านะ แต่ไม่เอาละ สั่งไปเยอะมากวันนี้ ทาน 2 คน สั่งเหมือนมากันทั้งตำบล!!

อ่อ!! ไม่ต้องแปลกใจที่ผมจำราคาได้แม่นนะครับ ผมแอบถ่ายเมนูมาด้วย จะได้เล่าไม่ผิด 555+

4.
สรุปมื้อค่ำวันนี้ อาหารรสชาตโดยรวมถือว่างานดีเลย ถามว่าอิ่มมั้ย … ก็แน่นท้องเลยล่ะครับ แต่บรรยากาศมันดี๊ดี นั่งชิลล์ เพลินๆ ได้จนดึก
แต่สิ่งที่ประทับใจกลับไม่ใช่เรื่องอาหารเป็นหลักครับ นอกจากบรรยากาศริมทะเลสบายๆ แล้ว ก็เห็นจะเป็น “การบริการจากบริกร” นี่แหละครับที่เป็นปัจจัยเสริมทำให้เราทานข้าวได้อย่างสบายอารมณ์ ไม่หงุดหงิด
พนักงานที่ U Pattaya ถือว่าเฟรนด์ลี่มีความเป็นกันเองสูงมากครับ เหมือนเรามาทานข้าวบ้านเพื่อน แล้วพ่อเพื่อนเดินมาถามตลอด ว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาหารพอทานได้ไหม แล้วก็เทคแคร์ดูแลอย่างดี … ผมว่าสิ่งเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ

ทำให้เราสามารถจ่าย Service Charge 10% ได้โดยไม่มีข้อกังขา

แถมบิลคิดเงินออกมาผมยังติดทิปให้อีก 100 นึง!!


IMG_7850

KΔNT
KΔNT

อดีตผู้ประกาศข่าวสายเศรษฐกิจ เจ้าของเพจ KANT.CO.TH ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวพักผ่อน ในโรงแรมหรู สนใจเรื่องราวงานดีไซน์ อสังหา การตลาด การลงทุน